svasdssvasds

เจาะอินไซต์ Grab 2025 สรุปเทรนด์ "สายมู-แฟนด้อม" ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

เจาะอินไซต์ Grab 2025 สรุปเทรนด์ "สายมู-แฟนด้อม" ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

สรุปข้อมูลอินไซต์ "ที่สุดแห่งปี 2025" จาก Grab Thailand สรุปเทรนด์เรียกรถ-สั่งอาหาร ที่คนใช้บริการมากสุด ข้อมูลชุดนี้ไม่ได้บอกเราแค่ว่า "ใครสั่งอะไร หรือไปที่ไหน" แต่กำลังสะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2025 ที่แบรนด์ควรรู้

Grab เปิดข้อมูล 'ที่สุดแห่งปี' พฤติกรรมผู้บริโภคปี 2025  เผยภาพชัดเศรษฐกิจไทยยุคใหม่ที่น่าสนใจ ไม่ใช่แค่เรื่องของการกินหรือการเรียกรถเดินทาง แต่ขับเคลื่อนด้วย Emotional Economy ที่คนยอมจ่ายเพื่อประสบการณ์และการปลอบประโลมใจ ตั้งแต่บริการจองรถล่วงหน้าเพื่อไปมูเตลู ไปจนถึงการตามรอยเมนูไวรัลที่สร้างยอดขายถล่มทลายหลายสิบเท่า ที่สำคัญโครงการรัฐอย่าง ‘คนละครึ่งพลัส’ ทำไมถึงยังเป็นตัวแปรสำคัญของร้านอาหาร นี่คือสรุปข้อมูลอินไซต์ที่แบรนด์ควรรู้

เจาะอินไซต์ Grab 2025 สรุปเทรนด์ "สายมู-แฟนด้อม" ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

1. Mobility Trend : เศรษฐกิจ 'ศรัทธา' และ 'ความบันเทิง'

การเดินทางในปี 2025 ด้วยบริการเรียกรถผ่านแอปฯ ยังคงเติบโตและได้รับความนิยมทั้งจากผู้ใช้บริการ โดยมี "เป้าหมาย" ที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ไม่ได้ทำเพื่อไปทำงานหรือกลับบ้านเพียงอย่างเดียว

  • สายมูพาวเวอร์ : "เทวาลัยพระพิฆเนศ" แยกห้วยขวาง กลายเป็นแลนด์มาร์คอันดับ 1 ด้วยยอดเรียกรถที่เติบโตขึ้นถึง  678% สะท้อนว่าในยุคที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน คนไทยสายมู รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมไปไหว้เพื่อขอพรเรื่องความสำเร็จและเสริมสิริมงคลให้กับชีวิต ที่พึ่งทางใจกลายเป็น New S-Curve ของการท่องเที่ยวในเมือง
  • ช้อปปิ้งยอดนิยม :  “เซ็นทรัลเวิลด์” ห้างสรรพสินค้ามาแรงเป็นอันดับหนึ่ง ตามมาด้วยเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ (MBK Center) ไอคอนสยาม และสยามพารากอน
  • แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ พระบรมมหาราชวัง ถนนข้าวสาร และเยาวราช
  • “คนจีน” ยังครองแชมป์: 5 ชาติที่ใช้บริการมากที่สุด คือ จีน สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ อังกฤษ และมาเลเซีย โดยเฉพาะช่วงโกลเด้นวีค (หรือวันชาติจีน ระหว่างวันที่ 1 - 7 ตุลาคม 2568) มีนักท่องเที่ยวจีนใช้บริการมากขึ้นกว่าช่วงปกติเกือบ 50% 
  • Event Economy : พลังของ Soft Power อย่างคอนเสิร์ต BLACKPINK ดันยอดเรียกรถไปราชมังฯ พุ่งสูงขึ้นเกือบ 5 เท่า ขณะที่เทศกาลลอยกระทง โดยเฉพาะประเพณียี่เป็งในจ.เชียงใหม่ มียอดเรียกใช้บริการเติบโตขึ้นถึง 44% รองลงมาคือ เทศกาลสงกรานต์
  • เมืองรองที่ไม่รองอีกต่อไป : "นครนายก" กลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงด้วยยอดเติบโต 9 เท่า จากเทรนด์ One Day Trip แหล่งท่องเที่ยวไฮไลท์สำคัญอย่างเขื่อนขุนด่านปราการชล น้ำตกนางรอง อุทยานวังตะไคร้ รวมถึงทุ่งบัวแดง และนโยบายรัฐที่เข้ามาหนุน

เจาะอินไซต์ Grab 2025 สรุปเทรนด์ "สายมู-แฟนด้อม" ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

2. Food Trend : ชาไทยฟีเวอร์ โค่นแชมป์ 'อเมริกาโนเย็น'

สมรภูมิฟู้ดเดลิเวอรี่ยังคงดุเดือด แต่ที่น่าสนใจคือ "เมนูเปลี่ยนโลก"

  • ส้มตำยังครองเมือง : ด้วยยอดสั่ง 16 ล้านจาน เมนูนี้ยังคงเป็น Comfort Food ของคนไทย แต่สิ่งที่น่าจับตาคือ โดยเฉพาะส้มตำปูปลาร้าที่มียอดสั่งสูงที่สุด รองลงมาคือข้าวมันไก่ ด้วยยอดขายกว่า 1.5 ล้านจาน จากกระแสไวรัลของ Gundum Effect ในญี่ปุ่น
  • ไวรัล "ชาไทย" ฟีเวอร์ : โค่นแชมป์เก่าอย่างอเมริกาโนเย็นลงได้สำเร็จ ด้วยยอดสั่ง 11 ล้านแก้ว โดยมีแรงส่งสำคัญจากกระแสไวรัลของศิลปินระดับโลกอย่าง "ลิซ่า" คอลแลปกับ Erawhon ในชื่อเมนู “Thai up the World by Lisa” รองลงมาคือเมนูชาเขียวสุดฮิตด้วยยอดขายกว่า 9 ล้านแก้ว จากกระแสมัทฉะฟีเวอร์ที่ขาดตลาดจนกลายเป็นไวรัลข้ามปี ขณะที่ “อเมริกาโนเย็น” ตกมาอยู่อันดับสามด้วยยอดสั่งรวมกว่า 8 ล้านแก้ว
  • Viral Food Cycle : "ชิโอะปัง", ชาองุ่นเคียวโฮปั่นทอปอัปด้วยครีมชีส กลายเป็นสินค้าดาวรุ่งที่เติบโตหลายสิบเท่า และที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ คือ “แฮนด์โรล” เมนูฮิตติดลมบนที่มาแรงสุดๆ ในสายฟู้ดดี้ ช่วยสร้างประสบการณ์การกินแบบโอมากาเสะในราคาที่เข้าถึงง่าย โดยมียอดสั่งที่เติบโตขึ้นกว่า 300% สะท้อนว่าคนรุ่นใหม่กล้าลองของใหม่ และยินดีจ่ายเพื่อ "ประสบการณ์" การกินที่แปลกใหม่
  • กินเพื่อสร้างความสัมพันธ์ : เทรนด์การกินที่ร้านก็เติบโตขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ผู้ใช้บริการเลือกซื้อดีลส่วนลดและใช้บริการจองร้านผ่านแอปพลิเคชันในโอกาสพิเศษหรือไปรับประทานอาหารกันเป็นกลุ่ม โดย 3 ประเภทร้านที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ บุฟเฟต์ ร้านปิ้งย่าง และร้านอาหารญี่ปุ่น

เจาะอินไซต์ Grab 2025 สรุปเทรนด์ "สายมู-แฟนด้อม" ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ครั้งแรกของ “คนละครึ่งพลัส“ ผ่านเดลิเวอรี

โครงการที่มาแรงที่สุดแห่งปีหนีไม่พ้น "คนละครึ่งพลัส" ที่ช่วยกระตุ้นยอดขายให้ผู้ประกอบการร้านอาหารทั้งหน้าร้านและผ่านเดลิเวอรี โดยผู้บริโภคนิยมใช้คนละครึ่งพลัสสั่งอาหารในมื้อเที่ยงมากที่สุด โดยมียอดสั่งเฉลี่ยประมาณ 80 – 120 บาทต่อออเดอร์ และคนกรุงเทพฯ ครองแชมป์การใช้คนละครึ่งพลัสผ่านแพลตฟอร์มเดลิเวอรีมากที่สุด ขณะที่ร้านอาหารที่ขายดีที่สุดผ่านแกร็บคือ “สยามกะเพราคาเฟ่ - บรรทัดทอง” โดยมียอดขายเติบโตเฉลี่ยสูงกว่าปกติถึง 14 เท่า

related