จากเส้นทางสตาร์ทอัพ สู่กับเข้าตลาดหลักทรัพย์ของ Buzzebees

บัซซี่บีส์ (BUZZEBEES) ผู้นำอันดับ 1 ด้าน CRM & Digital Engagement Platform ในประเทศไทย ตั้งเป้าปี 2023 เติบโตแบบก้าวกระโดดสู่รายได้ 3,400 ล้านบาท ถือว่าเป็นเส้นทางการเติบโตมาตลอด 11 ปี 

เตรียมเข้า IPO ตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) ภายในปี 2024 เพื่อเดินหน้าขยายกิจการบุกตลาดต่างประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ก้าวสู่การเป็น Ecosystem-Driven MarTech ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ไมเคิล เชน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง BUZZEBEES กล่าวว่า BUZZEBEES ต้องการเชื่อมธุรกิจทุกขนาดให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน และมีเป้าหมายที่จะสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจ (Business Ecosystem) ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ไม่ใช่แค่บริษัทที่เป็นผู้นำด้าน Loyalty Platform แต่เป็นธุรกิจที่สร้างโครงสร้างพื้นฐานในโลกดิจิทัล (Digital Infrastructure) ผ่าน 4 ธุรกิจหลัก ได้แก่

1. ธุรกิจพัฒนาแพลตฟอร์มบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM & Loyalty Platform)
2. ธุรกิจจัดหาของรางวัลและสิทธิพิเศษ (Rewards & Privileges Management)
3. ธุรกิจบริการอีคอมเมิร์ซอย่างครบวงจร (E-Commerce Service)
4. ธุรกิจบริการระบบจัดการร้านค้าและการรับชำระเงิน (Retail Solution & E-Payment)

โดยทุกบริการครอบคลุมใน 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และล่าสุด ฮ่องกง มีผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มกว่า 145 ล้านบัญชี

อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม

• เดลิเวอรี่อัดโปร “ระบบสมาชิก” หวังลูกค้าใช้งานซ้ำจนขาดกันไม่ได้
• Fire TV เพิ่มคอนเทนต์ฟรี หวังรายได้จากสมาชิกใหม่
• Elon Musk สั่ง Twitter ขึ้นค่าสมาชิก 19.99 ดอลลาร์

ณัฐธิดา สงวนสิน กรรมการผู้จัดการและผู้ร่วมก่อตั้ง BUZZEBEES กล่าวถึงผลการดำเนินงานของ BUZZEBEES ว่า ตลอด 10 ปีที่ผ่านมารายได้ของบริษัทมีการเติบโตขึ้นตลอด ดังนี้

• ปี 2020 มีรายได้อยู่ที่ 921 ล้านบาท
• ปี 2021 มีรายได้อยู่ที่ 1,142 ล้านบาท
• ปี 2022 มีรายได้อยู่ที่ 1,751 ล้านบาท
• เป้าปี 2023 อยู่ที่ 3,400 ล้านบาท

โดยมีแผนที่จะขยายตลาดด้าน CRM & Digital Engagement ล่าสุดได้มีการซื้อกิจการ BenePanda ในฮ่องกง เพื่อมุ่งขยายโมเดลการพัฒนาโซลูชันด้าน Employee Benefits & Wellness Platform ในกลุ่มพนักงานทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ

ซึ่งเป็นการขยายกลุ่มเป้าหมายใหม่จากเดิมที่มุ่งเน้นกลุ่มผู้บริโภคในด้าน Loyalty Platform ของพันธมิตรเป็นหลัก ทำให้ BUZZEBEES สามารถสร้างเครือข่ายด้าน Ecosystem-Driven MarTech ในต่างประเทศได้อย่างแข็งแกร่งและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ บัซซี่บีส์ ยังเผยผลสำรวจของบริษัทที่น่าสนใจเกี่ยวกับรูปแบบการใช้ระบบสมาชิกหรือ CRM ดังนี้

พฤติกรรมของแต่ละเจเนอเรชั่น

• - Baby boomer : ด้วยความเป็นคนยุคอะนาล็อก การสมัครสมาชิกหรือสะสมคะแนน ต้องเป็นระบบการสะสมหรือแลกใช้งานที่หน้าร้านแบบยื่นคูปองหรือมีฝ่ายบริการลูกค้าพิเศษเท่านั้น
• - Gen X : มีความคล้ายกับชาวเบบี้บูมเมอร์ แต่ยังมีความพยายามในการฝึกใช้งานนวัตกรรมใหม่ๆ สะสมแต้มและพ้อยท์เพื่อเป็นรางวัล จะให้พนักงานสอนที่หน้าร้าน
• - Gen Y : แพลตฟอร์มเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ถ้าเลือกใช้อะไรแล้วต้องคุ้มค่า จะต้องภักดีต่อแบรนด์มากหากทำให้ประทับใจ ชอบความสนุกสนานเหมาะกับการใช้ Gamification มาดึงดูด ระบบแลกของรางวัลก็ต้องคุ้มค่า
• - Gen Z : จะแลกของรางวัลหรือยอมสมัครสมาชิกด้วยความพอใจเท่านั้น ห้ามบังคับ ต้องแลกของรางวัลได้แบบรวดเร็ว และเป็นคนที่ใส่ใจเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม การช่วยเหลือสัตว์ และธรรมชาติจะยินดีช่วยเหลือ

เรื่องน่ารู้ของการใช้ระบบสมาชิก

1. มีความสนใจและอยากร่วมกิจกรรม ภายใน 27 วินาทีแรกเท่านั้น หากต้องวุ่นวายกรอกข้อมูลนานๆ จะเลิกสนใจหรือเลิกติดตามแบรนด์นั้นๆ
2. ค่าเฉลี่ยการเลื่อนดูข้อมูลจากแพลตฟอร์มมีเพียง 3 หน้า หลังเปิดเข้าหน้าแรกเท่านั้น ถ้าไม่มีโปรโมชั่นหรือสิ่งที่น่าสนใจดึงดูดได้ดีพอ ก็จะไม่กดเข้าไปดูซ้ำ อาจจะลบเพื่อนหรือบล็อกทิ้งเลย
3. 70% ของผู้ใช้งานระบบสมาชิก จะกดเข้ามาดูในแพลตฟอร์มซ้ำภายใน 5 วัน หลังจากที่ลงทะเบียนแล้ว รวมทั้งอาจจะเล่นเกมส์ แลกของลงทะเบียนเลย แต่หากในแพลตฟอร์มไม่น่าสนใจก็อาจจะลบทิ้งได้เช่นกัน
4. โปรแกรมแนะนำเพื่อน ในปี 2020 ที่เคยแนะนำเพื่อนได้ 7 คน ปี 2023 จะยินดีกดแนะนำแค่ 4 คนเท่านั้น
5. เมื่อปี 2020 ผู้ใช้งานจะแลกของรางวัลภายใน 30 วัน อยู่ที่ 7% ในปี 2022 ผู้ใช้งานยอมแลกของรางวัลเพียง 2% เท่านั้น
6. คะแนนบัตรเครดิตที่จ่ายแล้ว สามารถแลกสิทธิพิเศษต่างๆ แบบกระดาษไม่น่าสนใจเพียงพอ ทำให้มีคะแนน (Point) คงค้างในระบบบัตรเครดิตมากถึง 75,000 ล้านพ้อยท์ที่ถูกทิ้งไปและไม่มีการใช้งาน
7. ระบบของบัซซี่บีส์ มีการแลกคะแนนทุกๆ นาทีมากถึง 120,000,000 ครั้ง เทียบเท่ากับการกินกาแฟ 200 แก้ว/วินาที