
SHORT CUT
เหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา หลายพื้นที่ กองทัพเตรียมส่ง F-16 บิน ถล่มกัมพูชา ช่องอานม้า หลังใช้ปืนใหญ่-เครื่องยิงลูกระเบิด โจมตีฐานอนุพงศ์ ทหารไทยดับ 1 เจ็บหลายราย
วันที่ 7 ธ.ค.2568 พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า เวลา 14.15 พัน.ร.13 (ฉก.1) ได้เกิดการปะทะกับกำลังฝ่ายกัมพูชา ด้วยอาวุธปืนเล็ก บริเวณพิกัด VA 5417 8739 พื้นที่ ภูผาเหล็กพลาญหินแปดก้อน จ.ศรีสะเกษ
ขณะเกิดเหตุฝ่ายไทยกำลังดำเนินการปรับปรุงเส้นทาง จากฐานภูผาเหล็ก ไปยังจุดตรวจเพียงฟ้า ทางฝ่ายทหารกัมพูชาได้เข้ามาบริเวณแนวลวดหนาม และได้ใช้อาวุธปืนยิงชุดรักษาความปลอดภัย ที่ทำการ รักษาความปลอดภัยให้ทหารช่าง ทำให้มีกำลังพล ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย
เวลา 14.53 น. หน่วยในพื้นที่ได้ลำเลียงผู้บาดเจ็บ ลงมาที่ บก.โดนเอาว์ รพ.สต.โดนเอาว์ และจะส่งต่อไปโรงพยาบาลกันทรลักษ์ ต่อไป
ต่อมาเวลา 20.00 น. กําลังพลกัมพูชาใช้อาวุธเล็กยิงใส่บุคลากรของกองพันทหารราบที่ 13 ในพื้นที่ภูผาเหล็ก กองกําลังของเราไม่ได้รับอันตราย นอกจากนี้ ตรวจพบการเคลื่อนไหวของชาวกัมพูชากับเครื่องยิงจรวดหลายตัว RM-70 เข้าพื้นที่อําเภอจอมกระสั้น จ.พระวิหาร พร้อมกับการอพยพพลเรือนชาวกัมพูชาให้ห่างจากชายแดน
หลังจากการปะทะกันที่พื้นที่พลานหินแปดก้อน กัมพูชายังคงรักษาความพร้อมอย่างเต็มที่ตามชายแดนทั้งหมด การสร้างตําแหน่งครอบคลุมเพิ่มเติม การเสริมสร้างเสาป้องกัน การดําเนินการค้นหาระเบิดภายในพื้นที่ที่มีความรับผิดชอบ การขนส่งวัตถุระเบิดเพื่อรักษาความปลอดภัย ปิดโทรศัพท์มือถือ และเตรียมความพร้อมสําหรับผู้บัญชาการอาวุโสที่จะดูแลการปฏิบัติการต่อสู้ นอกจากนี้ ยังติดตามกิจกรรมไทยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายถัง การใช้โดรน การก่อสร้างถนนใกล้แนวหน้า
วันนี้ (8 ธ.ค. 68) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยว่าในช่วงเช้ามืดวันนี้ได้มีการปะทะในพื้นที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ทหารกัมพูชาได้ทำการยิงด้วยอาวุธปืนเล็กและอาวุธวิธีโค้งตั้งแต่เวลาโดยประมาณ 05.05 น. จนถึงปัจจุบัน ซึ่งฝ่ายไทยได้ตอบโต้ตามกฎการปะทะด้วยอาวุธปืนเล็กและอาวุธวิธีโค้ง
เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. ในพื้นที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กองทัพบกได้รับรายงานว่าทหารไทยถูกโจมตีด้วยอาวุธยิงสนับสนุนทำให้กำลังพลเสียชีวิต 1 นาย และได้รับบาดเจ็บ 4 นาย
โฆษกกองทัพบกยังได้กล่าวว่าปัจจุบันฝ่ายไทยได้เริ่มใช้อากาศยานเข้าโจมตีต่อเป้าหมายทางทหารในหลายพื้นที่เพื่อยับยั้งการโจมตีของอาวุธยิงสนับสนุนของทหารกัมพูชา
โดยเป้าส่วนใหญ่ เป็น ที่ตั้งกองบังคับการบังคับบัญชา ที่ตั้งอาวุธยิง สนับสนุน
มีรายงานข่าวจากกองทัพอากาศเปิดเผยว่า กองทัพอากาศได้ใช้เครื่องบิน F-16 ในการสนับสนุนภาคพื้น โดยเป้าหมาย อยู่ที่ปืนใหญ่ฝั่งกัมพูชาที่ยิงเข้ามาฝั่งไทย ขณะนี้กำลังปฎิบัติภารกิจ
ทั้งนี้ในพื้นที่ชายแดนกองทัพภาคที่ 2 กองกำลังสุรนารี และกองทัพภาคที่ 1 กองกำลังบูรพา ได้จัดกำลังพลสนับสนุนการอพยพประชาชนตามแผนเรียบร้อยแล้ว สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบต่อไป
พลอากาศโท จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า การปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการปฏิบัติการร่วมกับกองกำลังสุรนารี ในการตอบโต้การปฏิบัติการทางทหารของฝ่ายกัมพูชา ที่เป็นภัยคกคามโดยตรงต่อความมั่นคงของไทย รวมทั้งต่อความปลอดภัยของประชาชนที่อยู่อาศัยในบริเวณพื้นที่ชายแดน และกำลังพลที่ปฏิบัฏิบัติภารกิจอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว
นอกจากนี้ จากข้อมูลการตรวจสอบทางยุทธการพบว่า มีการเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์หนัก การจัดกำลังรบ และการเตรียมการสนับสนุนด้านการยิงของกัมพูชา ซึงอาจนำไปสู่การขยายวงของการปฏิบัติการทางทหารในลักษณะที่คุกคามเสถียรภาพในพื้นที่ชายแดนไทย จึงนำไปสู่การใช้กำลังทางอากาศ เพื่อยับยั้งและลดศักยภาพทางทหารของกัมพูชาในระดับที่จำเป็นต่อการรักษาความมั่นคงของรัฐ และความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่
ทั้งนี้ กองทัพอากาศได้ปฏิบัติภารกิจอย่างรอบคอบ โดยกำหนดเป้าหมายเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานทางทหาร คลังอาวุธ ศูนย์บัญชาการ และเส้นทางสนับสนุนการรบที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรม ซึ่งถูกประเมินว่า
เป็นภัยต่อความมั่นคง พร้อมทั้งยังตรวจสอบผลการโจมตี เพื่อยืนยันว่าการปฏิบัติการเป็นไปตามหลักสากลของการป้องกันตนเอง (Right of Self-Defence) ตามกฎบัตรสหประชาชาติ และยึดหลักความจำเป็นและ
ความได้สัดส่วน (Necessity & Proportionality) อย่างเคร่งครัด
กองทัพอากาศตระหนักถึงความสำคัญของการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นพื้นที่ และยังคงยึดมั่นในการดำเนินมาตรการทุกขั้นตอนเพื่อให้การปฏิบัติภารกิจอยู่บนพื้นฐานของความมั่นคงและลดความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น
กองทัพอากาศยืนยันว่า จะปฏิบัติการทางอากาศบนพื้นฐานของความรับผิดชอบ และจะตอบสนองต่อภัยคุกคามที่มีผลกระทบต่อเอกราชอธิปไตย และความปลอดภัยของประชาชน ภายใต้เป้าหมายสูงสุด
คือการรักษาเสถียรภาพในภูมิภาคและป้องกันไม่ให้สถานการณ์ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
มื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 8 ธ.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก “กองทัพภาคที่1” แจ้งว่า กองกำลังบูรพา แจ้ง “อพยพประชาชนชายแดน จ.สระแก้ว”
กองทัพภาคที่ 1 โดยศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ได้รับรายงาน กกล. บูรพา แจ้งให้ประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว อพยพ ออกจากพื้นที่ ณ เวลา 07.00 น.
ที่มา : กองทัพภาคที่ 2 , กองทัพอากาศไทย Royal Thai Air Force , กองทัพภาคที่ 1
ข่าวที่เกี่ยวข้อง