เปิดรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คนใหม่ นราพัฒน์ - มาดามเดียร์ ลุ้น
พรรคประชาธิปัตย์ กลายเป็นพรรคที่ได้แสงจากแวดวงการเมืองอีกครั้ง เมื่อ "อู๊ดด้า" จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรค ได้ส่งข้อความเข้าไลน์กลุ่มพรรคลาออกจากรักษาการหัวหน้าพรรค , นั่นทำให้ ทุกคนต่างจับตามองดูว่า ใครกันที่จะเป็นหัวหน้าพรรคสีฟ้าคนใหม่
พรรคประชาธิปัตย์ กลายเป็นพรรคที่ได้แสงจากแวดวงการเมืองอีกครั้ง เมื่อ "อู๊ดด้า" จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรค ได้ส่งข้อความเข้าไลน์กลุ่มพรรคลาออกจากรักษาการหัวหน้าพรรค , นั่นทำให้ ทุกคนต่างจับตามองดูว่า ใครกันที่จะเป็นหัวหน้าพรรคสีฟ้าคนใหม่
โดย ณ เวลานี้ ปรากฎชื่อ นราพัฒน์ แก้วทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรค เป็นผู้รักษาการหัวหน้าพรรค ในกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองแม้ในเวลาต่อมาได้เอาชื่อออกไปก็ตาม นำมาซึ่งเสียงวิจารณ์ เพราะ นราพัฒน์ ผู้กว้างขว้างจากพิจิตร ถือเป็น1ในบุคคลที่ลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่
ขณะที่ความเคลื่อนไหวล่าสุด นราพัฒน์ เปิดใจก่อนร่วมประชุมรักษาการคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ถึงการลงสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ประชาธิปัตย์คนใหม่ว่า ขอคุยกันภายในก่อน ซึ่งเขาเองก็ยังมีความตั้งใจเหมือนเดิมที่จะเข้ามาช่วยปรับปรุงพรรค แต่ขอประชุมเพื่อคุยรายละเอียด
เมื่อถามว่า หลังจากการประชุมล่มในครั้งที่ผ่านมา ได้มีการพูดคุยกับคนที่สนับสนุนอีกครั้งหรือไม่ นายนราพัฒน์ กล่าวว่า ยังคุยกันเหมือนเดิม เสียงส่วนใหญ่ยังสนับสนุนให้ตนลงชิงหัวหน้าพรรคเหมือนเดิม พร้อมย้ำว่า ขอคุยในรายละเอียดก่อน และคุยกับสมาชิกก่อนว่ายังจะสนับสนุนตนหรือไม่ , สำหรับรายชื่อแคนดิเดตผู้ชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ล่าสุดยังคงต้องจับตาไปที่ นายนราพัฒน์ เป็นแคนดิเดต ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสส.กลุ่มนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค ราว 22 เสียง
• ประวัติ นราพัฒน์ แก้วทอง บนเส้นทางการเมือง ก่อนลุ้นตำแหน่งหัวหน้าประชาธิปัตย์
-ปี 2544 นราพัฒน์ แก้วทอง สมัครรับเลือกตั้ง สส.ประจำเขตเลือกตั้งที่ 2 ของจังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นพื้นที่เดิมของ ไพฑูรย์ แก้วทอง ผู้เป็นบิดา และชนะการเลือกตั้ง สส.ครั้งแรก เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2544
-ปี 2550 ลงสมัครรับเลือกตั้ง เขต 1 จังหวัดพิจิตร ได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนนเป็นอันดับ 1 และเป็น สส.พรรคประชาธิปัตย์ เพียงคนเดียงของจังหวัดพิจิตร
-ปี 2554 นราพัฒน์ แก้วทองลงสมัครรับเลือกตั้งเขต 2 จังหวัดพิจิตร และได้รับการเลือกตั้ง สส.พรรคประชาธิปัตย์ เพียงคนเดียวของจังหวัดพิจิตรอีกครั้ง เหมือนครั้งก่อนหน้า ต่อมาภายหลังการเลือกตั้งครั้งนั้น ในวันที่ 6 สิงหาคม 2554 พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดการประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยนราพัฒน์ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมกับนายนิพนธ์ บุญญามณี และนายศุภชัย ศรีหล้า
-ปี 2562 นราพัฒน์ ได้รับแต่งตั้งเป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลพื้นที่ภาคเหนือ และในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปในปีนั้นขาลงสมัครรับเลือกตั้งใน สส.แบบบัญชีรายชื่อกับประชาธิปัตย์ ลำดับที่ 27 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง
ต่อมา นราพัฒน์ แก้วทอง ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ จนเมื่อปี 2565 เมื่อนายอภิชัย เตชะอุบล ได้ขอลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อทำให้นราพัฒน์ได้ขยับขึ้นเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแทนนายอภิชัย
-ปี 2566 ในการเลือกตั้ง 2566 นราพัฒน์ ได้เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบบญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์ในลำดับที่ 7 อย่างไรก็ตาม ในการเลือกตั้ง 2566 สส.ปาร์ตี้ลิสต์ประชาธิปัตย์ ได้เพียง 3 ที่นั่งเท่านั้น
ทั้งนี้ หาก นราพัฒน์ แก้วทอง ได้เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ , จะมี เดชอิศม์ ขาวทอง นั่งเป็นเลขาธิการพรรค
ส่วนอีกหนึ่งคนที่มีความเป็นไปได้ ที่จะเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ คือ วทันยา บุนนาค หรือ มาดามเดียร์ , คาดการณ์กันว่า มีความพยายามในการหาตัวกลาง อย่าง วทันยา บุนนาค เพื่อพูดคุยเพื่อหาจุดร่วมระหว่าง2 ขั้ว กล่าวคือขั้วของ นราพัฒน์ แก้วทอง กับ กลุ่มอำนาจเดิม อย่าง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ
ดังนั้น โดยเฉพาะตำแหน่งหัวหน้าพรรค ที่อาจเป็นบุคคลรุ่นใหม่ภาพลักษณ์ดี อย่าง วทันยา บุนนาค และสามารถเชื่อมความสัมพันธ์ได้ทั้ง 2 กลุ่มได้ , โดยคาดการณ์กันว่า หาก มาดาเดียร์ เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ จะมี ชัยชนะ เดชเดโช เป็นเลขาธิการ
• ประวัติ วทันยา บุนนาค บนเส้นทางการเมือง ก่อนลุ้นตำแหน่งหัวหน้าประชาธิปัตย์
ปี 2561 สมัครเป็นสมาชิกพลังประชารัฐ
ปี 2562 เป็น สส. ปาร์ตี้ลิสต์ พลังประชารัฐ ลำดับ 19
ปี 2565 เป็นสมาชิก ประชาธิปัตย์
ปี 2566 ประชาธิปัตย์ ได้ สส.ปาร์ตี้ลิสต์ 3 ลำดับแรก แต่มาดามเดียร์ เป็นผู้สมัครในลำดับ 11
โดย สถานการณ์ การเลือกหัวหน้าประชาธิปัตย์คนใหม่นั้น แกนนำพรรคยอมรับว่า การประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 3 ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะเป็นช่วงวันที่ 9 ธ.ค. 2566 นี้ จะต้องมีการเคลียร์ปัญหาในพรรคให้จบให้ได้ก่อนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาองค์ประชุมล่มเป็นรอบที่3
โดยเฉพาะประเด็นการใช้สัดส่วนการโหวตของ สส.กับสมาชิกพรรค ที่ 70:30 ซึ่งเป็นปัญหาในการประชุม2ครั้งที่ผ่านมา เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว ก็จะเกิดความสุ่มเสี่ยงเนื่องจาก ตามพ.ร.ป.พรรคการเมือง ระบุให้มีการจัดประชุมใหญ่ภายใน1ปี ซึ่งจะไปครบกำหนดในช่วงเดือนเม.ย.2567 ไม่เช่นนั้นก็จะทำให้พรรคต้องสิ้นสภาพลงได้
ฉะนั้นจึงต้องจับตาว่าที่สุดพรรคประชาธิปัตย์จะหาข้อสรุปประเด็นนี้อย่างไร ชื่อหัวหน้าพรรคคนใหม่ จะเป็นไปตามคาดการณ์หรือไม่ต้องลุ้นกัน...
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
