สรุปให้! สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ไทยส่ง 'กริพเพน' บอมบ์กาสิโนคลังอาวุธ

สถานการณ์โดยรวมตั้งแต่เวลา 09:00 ถึง 17:00 น. วันนี้ กองกําลังกัมพูชาเริ่มโจมตีอย่างหนักต่อฝ่ายของเรา การปะทะกันขยายตัวอย่างกว้างขวางและเข้มข้น ซึ่งเกี่ยวข้องกับเครื่องยิงจรวดหลายตัวของ BM-21 ประมาณ 125 ครั้ง โดยรอบด้วยจรวด 5,000 ตัวและโดรนฆ่าตัวตาย 33 ตัว โดยมุ่งเป้าไปที่ฐานและตําแหน่งป้องกันของเราในหลายแนวหน้า โดยเฉพาะในพื้นที่ช่องอานม้าและช่องบก จ.อุบลราชธานี เที่ยงตาโมก จ.ศรีสะเกษ จ.ช่องขณาและเขตวัดตาควาย จ.สุรินทร์

กองกําลังของเราตอบสนองด้วยอาวุธยิงโดยตรง อาวุธยิงทางอ้อม รถถัง และเครื่องบินโจมตีเป้าหมายที่กําหนดไว้อย่างต่อเนื่อง 

ไทยสูญเสียทหารกล้า 4 นาย ที่เสียสละชีวิตในการปฏิบัติงาน บาดเจ็บทั้งหมด 68 นาย กองกําลังกัมพูชาได้รับบาดเจ็บ 61 ราย

ทอ.ส่ง 'กริพเพน' ทิ้งระเบิดใส่กาสิโน ที่ใช้เป็นที่ซุกคลังอาวุธหนัก

กองทัพอากาศไทย ได้เปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศแบบสายฟ้าแลบ โดยใช้เครื่องบินรบJAS-39 Gripen ทิ้งระเบิดแรงสูงเข้าใส่บ่อนกาสิโนลิมเฮง ในพื้นที่โอสะมาช (O'Smach) ของกัมพูชา ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับช่องจอม จังหวัดสุรินทร์

ปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้มีขึ้นในสถานการณ์ตึงเครียด เนื่องจากมีรายงานว่า บ่อนกาสิโนแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงสถานบันเทิง แต่ถูก กองทัพกัมพูชาใช้เป็นฐานที่มั่นทางทหารที่สำคัญ ประกอบด้วย สถานที่ปล่อยโดรนพลีชีพ (Kamikaze drones) จุดซุกซ่อนรถยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 และจุดสะสมกำลังพลของฝ่ายกัมพูชา

พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง

หน่วยเฉพาะกิจที่ 12 ได้ยึดและควบคุมพื้นที่อธิปไตยของไทยบ้านหนองหญ้าแก้วเป็นที่เรียบร้อย ตั้งแต่เมื่อ 8 ธ.ค.68 ซึ่งในห้วงเช้าได้เข้าเคลียร์พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชามีการเตรียมการจะใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในพื้นที่

โดยตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 จำนวน 2 ทุ่น สภาพพร้อมใช้งาน นอกจากนี้ ยังตรวจพบระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ชุด โดยชุดที่ 1 ประกอบด้วยกระสุน RPG2 3 นัด และ ค.60 1 นัด (สภาพพร้อมใช้งาน) ชุดที่ 2 ประกอบด้วยกระสุน ปรส.82 และ Dynamite (สภาพพร้อมใช้งาน) ได้ดำเนินการเก็บกู้เป็นที่เรียบร้อย

พื้นที่บ้านหนองจาน อ.โคกสูง

อยู่ระหว่างการเข้าปฏิบัติการต่อที่หมาย โดยฝ่ายกัมพูชามีการต้านทานอย่างหนักด้วยการยิงจากอาวุธชนิดต่าง ๆ โดยเฉพาะจรวดหลายลำกล้อง BM-21 เข้ามายังหมู่บ้านที่ชาวกัมพูชาเคยอยู่อาศัยก่อนเกิดสถานการณ์ความขัดแย้ง

พื้นที่บ้านคลองแผง อ.ตาพระยา

หน่วยเฉพาะกิจที่ 11 เข้าปฏิบัติต่อที่หมาย โดยมีการปฏิบัติที่สำคัญ ได้แก่ การใช้รถถังยิงทำลายบ่อนกาสิโนในฝั่งกัมพูชา ที่อยู่ติดแนวชายแดนในพื้นที่ตรงข้ามจุดผ่อนปรนทางการค้าบ้านตาพระยา อ.ตาพระยา ซึ่งใช้เป็นที่ตั้งยิงปืนกล และอาวุธยิงสนับสนุนต่างๆ รวมถึงเป็นแหล่งรวบรวมยุทโธปกรณ์ ที่จะใช้ปฏิบัติต่อฝ่ายไทย

ซึ่งเมื่อเวลา 16.00 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ 11 สามารถควบคุมพื้นที่บริเวณบ้านคลองแผง อ.ตาพระยา ได้บางส่วน พร้อมกับได้ทำการวางลวดหนามตลอดแนวที่ควบคุมได้ไว้ในเบื้องต้น

สำหรับกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ 8 ธ.ค.68 จำนวน 5 นาย โดยมีกำลังพลมีอาการสาหัส 1 นาย เข้ารับการรักษา รพ.วัฒนานคร และ รพ.โคกสูง ปัจจุบันทุกนายมีอาการปลอดภัย และในวันนี้ได้รับรายงานกำลังพลได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติมอีก 1 นาย คือ ส.ต.ต.กำพล แสงจันทร์สี สังกัด ร้อย.ตชด.125 ได้รับบาดเจ็บในพื้นที่จุดตรวจที่ 14 อ.โคกสูง จากการถูกสะเก็ดระเบิดข้างท้องด้านซ้าย เข้ารับการรักษา ณ รพ.โคกสูง อ.โคกสูง ปัจจุบันอาการปลอดภัย

สำหรับประชาชนในพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว ใน 4 อำเภอ ได้มีการอพยพแล้ว จำนวน 180,683 คน คิดเป็นร้อยละ 83 ซึ่งทางจังหวัดสระแก้วร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว 5 พื้นที่ ได้แก่ อ.เมือง, อ.โคกสูง, อ.วังน้ำเย็น, อ.เขาฉกรรจ์ และ อ.วัฒนานคร มีประชาชนเข้าพักอาศัย รวม 15,560 คน

ยึดพื้นที่จุดยุทธศาสตร์ ถล่ม "บ้านสามหลัง" 

กองทัพเรือส่งทหารนาวิกโยธิน จากกำลังพลกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด เข้าปะทะเพื่อยึดพื้นที่บ้านสามหลัง ที่บ้านหนองรี ต.ชำราก อ.เมือง จ.ตราด ตั้งแต่เช้าวันที่ 9 ธ.ค.68 โดยเปิดยุทธการ " ตราดปราบปรปักษ์ " การปะทะเป็นเวลาหลายสิบชั่วโมง ทหารนาวิกโยธินก็ยังไม่สามารถควบคุมพื้นที่ได้ เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาได้ขุดบังเกอร์และคูเลตเป็นที่หลบกำบัง ก่อนใช้อาวุธหนักปืนใหญ่ตอบโต้กำลังของฝ่ายไทย ทำให้กำลังพลกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ต้องล่าถอยออกมา

เวลา 18.00 น. กองทัพเรือจึงส่ง เรือหลวงเทพาสนับสนุนยิงฝั่งด้วยปืนใหญ่เรือ สนับสนุนกำลังทางบก เพื่อยึดพื้นที่ ‘บ้านสามหลัง’ ที่บ้านหนองรี โดยต่อมาฝ่ายไทย ทำลายฐานที่มั่นกัมพูชาไปแล้ว 80% โดยกำลังจากนาวิกโยธิน กระทั่งเผาทำลายบ้านทั้งสาม หลังได้ รวมถึงตัวบังเกอร์ ที่คาดว่าจะใช้ในการเก็บยุทโธปกรณ์ซึ่งก็ถูกทำลายไปแล้วด้วยเช่นกัน

หลังการปฏิบัติ กองทัพเรือดำเนินการให้กำลังพลและเรือรบตรวจการ ลาดตระเวนตลอด 24 ชั่วโมง กำลังพลทุกนายถูกยกระดับ ให้สู่สภาวการณ์พร้อมรบ อาวุธประจำเรือทุกชนิดถูกเตรียมพร้อมเต็มกำลัง เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ทันที

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• สรุปให้! เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชาล่าสุด เปิดปฏิบัติการ ทร. ขับไล่ทหารกัมพูชา
• สรุปให้! เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ทหารดับ 1 ไทยส่ง F-16 ตอบโต้
• เนิน 350 จุดยุทธศาสตร์สำคัญ ชิงความได้เปรียบแนวรบชายแดนไทย-กัมพูชา