svasdssvasds

ทำไมหลายธุรกิจไม่ได้ไปต่อในปี 69 ปัจจัยเสี่ยงฉุดรั้งเศรษฐกิจไทย

ทำไมหลายธุรกิจไม่ได้ไปต่อในปี 69 ปัจจัยเสี่ยงฉุดรั้งเศรษฐกิจไทย

ทำไมหลายธุรกิจไม่ได้ไปต่อในปี 2569 ปัญหาเงินเฟ้อที่ผันผวนและต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น ยังคงเป็นปัจจัยกดดันที่เพิ่มภาระต้นทุนให้แก่ผู้ประกอบการและทำให้ธุรกิจดำเนินกิจการได้ยากลำบาก

SHORT CUT

  • ม.หอการค้าไทยเปิดเผย 10 ธุรกิจดาวร่วงปี 2569 ที่เสี่ยงไม่ได้ไปต่อ เช่น ร้านอินเทอร์เน็ต สื่อสิ่งพิมพ์ และร้านโชห่วย เนื่องจากถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
  • เศรษฐกิจไทยเผชิญ 5 ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ฉุดรั้งการเติบโต ได้แก่ ความไม่แน่นอนทางการเมือง, ความผันผวนของการส่งออก, การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวที่ช้า, ความตึงเครียดระหว่างประเทศ และปัญหาหนี้ครัวเรือน
  • ภาคธุรกิจ SME กำลังเผชิญวิกฤตสินเชื่อ (Credit Crunch) ทำให้เข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการอยู่รอดและการเติบโตของธุรกิจ
  • ปัญหาเงินเฟ้อที่ผันผวนและต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น ยังคงเป็นปัจจัยกดดันที่เพิ่มภาระต้นทุนให้แก่ผู้ประกอบการและทำให้ธุรกิจดำเนินกิจการได้ยากลำบาก

ทำไมหลายธุรกิจไม่ได้ไปต่อในปี 2569 ปัญหาเงินเฟ้อที่ผันผวนและต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น ยังคงเป็นปัจจัยกดดันที่เพิ่มภาระต้นทุนให้แก่ผู้ประกอบการและทำให้ธุรกิจดำเนินกิจการได้ยากลำบาก

สถาบันยุทธศาสตร์การค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ทำการสำรวจ 10 ธุรกิจดาวร่วง ประจำปี 2569 โดยมีเกณฑ์การให้คะแนนธุรกิจ ประกอบด้วย

  • ยอดขาย
  • ต้นทุน
  • ส่วนต่างของยอดขายต่อต้นทุน
  • ผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงและภาวการณ์แข่งขัน
  • ความต้องการ/ความสอดคล้องกับกระแสนิยม

โดยคาดว่าเทรนด์ธุรกิจในปี 2569 จะอยู่ที่ ESG , HEALTH และ DIGITAL

ธุรกิจดาวร่วงที่อาจไม่ได้ไปต่อในปี 2569 

  1. ร้านให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Cafe) และธุรกิจจำหน่าย-ผลิตอุปกรณ์บันทึกข้อมูล สะท้อนการถูกทดแทนเกือบทั้งหมดจากสมาร์ทโฟน อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในครัวเรือน
  2. ร้านขายหนังสือ แผงหนังสือ และสื่อสิ่งพิมพ์ จากการที่ผู้บริโภคหันไปเสพคอนเทนต์ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล e-book และโซเชียลมีเดีย
  3. ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ที่ไม่มีแพลตฟอร์มออนไลน์ ถือเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการเปลี่ยนผ่านสู่สื่อดิจิทัล หากไม่เร่งปรับโมเดลธุรกิจ มีแนวโน้มสูญเสียฐานผู้อ่านอย่างต่อเนื่อง
  4. ร้านโชห่วย หรือ Traditional Trade แม้ยังมีบทบาทในชุมชน แต่กำลังเผชิญการแข่งขันรุนแรงจากร้านสะดวกซื้อ โมเดิร์นเทรด
  5. ธุรกิจผลิตสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม จากต้นทุนแรงงานที่สูงขึ้น การแข่งขันจากต่างประเทศ และเทรนด์ Fast Fashion ที่เปลี่ยนเร็ว

ขณะที่อันดับ 6–10 เป็นกลุ่มธุรกิจดั้งเดิมที่ถูกเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภคเข้ามาแทนที่อย่างชัดเจน ทั้งธุรกิจถ่ายเอกสาร ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ไม้แบบดั้งเดิมที่ไม่มีการออกแบบดีไซน์ใหม่ ธุรกิจของเล่นเด็ก ร้านถ่ายรูปและล้างอัดภาพแบบดั้งเดิม และธุรกิจรถยนต์มือสอง

อย่างไรก็ตามธุรกิจบางกลุ่มต้องเผชิญแรงกดดันจากกำลังซื้อที่ชะลอตัว ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และการแข่งขันที่รุนแรง

 

จับตา 5 ปัจจัยเสี่ยง

ปัจจัยเสี่ยง 5 เรื่องที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจไทย ทำให้ยังไม่เปลี่ยนมุมมองเป็นบวก

  • ปัจจัยเสี่ยงด้านการเมือง: ความไม่ชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ นโยบายเศรษฐกิจ และผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและการลงทุน
  • สถานการณ์ความตึงเครียดไทย-กัมพูชา: ส่งผลกระทบเชิงจิตวิทยาและการค้า
  • ความผันผวนของภาคการส่งออก: จากภาวะซัพพลายเชนโลกและการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลัก
  • การฟื้นตัวของการท่องเที่ยว: ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้ตามคาด หากยังมีความกังวลเรื่องแก๊งสแกมเมอร์ และสถานการณ์ภัยพิบัติต่างๆ
  • ปัญหาเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจ: ปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง ปัญหาโครงสร้างการผลิต และการพึ่งพาตลาดต่างประเทศมากเกินไป ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังที่ต้องเร่งแก้ไข

เศรษฐกิจไทยปี 69 ยังเผชิญกับดัก 'วิกฤต'

หนึ่งในความไม่แน่นอนสำคัญ คือ การเมืองไทยที่กำลังเดินเข้าสู่ช่วงสำคัญ การเปลี่ยนรัฐบาล หรือการเลือกตั้งทั่วไปที่กำลังเกิดขึ้นในปีหน้า สร้างคำถามถึงความต่อเนื่องของนโยบายเศรษฐกิจ หากเป็นไปด้วยความเรียบร้อยก็เป็นเรื่องที่ดี แต่หากมีเหตุการณ์ให้ต้องสะดุดกลางทาง หรือแม้จะเลือกตั้งเสร็จสิ้น แต่เกิดความล่าช้าหรือการจัดตั้งรัฐบาลมีปัญหา ไม่เพียงความเชื่อมั่นนักลงทุนจะสั่นคลอน แต่ภาคธุรกิจและประชาชนจะต้องรับต้นทุนจากความไม่ชัดเจนในการกำหนดทิศทางประเทศ

เมื่อ "เงินเฟ้อ" ไม่ใช่แค่ตัวเลข และ "SME" กำลังขาดลมหายใจ

สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในปัจจุบันไม่ได้อยู่ในภาวะ "เงินฝืด" อย่างที่หลายคนกังวล แต่เรากำลังยืนอยู่บนความผันผวนที่ประมาทไม่ได้ 

เงินเฟ้อที่ "เอาแน่เอานอนไม่ได้"

แม้ระดับเงินเฟ้อจะทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นช้าๆ แต่ปัจจัยภายนอกอย่าง ราคาพลังงาน และ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์โลก ยังเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ทิศทางราคาสินค้ามีความผันผวนสูง

รัฐบาลไม่สามารถใช้นโยบาย "แจกเงิน" หรือกระตุ้นเศรษฐกิจแบบหว่านแหได้อีกต่อไป เพราะหากทำโดยไม่คำนึงถึงเสถียรภาพในระยะยาว อาจกลายเป็นการซ้ำเติมภาวะเงินเฟ้อให้บานปลาย

วิกฤตสินเชื่อ SME กระดูกสันหลังที่เริ่มเปราะบาง

โจทย์ใหญ่ที่สุดที่รัฐบาลมองข้ามไม่ได้คือ ภาคเอสเอ็มอี (SME) ซึ่งเปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของชาติ แต่ตอนนี้กำลังเผชิญกับ "ภาวะเงินฝืดในระดับธุรกิจ" (Credit Crunch)

การปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ "ติดลบ" อย่างต่อเนื่อง เป็นหลักฐานชัดเจนว่ากลไกทางการเงินกำลังติดขัด ธนาคารไม่กล้าปล่อยกู้ และผู้ประกอบการเข้าไม่ถึงเงินทุน

มาตรการแก้เกม: แค่ "อัดฉีด" อาจไม่พอ

ปัจจุบันกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และธนาคารพาณิชย์ กำลังเตรียมมาตรการ "ชดเชยต้นทุนสินเชื่อ" เพื่อช่วยลดภาระดอกเบี้ย แต่นี่เป็นเพียงการ "ปฐมพยาบาล" เท่านั้น

การช่วยเรื่องต้นทุนดอกเบี้ยเป็นแค่จุดเริ่มต้น แต่ "คำตอบสุดท้าย" คือการ ยกระดับขีดความสามารถ ของ SME ให้แข่งขันได้ในโลกยุคใหม่ หากไม่แก้ที่ศักยภาพ ต่อให้มีเงินทุนหมุนเวียน ธุรกิจก็อาจไปต่อไม่ได้ในระยะยาว

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ , ม.หอการค้าไทย

related