เสียหายต่อคนอันดับ 9 ของโลก! วิกฤตสแกมเมอร์ เหยื่อไทยสูญเงิน ฉุดเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นถดถอย หากปล่อยไว้อาจถูกพิษแล่นเข้าสู่หัวใจประเทศ!
ณ เวลานี้ วิกฤตสแกมเมอร์ได้ยกระดับเป็นภัยคุกคามเร่งด่วนต่อประเทศ ไม่ใช่แค่ในระดับบุคคล แต่ยังส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจมหภาคและความเชื่อมั่นของนานาชาติ ข้อมูลจาก The Global Anti-Scam Alliance ชี้ว่า ประเทศไทยติดอันดับที่ 9 ของโลก ในฐานะเหยื่อที่สูญเสียเงินจากสแกมเมอร์มากที่สุด ด้วยมูลค่าความเสียหายเฉลี่ยต่อคนสูงถึง 37,000 บาท ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา
ตัวเลขความเสียหาย 37,000 บาทต่อคน สะท้อนถึงบาดแผลทางเศรษฐกิจที่ใหญ่หลวง ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า เครือข่ายธุรกิจสแกมเมอร์ ซึ่งเชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กาสิโน และการฟอกเงิน อาจมีมูลค่าธุรกรรมสูงกว่า 1 ล้านล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็นประมาณ 10% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) รองศาสตราจารย์ ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช เปรียบเทียบว่า ธุรกิจนี้ทำหน้าที่เป็น "ตัวฉุดรั้งศักยภาพ" ทำให้ GDP ที่แท้จริงของไทยต่ำกว่าที่ควรจะเป็นถึง 10%
เบื้องหลังความเสียหายคือเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ส่วนใหญ่มีต้นตอจากจีน และใช้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนและเมียนมา เป็น "ฐานที่มั่น" ในการดำเนินการหลอกลวง
กลโกงที่ใช้บ่อยคือ “Pig Butchering” (หลอกเชือดหมู) ซึ่งผสมผสานการหลอกลวงด้านความรัก (Romance Scam) กับการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี มิจฉาชีพสร้างความผูกพันทางอารมณ์กับเหยื่อที่เหงาและเปราะบาง จากนั้นชักชวนให้ "ลงทุน" ในเว็บไซต์ปลอม (ขุนหมู) ก่อนจะเชือดหรือสูญเงินทั้งหมด รายงานระบุว่า กลโกงนี้สร้างความเสียหายทั่วโลกกว่า 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐใน 4 ปีที่ผ่านมา ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่ทำงานในศูนย์ไซเบอร์เหล่านี้บางส่วนก็เป็น "เหยื่อ" ที่ถูกค้ามนุษย์และบังคับให้ทำงาน
ปัญหาสแกมเมอร์ส่งผลกระทบเชิงลบหลายมิติ:
• ภาพลักษณ์ระหว่างประเทศ: การมีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาทำให้นานาชาติเพ่งเล็งและ "ลดทอนความน่าเชื่อถือ" ของไทย ส่งผลให้การทำธุรกรรมระหว่างประเทศถูกตรวจสอบเข้มงวด และส่งผลเสียต่อการลงทุนจากต่างประเทศในระยะยาว
• ความอ่อนแอทางเศรษฐกิจ: เงินจำนวนมหาศาลไหลออกสู่เส้นทางมืด ทำให้เศรษฐกิจสูญเสียสภาพคล่อง และความเชื่อมั่นต่อสถาบันการเงินสั่นคลอน
• ความเสียหายทางสังคม: นอกจากสูญเงินแล้ว ยังมีการ ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งสะท้อนความอ่อนแอของกลไกป้องกันและบังคับใช้กฎหมาย
การต่อสู้กับเครือข่ายข้ามชาติขนาดใหญ่นี้ต้องอาศัยการยกระดับการจัดการ และขอความร่วมมือจากประเทศมหาอำนาจ เช่น สหรัฐฯ อังกฤษ และเกาหลีใต้ ในการเข้าจัดการอย่างเด็ดขาด
.
สิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
นักวิเคราะห์ย้ำเตือนว่า "ความล่าช้า เท่ากับ ความเสียหาย" หากรัฐบาลยังปล่อยให้สแกมเมอร์ลอยนวล
ปัญหานี้จะบ่อนทำลายระบบเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของประชาชนในระยะยาวอย่างไม่อาจแก้ไขได้ การจัดการจึงต้องเป็นระบบและเชื่อมโยงทุกหน่วยงานอย่างจริงจัง
ที่มา : statista thansettakij