
SHORT CUT
KKP Research โดยกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร เผยมุมมองเศรษฐกิจไทยเรื่องผลกระทบการสู้รบไทย-กัมพูชา ว่าจะกระทบโดยตรงเศรษฐกิจไม่มากนัก-แต่ฉุดความชื่อมั่น-นักท่องเที่ยวมีคามกังวล
คุกรุ่นขึ้นมาอีกแล้วสำหรับศึกไทย-กัมพูชา ปมขัดแย้งชายแดนทั้ง2ประเทศ หลังเดินหน้าเจรจากันไปหลายครั้งแต่ไม่เป็นผลสำเร็จ จนมาสู้รบกันอีกครั้งในตอนนี้ แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่ส่งผลดีต่อทั้งสองประเทศอย่างแน่นอนทั้งในแง่ของเศรษฐกิจ ความมั่นคง สังคมความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน และเรื่องนี้ถูกจับตามองจากนานาชาติเป็นอย่างมาก และมีโอกาสเสี่ยงพอสมควรที่จะกระทบการค้า การลงทุน เรื่องนี้วันนี้ 8 ธันวาคม 2568 KKP Research โดยกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร มีมุมมองเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ….
ผลกระทบทางตรงจากการสู้รบนั้นอาจมีไม่มากนัก เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งเกิดขึ้นมาสักพักแล้วและ ชายแดนก็ได้ปิดไปสักพักแล้ว ดังนั้นผลทางตรงที่เกิดขึ้นจึงน่าจะเห็นอยู่ในภาพรวมอยู่แล้ว การสู้รบที่เกิดขึ้นใหม่จึงอาจจะไม่ได้ทำให้ผลกระทบทางตรงเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรง ซึ่งมองว่าผลกระทบโดยตรงจากการสู้รบนี้ไม่น่าจะส่งผลต่อตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากการส่งออกของไทยไปยังกัมพูชาคิดเป็นประมาณ 2-3% ของการส่งออกโดยรวมของไทย 70% ของการส่งออกไปกัมพูชาเป็นการส่งออกชายแดน
แต่..ปัญหาดังกล่าวจะ ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นสิ่งที่น่ากังวลมากกว่าคือผลกระทบต่อบรรยากาศโดยรวม โดยเฉพาะเมื่อมีทั้งปัญหาน้ำท่วมภาคใต้และการสู้รบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือความขัดแย้งเกิดขึ้นในจังหวัดที่ถือเป็นฤดูการท่องเที่ยว (High Season) ผู้คนอาจจะเกิดความกังวลและทำให้ความสนใจที่จะมาเที่ยวลดลง ซึ่งเป็นตัวเลขที่อาจจะประเมินได้ยาก
ทั้งนี้มองว่าสถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่าประเด็นด้านการทูตและการบริหารความสัมพันธ์มีความสำคัญอย่างมาก มีการกล่าวถึงการที่ประเทศไทยได้ตกลงและต่อมาได้ระงับข้อตกลง (Suspend Accคอร์ด) ซึ่งไม่ทราบว่าสถานการณ์ล่าสุดและความขัดแย้งที่เกิดขึ้นใหม่จะส่งผลกระทบต่อด้านอื่น ๆ หรือไม่ จำเป็นต้องรอการแถลงจากรัฐบาลเพื่อชี้แจงสถานการณ์ต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผู้นำมาเลเซียขอไทย - กัมพูชา ให้อดกลั้น หวั่นเจรจาหยุดยิงล่ม
'อนุทิน' ไฟเขียว ไทยปฏิบัติการทางทหารต่อ ‘กัมพูชา’ ในทุกกรณี เพื่อปกป้องอธิปไตย
เนิน 350 จุดยุทธศาสตร์สำคัญ ชิงความได้เปรียบแนวรบชายแดนไทย-กัมพูชา