svasdssvasds

ย้อนวีรกรรม 'แจ็ก แปปโฮ' สังคมไทยเสพดราม่า หรือให้ค่าความเกรียน

ย้อนวีรกรรม 'แจ็ก แปปโฮ' สังคมไทยเสพดราม่า หรือให้ค่าความเกรียน

ย้อนวีรกรรม 'แจ็ก แปปโฮ' จากเหยียบโต๊ะโอมากาเสะ สู่เต้นบนหลังคารถที่ฟูจิ สังคมไทย "เสพดราม่า" หรือ "ให้ค่าความเกรียน"

SHORT CUT

  • แจ็ก แปปโฮ เป็นยูทูบเบอร์ที่มักสร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากคอนเทนต์และพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในที่สาธารณะ
  • บทความรวบรวมวีรกรรมเด่นในอดีต เช่น การเหยียบโต๊ะร้านโอมากาเสะ และล่าสุดคือการเต้นบนหลังคารถที่ญี่ปุ่น
  • การกระทำล่าสุดที่ญี่ปุ่นส่งผลกระทบเชิงลบต่อภาพลักษณ์นักท่องเที่ยวไทยในวงกว้าง จนเกิดกระแสเรียกร้องให้แบนการเข้าประเทศ
  • ตั้งคำถามถึงสังคมไทยว่าเหตุใดคอนเทนต์ที่สร้างความขัดแย้งจึงยังคงได้รับความนิยม และเป็นปรากฏการณ์ที่สะท้อนว่าสังคมกำลังให้ค่ากับพฤติกรรมเหล่านี้หรือไม่

ย้อนวีรกรรม 'แจ็ก แปปโฮ' จากเหยียบโต๊ะโอมากาเสะ สู่เต้นบนหลังคารถที่ฟูจิ สังคมไทย "เสพดราม่า" หรือ "ให้ค่าความเกรียน"

แจ็ก แปปโฮ ยูทูบเบอร์และอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง เจ้าของช่องที่มีผู้ติดตามกว่า 4.7 ล้านคน กลายเป็นบุคคลที่สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอยู่เสมอ ด้วยคอนเทนต์ที่เน้นแนวตลก แกล้งคน หรือสร้างสถานการณ์แปลกๆ

แม้จะมีผลงานที่ได้รับคำชื่นชมในเชิงบวก เช่น การทำคอนเทนต์ขายทุเรียนในราคาเพียงลูกละ 1 บาท เพื่อตอบแทนสังคมในปี 2563 หรือคลิปสร้างแรงบันดาลใจเกี่ยวกับการตกปลาที่กระตุ้นให้คนเก็บขยะพลาสติก แต่กลับเป็น "วีรกรรมเชิงลบ" ที่ทำให้ชื่อของเขาถูกกล่าวถึงซ้ำแล้วซ้ำเล่า และยังคงกุมความสนใจของสาธารณะไว้ได้อย่างเหนียวแน่น

บทความนี้จึงขอตั้งคำถามสำคัญไปยังสังคมไทยและผู้บริโภคสื่อว่า อะไรคือปัจจัยที่ทำให้กระแสความสนใจในตัวอินฟลูเอนเซอร์สายเกรียนคนนี้ยังคงดำรงอยู่ แม้พฤติกรรมบางอย่างจะสร้างผลกระทบในระดับชาติก็ตาม

 

วงจรดราม่าไม่สิ้นสุด วีรกรรมที่สังคมตราหน้า

ย้อนกลับไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แจ็ก แปปโฮ ได้สร้างวีรกรรมฉาวที่กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์มาแล้วหลายครั้ง

  1. คลิปแกล้งคนด้วยประทัดปลอม (2561) เคยถูกเจ้าหน้าที่เปรียบเทียบปรับในข้อหาทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนรำคาญจากการจุดประทัดลูกบอลปลอมในที่สาธารณะ 
  2. เหยียบโต๊ะร้านอาหารโอมากาเสะ (2565) นี่คือดราม่าใหญ่ที่สร้างความไม่พอใจอย่างมาก เมื่อมีคลิปที่เขาปีนขึ้นไปยืนเหยียบบนโต๊ะอาหารในร้านโอมากาเสะ ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ขาดมารยาทในที่สาธารณะ แม้เจ้าตัวจะชี้แจงภายหลังว่า เป็นการเหมาร้านเพื่อเปิดตัวเพลงใหม่และถูกขอให้ทำ และได้ออกมาขอโทษในภายหลังพร้อมยอมรับว่าทำพลาดไป แต่ผู้บริหารร้านก็ได้ตัดสินใจเปลี่ยนโต๊ะบาร์ใหม่ทั้งหมดเพื่อจบประเด็น
  3. ปะทะอินฟลูเอนเซอร์อื่น (ต้นปี 2567) มีคลิปเหตุการณ์ปะทะฝีปากและมีการใช้กำลังกับอินฟลูเอนเซอร์คนอื่น กลางที่สาธารณะ
  4. ถีบอินฟลูฯ ตกน้ำ (ปลายปี 2567) ชวน 'แบงค์ เลสเตอร์' มาทำคอนเทนต์ร่วมกัน คลิปดังกล่าว“แบงค์ เลสเตอร์”นั่งหันหน้ามองไปข้างหน้า โดยมี แจ็ก แปปโฮ ได้ยืนอยู่ข้างหลัง ทำท่าทางจะถีบไปที่บริเวณหลังของแบงค์ ก่อนที่ท้ายคลิปจะถีบจริงๆ
  5. เต้นบนหลังคารถที่ญี่ปุ่น (2568) วีรกรรมล่าสุดที่กลายเป็นประเด็นระดับสากล เมื่อเขาโพสต์คลิปถอดเสื้อขึ้นไปยืนเต้นบนหลังคารถ บริเวณด้านหน้าร้านสะดวกซื้อ Lawson ที่มีวิวภูเขาไฟฟูจิ การกระทำนี้ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าไม่เคารพกฎระเบียบและมารยาทของประเทศญี่ปุ่น จนภรรยาต้องออกมาโพสต์ว่า "ไม่ขอปกป้องใคร ห้ามแล้วไม่ฟัง"

การกระทำ "ส่วนบุคคล" ที่ส่งผลกระทบต่อ "คนทั้งชาติ" คุ้มค่าหรือไม่?

ประเด็นดราม่าที่ญี่ปุ่นไม่ได้หยุดอยู่แค่ตัวบุคคล แต่ลุกลามไปสู่ความกังวลในวงกว้างว่าการกระทำที่ขาดจิตสำนึกนี้จะ "กระทบภาพลักษณ์นักท่องเที่ยวไทย" ในสายตาชาวญี่ปุ่นและทั่วโลก ผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวระบุว่า การกระทำที่ไร้มารยาทเช่นนี้อาจสร้างทัศนคติเชิงลบต่อภาพรวมของนักท่องเที่ยวไทย และอาจทำให้หน่วยงานท้องถิ่นเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบคนไทยในพื้นที่สาธารณะได้

  • เหตุการณ์เพียงคนเดียวสามารถสร้างผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของคนทั้งชาติในยุคที่ข้อมูลแพร่กระจายอย่างรวดเร็วได้อย่างไร?
  • เมื่อชาวเน็ตไทยจำนวนมากต้องรวมตัวกันไปแสดงความเสียใจและขอโทษแทนยูทูบเบอร์รายนี้ในเพจสถานทูตญี่ปุ่น นี่คือการสะท้อนถึงระดับความรับผิดชอบที่อินฟลูเอนเซอร์สายเกรียนควรมีต่อสังคมหรือไม่?
  • การเรียกร้องให้สถานทูตญี่ปุ่น "แบนการเข้าประเทศญี่ปุ่นตลอดชีวิต" ซึ่งแสดงถึงความเดือดดาลของคนไทยที่รู้สึกว่าถูกทำลายชื่อเสียง สะท้อนถึงความเบื่อหน่ายต่อคอนเทนต์ที่อยู่เหนือบรรทัดฐานทางสังคมแล้วหรือไม่?

ทำไมความเกรียนและความขัดแย้ง จึงยังขายได้ในโลกโซเชียล

แม้ว่าพฤติกรรมของ แจ็ก แปปโฮ มักจะนำมาซึ่งกระแสวิพากษ์วิจารณ์เชิงลบ แต่ในทางกลับกัน ความขัดแย้งเหล่านี้กลับเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำให้เขายังคงอยู่ในความสนใจและสามารถดึงดูดผู้ติดตามจำนวนมหาศาลไว้ได้

  • ผู้ชมหลายล้านคนที่ติดตามอินฟลูเอนเซอร์ที่มีประวัติการสร้างวีรกรรมฉาวอย่างต่อเนื่อง พวกเขาได้อะไรจากการบริโภคคอนเทนต์เหล่านี้?
  • ความขัดแย้ง (Controversy) กลายเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดในการสร้างความมองเห็น (Visibility) ในยุคที่ครีเอเตอร์ต้องแข่งขันกันเรียกยอดวิวและยอดติดตามจริงหรือไม่?
  • สังคมไทยกำลังอยู่ในภาวะที่ "ให้ค่า" หรือ "ให้พื้นที่" กับความเกรียนและพฤติกรรมแหกคอกมากกว่าการชื่นชมเนื้อหาเชิงสร้างสรรค์หรือไม่?

หากการกระทำที่ไม่เหมาะสมของอินฟลูเอนเซอร์นำไปสู่การตำหนิรุนแรง แต่สุดท้ายพวกเขาก็ยังคงมีรายได้และฐานแฟนคลับที่แข็งแกร่ง นั่นหมายความว่ากลไกการลงโทษทางสังคมล้มเหลวแล้วหรือยัง

การพิจารณาถึงปรากฏการณ์ แจ็ก แปปโฮ จึงเป็นมากกว่าเรื่องดราม่าส่วนบุคคล แต่เป็นการสะท้อนบทเรียนครั้งสำคัญ ที่ทำให้สังคมต้องย้อนกลับมาทบทวนถึง ความรับผิดชอบของครีเอเตอร์ และที่สำคัญกว่านั้นคือ รสนิยมและความคาดหวังของผู้ชม ที่มีต่อเนื้อหาในโลกออนไลน์

กฎหมายใหม่จีน อินฟลูฯ ต้องมี "วุฒิบัตร" ก่อนพูด

จีนเพิ่งออกกฎหมายบังคับให้บรรดาอินฟลูเอนเซอร์ ที่ต้องการทำคอนเทนต์ พูดคุย หรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นและเนื้อหาที่ละเอียดอ่อนหรือประเด็นด้านวิชาชีพ เช่น ด้านการแพทย์ กฎหมาย การศึกษา หรือการเงิน จะต้องมีหลักฐานวุฒิการศึกษาในสาขาวิชาชีพนั้นๆ อย่างเป็นทางการ ก่อนจะโพสต์เนื้อหา กฎหมายนี้เพิ่งบังคับใช้ไปเมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา

ภาระความรับผิดชอบไม่ได้จำกัดแค่เฉพาะอินฟลูเอนเซอร์เท่านั้น แต่ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเอง ก็ต้องตรวจสอบคุณสมบัติและข้อมูลที่อินฟลูเอนเซอร์นำเสนอ เพื่อที่จะได้มั่นใจว่าข้อมูลเหล่านี้เชื่อถือได้ มีการอ้างอิงอย่างถูกต้อง

หรือว่าถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยควรออกกฎคุมเข้มอินฟลูเอนเซอร์ให้รับผิดชอบคำพูดตัวเอง

related