svasdssvasds

ทำไมตลาดหุ้นไทยถูกเรียกว่า "ปู่ SET" และทำไมถึงยัง "ไม่ไปไหน" สักที

ทำไมตลาดหุ้นไทยถูกเรียกว่า "ปู่ SET" และทำไมถึงยัง "ไม่ไปไหน" สักที

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Index) มีชื่อเล่นที่นักลงทุนไทยเรียกติดปากว่า "ปู่ SET" ซึ่งเป็นฉายาที่ไม่ได้มาจากความเคารพในความอาวุโสเท่านั้น แต่เป็นการประชดประชันต่อลักษณะการเคลื่อนไหวของตลาดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ทำไมต้อง "ปู่ SET" และทำไมถึงยัง "ไม่ไปไหน" ? 

คำว่า "ปู่ SET" ซึ่งถือกำเนิดและแพร่หลายในชุมชนออนไลน์ของนักลงทุน สะท้อนถึงพฤติกรรมของดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ถูกเปรียบเปรยกับ "คนแก่" ที่มีเรี่ยวแรงจำกัด 

 SET วนเวียนอยู่แถว ดัชนี 1,200 - 1,300  นักลงทุนฝันจะไป ทะลุเพดาน 1,800 - 1,900 ก็ไปไม่ถึงสักที (เคยคิดไปทำ ทำสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ 1,852.12 จุด เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 ) ทว่ายืนระยะไม่ได้ 

ขึ้นช้า (เดินต้วมเตี้ยม) : เมื่อตลาดหุ้นทั่วโลกและในภูมิภาคเอเชียหลายแห่งมีทิศทางขาขึ้นอย่างร้อนแรง หรือตอบรับปัจจัยบวกอย่างคึกคัก ดัชนี SET กลับมีลักษณะ "เคลื่อนไหวไปข้างหน้าอย่างเชื่องช้า" หรือแทบไม่ขยับไปไหนอย่างมีนัยสำคัญ เหมือนการเดินขึ้นบันไดอย่างไม่มีเรี่ยวแรง

ลงเร็ว (ถูกถีบตก): ในทางกลับกัน เมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจหรือมีปัจจัยลบเข้ามากระทบ ตลาดหุ้นไทยมักจะ "ปรับตัวลงอย่างรวดเร็วและรุนแรง" และบ่อยครั้งได้รับผลกระทบหนักกว่าที่ควรจะเป็นเมื่อเทียบกับตลาดที่ขึ้นไปน้อยกว่า

"ปู่ SET" จึงเป็นฉายาที่เน้นย้ำถึงภาพลักษณ์ของดัชนีที่ ขาดความคึกคัก ไม่ตอบสนองต่อปัจจัยบวกเท่าที่ควร แต่กลับ อ่อนไหวต่อปัจจัยลบอย่างมาก แม้ว่าตลาดหลักทรัพย์ฯ จะก่อตั้งมายาวนาน (พ.ศ. 2518) ซึ่งอาจเป็นส่วนเสริมให้ฉายาดูสมเหตุสมผล แต่แก่นแท้ของฉายานี้คือความไม่กระฉับกระเฉงในการทำผลงานของดัชนีนั่นเอง

ทำไมตลาดหุ้นไทยถูกเรียกว่า "ปู่ SET" และทำไมถึงยัง "ไม่ไปไหน" สักที Credit ภาพ NATION PHOTO

ย้อนรอยประวัติศาสตร์ "ตลาดหุ้นไทย" 

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานและผ่านการปรับปรุงกฎระเบียบเพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือและความโปร่งใส 
 

  • พ.ศ. 2515 - 2517: รัฐบาลเข้ามามีบทบาทในการกำกับดูแลบริษัทเงินทุนและหลักทรัพย์ให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีระเบียบและยุติธรรม จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2517 ได้มีการประกาศใช้ พระราชบัญญัติ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2517
  • พ.ศ. 2518: ถือเป็นจุดเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ โดยใน วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2518 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (The Securities Exchange of Thailand) ได้ เปิดทำการซื้อขายขึ้นอย่างเป็นทางการครั้งแรก
  • พ.ศ. 2534: มีการเปลี่ยนชื่อภาษาอังกฤษเป็น "The Stock Exchange of Thailand" (SET)
  • พ.ศ. 2526 - 2559: ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีการย้ายที่ทำการหลายครั้งเพื่อรองรับการเติบโตของตลาดทุน จากอาคารสินธร สู่ถนนรัชดาภิเษก และเปิดอาคารสำนักงานแห่งใหม่ในปี พ.ศ. 2559
  • พ.ศ. 2568: ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะครบรอบ 50 ปี โดยมุ่งเน้นการพัฒนาตลาดทุนอย่างยั่งยืน และขับเคลื่อนการเติบโตในมิติ ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล)

ทำไมตลาดหุ้นไทยถูกเรียกว่า "ปู่ SET" และทำไมถึงยัง "ไม่ไปไหน" สักที Credit ภาพ NATION PHOTO

จุดแข็งของ "ปู่ SET" ที่นักลงทุนในประเทศได้เปรียบ

แม้จะมีฉายาเชิงประชดประชัน เพราะดัชนี ยังไม่ไปถึงไหนสักที 

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยก็มีข้อดีหลายประการสำหรับนักลงทุนในประเทศ

• ไม่มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน: การลงทุนด้วยสกุลเงินบาททำให้ผลตอบแทนไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของค่าเงิน ซึ่งช่วยลดความซับซ้อนในการบริหารความเสี่ยง เมื่อเทียบกับการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ

• เข้าถึงและติดตามข้อมูลได้ง่าย: นักลงทุนในประเทศสามารถติดตามข่าวสารเศรษฐกิจ การเมือง และข้อมูลเชิงลึกของบริษัทจดทะเบียน (ผ่านสื่อและช่องทางของ ตลท./ก.ล.ต.) ได้ง่าย รวดเร็ว และเป็น Real-time

•ความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อม: นักลงทุนมีความเข้าใจและคุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์ บริการ และแบรนด์ของบริษัทจดทะเบียนไทย ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการ วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis)

•กฎระเบียบที่เข้มงวดและโปร่งใส: ตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ภายใต้การกำกับดูแลที่เข้มงวดของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจในความโปร่งใสและปกป้องผลประโยชน์ของนักลงทุน

• มีกลไกป้องกันความเสี่ยง: มีการกำหนด ราคาสูงสุด (Ceiling) และ ราคาต่ำสุด (Floor) ของหุ้นรายวัน เพื่อช่วยลดความผันผวนที่รุนแรง และจำกัดความเสี่ยงให้กับนักลงทุนในช่วงเวลาวิกฤต

ดัชนีหุ้นไทย ตั้งแต่ ก่อตั้ง จนถึง ปี 2025 (ปัจจุบัน)

ที่มา : set investing

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

related