svasdssvasds

"มนพร" เผยพ.ร.บ.ตั๋วร่วม ผ่านแล้ว 'รถไฟฟ้า 20 บาท' ถ้ารัฐบาลไม่ทำ เพื่อไทยทำเอง

"มนพร" เผยพ.ร.บ.ตั๋วร่วม ผ่านแล้ว 'รถไฟฟ้า 20 บาท' ถ้ารัฐบาลไม่ทำ เพื่อไทยทำเอง

"มนพร" เผย 15 ปีที่รอคอย พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ ผ่านวุฒิสภาแล้ว ถ้ารัฐบาลอนุทิน ไม่ทำ ‘รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย’ ก็ไม่เป็นไร ‘เพื่อไทย’ กลับมาเป็นรัฐบาล พรรคเพื่อไทยจะทำเอง!

ที่ประชุมวุฒิสภา ได้มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. .... (หรือ พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ) ในวาระ 2-3 ผลปรากฎว่าที่ประชุมวุฒิสภาได้เห็นชอบกับร่าง พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ โดยมีจำนวนผู้ลงมติ 148 เสียง เห็นด้วย 144 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง และไม่ลงคะแนน 1 เสียง นอกจากนี้วุฒิสภายังเห็นด้วยกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการ จากนี้ จะได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ และประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาเป็นลำดับต่อไป

นางมนพร เจริญศรี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ให้สัมภาษณ์ภายหลังวุฒิสภาผ่านร่าง พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ ว่ารู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง ที่วุฒิสภาผ่าน พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ แล้ว เพราะ พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ คือกฎหมายที่สำคัญ 1 ใน 3 ฉบับที่จะช่วยสนับสนุนนโยบาย "รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย" ให้สามารถเกิดขึ้นจริงได้ ซึ่งกฎหมายสำคัญ 3 ฉบับนี้ ได้แก่  

  • พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม
  • พ.ร.บ. การขนส่งทางราง
  • พ.ร.บ. การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)  

ซึ่งทั้ง 3 ฉบับได้ผ่านความเห็นชอบที่ประชุมวุฒิสภาเสร็จสิ้นแล้ว

 ในกฎหมายทั้ง 3 ฉบับนี้ พ.ร.บ.ตั๋วร่วมเป็นกฎหมายที่สำคัญที่สุด ซึ่งจะทำให้เกิดระบบตั๋วร่วมใบเดียวใช้ได้ทุกสาย เพราะในกฎหมายนี้ จะให้มีการจัดตั้งกองทุนตั๋วร่วมเพื่อบริหารค่าโดยสารส่วนต่าง ทำให้สามารถกำหนดค่าโดยสารสูงสุด 20 บาทตลอดสายได้ โดยไม่กระทบผู้ประกอบการ และเมื่อภายหลังจากที่ประกาศบังคับใช้ในราชกิจจานุเบกษาเป็นกฎหมายแล้ว หากรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล จะไม่ทำก็ก็ไม่เป็นไร แต่พรรคเพื่อไทยขอประกาศไว้เลยว่า เมื่อกฎหมายพร้อมแล้ว หากพรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาล พรรคเพื่อไทยจะกลับมาทำรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายเอง

ถือเป็นประวัติศาสตร์ ที่คนไทยรอคอยระบบตั๋วร่วมมานานกว่า 15 ปี และไม่มีใครทำสำเร็จได้มาก่อน นอกจากพรรคเพื่อไทย ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมมือกันผลักดันอย่างเต็มกำลัง

ตั้งแต่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ให้นโยบายอย่างชัดเจนมาแต่ต้น นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่นำนโยบายจากนายกรัฐมนตรี มากางเป็นแนวทางการดำเนินงานที่ต้องรู้ว่าต้องแก้กฎหมายฉบับไหน และดำเนินการอย่างไรจนการแก้กฎหมายลุล่วงมาถึงวันนี้

รวมทั้งท่านสุรพงษ์ ปิยะโชติ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมซึ่งท่านกำกับดูแลด้านการรางโดยตรง ท่านต้องช่วยประสานทุกฝ่ายและติดตามขับเคลื่อนให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขยับดำเนินการไปพร้อมกันจนได้ร่างกฎหมายออกมาไล่เลี่ย พร้อมขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภา ที่ช่วยกันพิจารณาอย่างเข้มแข็งจนกฎหมายได้ผ่านวุฒิสภาทั้งหมดและรอการประกาศใช้ต่อไป

related