svasdssvasds

สรุปให้! เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ทหารดับ 1 ไทยส่ง F-16 ตอบโต้

สรุปให้! เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ทหารดับ 1 ไทยส่ง F-16 ตอบโต้

เหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา หลายพื้นที่ กองทัพเตรียมส่ง F-16 บิน ถล่มกัมพูชา ช่องอานม้า หลังใช้ปืนใหญ่-เครื่องยิงลูกระเบิด โจมตีฐานอนุพงศ์ ทหารไทยดับ 1 เจ็บหลายราย

SHORT CUT

  • การปะทะเริ่มต้นที่ จ.ศรีสะเกษ เมื่อทหารกัมพูชายิงใส่ฝ่ายไทยก่อน ทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 2 นาย
  • สถานการณ์ลุกลามไปยังพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ส่งผลให้ทหารไทยเสียชีวิต 1 นายและบาดเจ็บ 4 นาย ขณะที่กัมพูชาระดมอาวุธหนักและอพยพประชาชนออกจากแนวชายแดน
  • กองทัพไทยตอบโต้ด้วยการยิงตามกฎการปะทะ และใช้เครื่องบินรบ F-16 โจมตีเป้าหมายทางทหารของกัมพูชาเพื่อยับยั้งภัยคุกคาม พร้อมทั้งอพยพประชาชนในพื้นที่

เหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา หลายพื้นที่ กองทัพเตรียมส่ง F-16 บิน ถล่มกัมพูชา ช่องอานม้า หลังใช้ปืนใหญ่-เครื่องยิงลูกระเบิด โจมตีฐานอนุพงศ์ ทหารไทยดับ 1 เจ็บหลายราย

ชายแดนศรีสะเกษเดือด! กัมพูชาเปิดฉากยิงทหารไทยก่อนโต้กลับ

วันที่ 7 ธ.ค.2568 พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า เวลา 14.15 พัน.ร.13 (ฉก.1) ได้เกิดการปะทะกับกำลังฝ่ายกัมพูชา ด้วยอาวุธปืนเล็ก บริเวณพิกัด VA 5417 8739 พื้นที่ ภูผาเหล็กพลาญหินแปดก้อน จ.ศรีสะเกษ

ขณะเกิดเหตุฝ่ายไทยกำลังดำเนินการปรับปรุงเส้นทาง จากฐานภูผาเหล็ก ไปยังจุดตรวจเพียงฟ้า ทางฝ่ายทหารกัมพูชาได้เข้ามาบริเวณแนวลวดหนาม และได้ใช้อาวุธปืนยิงชุดรักษาความปลอดภัย ที่ทำการ รักษาความปลอดภัยให้ทหารช่าง ทำให้มีกำลังพล ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย 

  1. ส.อ. อนุชาติ เรือนคำ (ป.6 พัน.6) ถูกยิงที่ขา
  2. พลฯ พรชัย จำปาจุม (ร.6 พัน.3) ถูกยิงใส่เสื้อเกราะบริเวณหน้าอก มีรอยพกช้ำ 

เวลา 14.53 น. หน่วยในพื้นที่ได้ลำเลียงผู้บาดเจ็บ ลงมาที่ บก.โดนเอาว์  รพ.สต.โดนเอาว์ และจะส่งต่อไปโรงพยาบาลกันทรลักษ์ ต่อไป

ต่อมาเวลา 20.00 น. กําลังพลกัมพูชาใช้อาวุธเล็กยิงใส่บุคลากรของกองพันทหารราบที่ 13 ในพื้นที่ภูผาเหล็ก กองกําลังของเราไม่ได้รับอันตราย นอกจากนี้ ตรวจพบการเคลื่อนไหวของชาวกัมพูชากับเครื่องยิงจรวดหลายตัว RM-70 เข้าพื้นที่อําเภอจอมกระสั้น จ.พระวิหาร พร้อมกับการอพยพพลเรือนชาวกัมพูชาให้ห่างจากชายแดน

กัมพูชา ยกระดับความพร้อมรบสูงสุด

หลังจากการปะทะกันที่พื้นที่พลานหินแปดก้อน กัมพูชายังคงรักษาความพร้อมอย่างเต็มที่ตามชายแดนทั้งหมด การสร้างตําแหน่งครอบคลุมเพิ่มเติม การเสริมสร้างเสาป้องกัน การดําเนินการค้นหาระเบิดภายในพื้นที่ที่มีความรับผิดชอบ การขนส่งวัตถุระเบิดเพื่อรักษาความปลอดภัย ปิดโทรศัพท์มือถือ และเตรียมความพร้อมสําหรับผู้บัญชาการอาวุโสที่จะดูแลการปฏิบัติการต่อสู้ นอกจากนี้ ยังติดตามกิจกรรมไทยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายถัง การใช้โดรน การก่อสร้างถนนใกล้แนวหน้า

  • เวลา 22.00 น. ในพื้นที่ช่องคะนา และช่องระยี ตรวจพบการเคลื่อนย้าย ถ. T - 55 ของฝ่ายกัมพูชาเคลื่อนย้ายเข้ามาในพื้นที่ กรุงสำโรง จ.อุดรมีชัย รวมทั้งการอพยพ ประชาชนกัมพูชา ออกจากแนวชายแดน
  • เวลา 23.00 น. ทหารกัมพูชามีการเตรียมความพร้อมสู้รบขั้นสูงสุด จากกรณีปะทะที่พลาญหินแปดก้อน และยังเตรียมความพร้อมรบตลอดแนวชายแดน มีการสร้างที่กำบังเพิ่มเติม, เสริมความแข็งแรงที่มั่น, ค้นหาวัตถุระเบิดในพื้นที่รับผิดชอบ, ลำเลียงกับระเบิดเก็บในที่กำบัง, ปิดโทรศัพท์มือถือ และเตรียมการต้อนรับผู้บังคับบัญชาที่จะเข้ามาบัญชาการรบ รวมทั้งยังเฝ้าตรวจการปฏิบัติของฝ่ายไทยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการใช้รถถัง, Drone และการทำถนนบริเวณหน้าแนว
  • เวลา 00.00 น. ในพื้นที่ช่องบก และช่องอานม้า ตรวจพบการเคลื่อนย้าย จลก. RM-70 ของฝ่ายกัมพูชาเข้ามาในพื้นที่ อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร รวมทั้งการอพยพ ประชาชนกัมพูชา ออกจากแนวชายแดน
  • เวลา 01.00 น. ในพื้นที่ช่องจอม และช่องเสม็ด ตรวจพบการเคลื่อนย้าย จลก. BM.- 21 และ Type -90 B ของฝ่ายกัมพูชาเข้ามาในพื้นที่ กรุงสำโรง จ.อุดรมีชัย รวมทั้งการอพยพ ประชาชนกัมพูชา ออกจากแนวชายแดน
  • เวลา 03.25 น. ตรวจพบทหารกัมพูชาสั่งการให้กำหนดเป้าหมายของอาวุธยิงสนับสนุน เล็งมาในพื้นที่ บ้านกะชายน้อย ต.ปราสาท อ.บ้านด่าน ห่างจากท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ประมาณ 13 กม. และบ้านจรูกแขวะ ต.โคกยาง อ.ปราสาท สุรินทร์ ห่างจากชายแดน 31 กม.
  • เวลา 05.00 น. กองกําลังกัมพูชายิงอาวุธยิงโดยตรงไปยังตําแหน่งของกองกําลังประจําการในพื้นที่ช่องอันมา กองกําลังของเราตอบสนองตามกฎของการมีส่วนร่วม บุคลากรทุกคนปลอดภัย
  • เวลา 06.00 น. กองกําลังกัมพูชายังคงใช้อาวุธปืนทางอ้อมกับฝ่ายของเราในพื้นที่ช่องอานม้า

ทบ.ลั่นไทยตอบโต้ตามกฎการใช้กำลัง เร่งอพยพประชาชนในพื้นที่ชายแดน

วันนี้ (8 ธ.ค. 68) พลตรี วินธัย  สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยว่าในช่วงเช้ามืดวันนี้ได้มีการปะทะในพื้นที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ทหารกัมพูชาได้ทำการยิงด้วยอาวุธปืนเล็กและอาวุธวิธีโค้งตั้งแต่เวลาโดยประมาณ 05.05 น. จนถึงปัจจุบัน ซึ่งฝ่ายไทยได้ตอบโต้ตามกฎการปะทะด้วยอาวุธปืนเล็กและอาวุธวิธีโค้ง

เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. ในพื้นที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กองทัพบกได้รับรายงานว่าทหารไทยถูกโจมตีด้วยอาวุธยิงสนับสนุนทำให้กำลังพลเสียชีวิต 1 นาย และได้รับบาดเจ็บ 4 นาย

โฆษกกองทัพบกยังได้กล่าวว่าปัจจุบันฝ่ายไทยได้เริ่มใช้อากาศยานเข้าโจมตีต่อเป้าหมายทางทหารในหลายพื้นที่เพื่อยับยั้งการโจมตีของอาวุธยิงสนับสนุนของทหารกัมพูชา 

สรุปให้! เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ทหารดับ 1 ไทยส่ง F-16 ตอบโต้

เป้าหมายการปล่อยอาวุธจากอากาศยาน 3 พื้นที่ 

  1. อานม้า
  2. ปราสาทคนา
  3. เสาวิทยุ พื้นที่ใกล้ปราสาทพระวิหาร

โดยเป้าส่วนใหญ่ เป็น ที่ตั้งกองบังคับการบังคับบัญชา ที่ตั้งอาวุธยิง สนับสนุน 

มีรายงานข่าวจากกองทัพอากาศเปิดเผยว่า กองทัพอากาศได้ใช้เครื่องบิน F-16  ในการสนับสนุนภาคพื้น โดยเป้าหมาย อยู่ที่ปืนใหญ่ฝั่งกัมพูชาที่ยิงเข้ามาฝั่งไทย ขณะนี้กำลังปฎิบัติภารกิจ

ทั้งนี้ในพื้นที่ชายแดนกองทัพภาคที่ 2 กองกำลังสุรนารี และกองทัพภาคที่ 1 กองกำลังบูรพา ได้จัดกำลังพลสนับสนุนการอพยพประชาชนตามแผนเรียบร้อยแล้ว สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบต่อไป

ทอ.แจงปฏิบัติการทางอากาศต่อเป้าหมายทางทหารในกัมพูชา

พลอากาศโท จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า การปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการปฏิบัติการร่วมกับกองกำลังสุรนารี ในการตอบโต้การปฏิบัติการทางทหารของฝ่ายกัมพูชา ที่เป็นภัยคกคามโดยตรงต่อความมั่นคงของไทย รวมทั้งต่อความปลอดภัยของประชาชนที่อยู่อาศัยในบริเวณพื้นที่ชายแดน และกำลังพลที่ปฏิบัฏิบัติภารกิจอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว

นอกจากนี้ จากข้อมูลการตรวจสอบทางยุทธการพบว่า มีการเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์หนัก การจัดกำลังรบ และการเตรียมการสนับสนุนด้านการยิงของกัมพูชา ซึงอาจนำไปสู่การขยายวงของการปฏิบัติการทางทหารในลักษณะที่คุกคามเสถียรภาพในพื้นที่ชายแดนไทย จึงนำไปสู่การใช้กำลังทางอากาศ เพื่อยับยั้งและลดศักยภาพทางทหารของกัมพูชาในระดับที่จำเป็นต่อการรักษาความมั่นคงของรัฐ และความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่

สรุปให้! เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ทหารดับ 1 ไทยส่ง F-16 ตอบโต้

ทั้งนี้ กองทัพอากาศได้ปฏิบัติภารกิจอย่างรอบคอบ โดยกำหนดเป้าหมายเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานทางทหาร คลังอาวุธ ศูนย์บัญชาการ และเส้นทางสนับสนุนการรบที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรม ซึ่งถูกประเมินว่า
เป็นภัยต่อความมั่นคง พร้อมทั้งยังตรวจสอบผลการโจมตี เพื่อยืนยันว่าการปฏิบัติการเป็นไปตามหลักสากลของการป้องกันตนเอง (Right of Self-Defence) ตามกฎบัตรสหประชาชาติ และยึดหลักความจำเป็นและ
ความได้สัดส่วน (Necessity & Proportionality) อย่างเคร่งครัด

กองทัพอากาศตระหนักถึงความสำคัญของการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นพื้นที่ และยังคงยึดมั่นในการดำเนินมาตรการทุกขั้นตอนเพื่อให้การปฏิบัติภารกิจอยู่บนพื้นฐานของความมั่นคงและลดความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น

กองทัพอากาศยืนยันว่า จะปฏิบัติการทางอากาศบนพื้นฐานของความรับผิดชอบ และจะตอบสนองต่อภัยคุกคามที่มีผลกระทบต่อเอกราชอธิปไตย และความปลอดภัยของประชาชน ภายใต้เป้าหมายสูงสุด
คือการรักษาเสถียรภาพในภูมิภาคและป้องกันไม่ให้สถานการณ์ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

แจ้งอพยพประชาชนชายแดน ฝั่งจ.สระแก้ว ออกจากพื้นที่

มื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 8 ธ.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก “กองทัพภาคที่1” แจ้งว่า กองกำลังบูรพา แจ้ง “อพยพประชาชนชายแดน จ.สระแก้ว” 

กองทัพภาคที่ 1 โดยศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ได้รับรายงาน กกล. บูรพา แจ้งให้ประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว อพยพ ออกจากพื้นที่ ณ เวลา 07.00 น.

สรุปให้! เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ทหารดับ 1 ไทยส่ง F-16 ตอบโต้

ที่มา : กองทัพภาคที่ 2 , กองทัพอากาศไทย Royal Thai Air Force , กองทัพภาคที่ 1 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related