SHORT CUT
เมื่อใครเห็นด้วยคือ 'คนดี' ใครเห็นต่างคือ 'คนเลว' ชวนดูอันตรายของวิธีคิดแบ่งขั้ว ที่ทำให้เรามองไม่เห็นข้อผิดพลาดของตัวเองเลย
มนุษย์เราอยู่ภายใต้โครงสร้างทางสังคมที่แบ่งแยกมาตั้งแต่ยุคโบราณ ตั้งแต่การจัดลำดับชั้นทางสังคม ระบบวรรณะ ไปจนถึงการแบ่งแยกทางชนชั้นทางเศรษฐกิจ กล่าวคือแทบไม่เคยมีช่วงเวลาใดเลยในประวัติศาสตร์ที่มนุษย์มองมนุษย์ด้วยกันอย่างเท่าเทียม
หนังสือ Siam mapped ของ ศ.ดร.ธงชัย วินิจะกุล ได้วิเคราะห์ว่าแผนที่ และพรมแดนที่ชัดเจนตามแบบตะวันตกในสมัย รัชกาลที่ ๕ เป็นการสร้างภาพของชาติให้มีขอบเขตที่แน่นอน ซึ่งนำไปสู่การสร้างสำนึกของ "ความเป็นเรา" และ "ความเป็นอื่น" ในกรอบของรัฐชาติสมัยใหม่ เช่นกรณีไทย-กัมพูชา เป็นต้น
เมื่อเกิดพรมแดนความเป็นชาติก็เกิดขึ้น กล่าวคือคนที่อาศัยอยู่ในชาตินั้นจะมีอัตลักษณ์ร่วมกัน เช่น สัญชาติ เชื้อชาติ ภาษา เป็นต้น ทีนี้ แน่นอนว่าเมื่อมีชาติเราย่อมมีชาติของเขา กระบวนการแบ่งแยกมนุษย์ก็ยิ่งชัดเจนขึ้น จะด้วยเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ การปลูกฝังหรืออะไรก็ตามแต่
จุดที่อันตรายก็คือ เมื่อผู้คนในชาติถูกชักจูงให้เชื่อว่าชาติของเรานั้นสูงส่ง ถูกต้อง และดีงามกว่าชาติอื่น ๆ การแบ่งแยกทางกายภาพจึงนำไปสู่การแบ่งแยกทางความคิดและศีลธรรมโดยอัตโนมัติทำให้เกิดการเหมารวมและมองว่า มนุษย์ชาติอื่น ๆ ต่ำกว่า ซึ่งนักวิชาการเชื่อว่านี่คือรากฐานของลัทธิชาตินิยม
ความคิดนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การมองข้ามพรมแดนประเทศเท่านั้น แต่ยังแทรกซึมเข้ามาในสังคมเดียวกัน โดยแปรเปลี่ยนเป็นวิธีคิดแบบ "เราดี-เขาเลว" ซึ่งกลายเป็นภัยคุกคามที่กัดกินการใช้เหตุผล และทำให้การอยู่ร่วมกันในสังคมที่มีความเห็นต่างเป็นไปไม่ได้
วิธีคิดแบบ “เราดี-เขาเลว” คือการมองว่า "ฝ่ายเรา" หรือ กลุ่มพวกเรา มีศีลธรรม ถูกต้อง บริสุทธิ์ และเป็นตัวแทนของความดีงาม ในขณะที่ "ฝ่ายเขา" เป็นคนชั่วร้าย ไร้ศีลธรรม ผิดพลาด และเป็นต้นตอของปัญหาทั้งหมด
เมื่อใดก็ตามที่วิธีคิด “เราดี-เขาเลว” เป็นที่แพร่หลาย สิ่งที่ตามมาก็คือ การลดทอนความเป็นมนุษย์ หรือ Dehumanization มองอีกฝ่ายเป็น "คนชั่วร้าย" ไปเสียทั้งหมด จะทำให้เราสามารถปฏิเสธความเห็นอกเห็นใจ และหาเหตุผลสนับสนุนการกระทำที่รุนแรงต่อพวกเขาได้ง่ายขึ้น
และเมื่อมองว่าตนเองหรือกลุ่มตนเองดีพร้อมไปเสียทุกอย่าง โดยมากแล้ว ย่อมนำไปสู่การขาดการตรวจสอบตัวเอง ผลลัพธ์ที่ตามมาอย่างต่อเนื่องกันคือ เมื่อคิดว่าสิ่งที่ตนเองเชื่อถูกต้องที่สุด คือเชื่อว่าความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว
อาจทำให้เราไม่สามารถมองเห็นข้อบกพร่องเชิงโครงสร้าง หรือ ความซับซ้อน ของสถานการณ์ได้ (เช่น ในกรณีของคุณกัน จอมพลัง ที่แม้จะทำดี แต่การทำงานของเขาก็มีประเด็นเรื่องขอบเขตอำนาจและเงินบริจาค)
ที่มา: กำเนิดสยามจากแผนที่ (Siam Mapped)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง