svasdssvasds

ครบรอบ 1 เดือน ปฏิบัติการ 1027 สะเทือนความมั่นคงเมียนมา

ครบรอบ 1 เดือน ปฏิบัติการ 1027  สะเทือนความมั่นคงเมียนมา

ครบรอบ 1 เดือนของการเปิดปฏิบัติการ 1027 ของกลุ่มกองกำลังชาติพันธุ์ในเมียนมา ต่อกองทัพของรัฐบาลทหาร ซึ่งนับเป็นความท้าทายครั้งใหญ่สุดที่รัฐบาลทหารต้องเผชิญนับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารเมื่อปี 2021

27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา คือวันครบรอบ 1 เดือนของการเปิดปฏิบัติการ 1027 ความขัดแย้งครั้งนี้นำโดย กลุ่มที่เรียกตนเองว่า กลุ่มพันธมิตรภราดรภาพ ประกอบด้วย กองทัพอาระกัน ( AA) กองทัพแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติดาระอั้ง  (TNLA) และกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (MNDAA) หรือโกก้าง  ทั้งหมดเคลื่อนไหวอยู่ในทางตอนเหนือของรัฐฉาน รัฐกะฉิ่น  รัฐยะไข่

นอกเหนือจากกลุ่มพันธมิตรภราดรภาพแล้ว ยังมีกองกำลังชาติพันธุ์อื่นๆที่เคลื่อนไหวอยู่ตามรัฐอื่นๆ ทั้งกองกำลังปกป้องประชาชน (PDFs) ที่อยู่ภายใต้สังกัดของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) ที่ก่อตั้งขึ้นมาโดยกลุ่มประชาธิปไตยเพื่อต่อต้านรัฐบาลทหาร , กองกำลังป้องกันแห่งชาติกะเหรี่ยงแดง (KNDF) ,กองทัพคะฉิ่นอิสระ(KIA) และกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ (EAOs)

ดังนั้นนับตั้งแต่ปฏิบัติการภายใต้ชื่อ 1027 เริ่มขึ้น กลุ่มพันธมิตรภราดราภาพและกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ เข้าจู่โจมและยึดฐานที่มั่นและเมืองที่รัฐบาลทหารเมียนมาปกครองอยู่ ทางตอนเหนือของรัฐฉาน รัฐกะฉิ่น แคว้นซะไกง์ รัฐชิน รัฐยะไข่ รัฐกะยาห์ ทางตะวันออกของรัฐพะโค และรัฐกะเหรี่ยง

ครบรอบ 1 เดือนปฏิบัติการ 1027  สะเทือนความมั่นคงเมียนมา PHOTO BY REUTERS

ปฏิบัติการนี้ระดมพลนักรบราว 2 หมื่นคน และนับเป็นการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลทหารที่ใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่มีการรัฐประหาร นอกเหนือจากการเข้ายึดพื้นที่สำคัญของรัฐบาลทหารเมียนมาได้แล้ว พวกเขายังได้รับแรงเชียร์จากประชาชนหลายกลุ่มในเมียนมา ซึ่งเป็นฝ่ายต่อต้านรัฐบาล หรือเป็นกลุ่มที่รู้สึกไม่พอใจนับตั้งแต่เกิดการรัฐประหาร

ภายในระยะเวลา 1 เดือน ฐานที่มั่นของกองทัพรัฐบาลทหารเมียนมากว่า 224 แห่ง และเมืองอีก 7 เมืองทางตอนเหนือของรัฐฉาน ถูกจู่โจมและยึดเอาไว้ รวมทั้งจุดผ่านแดนหลายจุดที่มีความสำคัญต่อเส้นทางการค้าระหว่างจีนและเมียนมาอีกด้วย

นับตั้งแต่เปิดปฏิบัติการ ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลได้เข้ายึกเมืองสำคัญหลายแห่ง เช่น เมืองชินฉ่วยฮ่อ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าบนชายแดนเมียนมาติดกับจีน และในเวลาต่อมา พวกเขายังสามารถยึดเมืองแสนหวี อีกหนึ่งเมืองยุทธศาสตร์ที่สำคัญได้ นอกจากนี้ ยังยึดประตูจี่งซานเจ้าะ ซึ่งเป็นจุดผ่านแดนที่เมืองมูแซกับจีน

หลังการโจมตีฐานที่มั่นของกองทัพรัฐบาลทหารเมียนมาหลายแห่ง เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา กองทัพของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆยังสามารถยึดเมืองคุนหลง เมืองเอกของรัฐฉาน ซึ่งถือว่ามีความสำคัญของกองทัพรัฐบาลทหารเป็นอย่างมาก ดังนั้นในเวลานี้ รัฐฉานจึงกลายเป็นจุดที่สถานการณ์ค่อนข้างตึงเครียด และคาดว่า เหตุโจมตีจะทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ปฏิบัติการ 1027  PHOTO BY REUTERS

รัฐฉาน ดินแดนแห่งยาเสพติดและแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เป้าหมายของกลุ่มพันธมิตรภราดรภาพ นอกจากจะปราบปรามกองทัพของรัฐบาลทหารเมียนมาแล้ว พวกเขายังประกาศที่จะปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งก่อเหตุต้มตุ๋นหลอกลวงออนไลน์อีกด้วย กลุ่มโกก้าง หนึ่งในสมาชิกของพันธมิตรภราดรภาพเปิดปฏิบัติการที่ตั้งเป้าจะกวาดล้างแก๊งต้มตุ๋นออนไลน์ทั้งหมดให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทางตอนเหนือของรัฐฉาน ซึ่งติดกับชายแดนของจีน กลายมาเป็นศูนย์กลางของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็ว่าได้

อัลจาซีราห์รายงานว่า อุตสาหกรรม “สแกมเมอร์” บูมขึ้นอย่างมากในพื้นที่ดังกล่าว นับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารเมื่อปี 2021 และเบื้องหลังก็คือแก๊งจีนสีเทา ที่ทำงานร่วมกับกองทัพทหาร และพันธมิตรอื่นๆ

สหประชาชาติเผยแพร่รายงานฉบับหนึ่งเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา พบว่า มีประชาชนราว 120,000 คน ซึ่งประกอบไปด้วยหลายเชื้อชาติ ทั้งจีน และไทยรวมอยู่ด้วย ถูกหลอกลวงเข้าสู่อุตสาหกรรมคอลเซ็นเตอร์ในเมียนมา พวกเขาถูกบังคับให้โทรศัพท์ไปต้มตุ๋นผู้คนทั่วโลก และยังถูกต้องถูกทารุณต่างๆนาๆอีกด้วย

อุตสาหกรรมต้มตุ๋นหลอกลวงออนไลน์นี้กลายมาเป็นปัญหาของรัฐบาลจีน เนื่องจากมีชาวจีนจำนวนมากที่ตกเป็นเหยื่อ พวกเขาพยายามเพิ่มแรงกดดันรัฐบาลทหารเมียนมาให้เร่งปราบปราม และไม่กี่เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลจีนเปิดปฏิบัติการข้ามพรมแดนหลายครั้ง เพื่อจับกุมและช่วยเหลือชาวจีนกลับประเทศรวมกันมากกว่า 4,500 คน

นอกเหนือจากปัญหาเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์แล้ว ภูมิภาคนี้ยังเป็นรู้จักกันดีว่ามียาเสพติดแพร่หลาย ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ที่นี่คือแหล่งปลูกฝิ่นขนาดใหญ่ และยังเป็นแหล่งลักลอบค้ายาเสพติดอีกด้วย

 

เมืองเลาห์ก่าย สวรรค์คนบาป

เลาห์ก่ายคือเมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของรัฐฉาน และเมื่อปี 2009 พลเอกอาวุโสมิน อ่องหล่าย สร้างชื่อจนโด่งดังที่เมืองเลาห์ก่าย เพราะเขาเข้ามาขับไล่กลุ่มโกก้าง หนึ่งในกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีอิทธิพลที่สุดและปกครองเมืองดังกล่าวออกไป ก่อนที่จะแต่งตั้งกองกำลังขึ้นมาเพื่อดูแลเรื่องยาเสพติด การพนัน และการค้าประเวณี เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและเหล่านักพนันที่เดินทางข้ามมาจากชายแดนจึน

แม้ที่นั่นจะห่างไกลและถูกควบคุมอย่างเข้มงวด แต่ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวเอเอฟพีคนหนึ่งเคยไปเยือนที่นั่นสมัยที่อยู่ภายใต้การปกครองของกองกำลังของนายพลมิน อ่องหล่ายเมื่อราวสิบกว่าปีที่แล้ว ผู้สื่อข่าวคนนั้นบรรยายว่า เขาพบแก๊งคู่แข่งยิงปืนสนั่นกลางถนน ท่ามกลางคาสิโนจำนวนมากที่เต็มไปด้วยนักพนันชาวจีน

เมื่อสมัยที่เมืองเลาห์ก่ายได้รับความนิยมสุดขีด ชาวต่างชาตินิยมเดินทางไปทำงานกัน frontiermyanmar รายงานว่า ชายคนหนึ่งที่เคยไปทำงานที่นั่นในฐานะช่างซ่อมรถ หาเงินได้เดือนละ 400 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 12,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นเงินที่เยอะมากในสมัยนั้น ก่อนที่เขาจะตัดสินใจหลบหนีออกมา

เลาห์ก่ายผ่านประวัติศาสตร์อันโชกโชน ทั้งยาเสพติด การพนัน และโสเภณี ท่ามกลางการสู้รบของกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มโกก้าง ที่บางช่วงเวลาที่เกิดความขัดแย้งกับกองทัพทหาร ก็จะบุกโจมตีในเมืองดังกล่าว

ปัจจุบัน เลาห์ก่ายยังคงเป็นเมืองแห่งคนบาป ที่นั่นมีคาสิโนมากกว่า 30 แห่ง โรงแรมราว 50 แห่ง เต็มไปด้วยตึกสูงกว่าในนครย่างกุ้ง และมีรถยนต์หรูยี่ห้อดังราคาแพงวิ่งขวักไขว่ไปหมดเต็มท้องถนน

ผู้ที่ไปเยือนบอกว่า แทบจะไม่รู้เลยว่าตนเองอยู่ในเมียนมา และภาษาที่ได้ยินตลอดเวลาก็คือภาษาจีนแมนดาริน ขณะที่ค่าเงินที่ใช้กันอย่างเป็นทางการก็คือ เงินหยวน

คาสิโนที่นั่นคือส่วนหนึ่งของธุรกิจสีเทาอย่างแท้จริง หลายแห่งก่อตั้งขึ้นก่อนกฎหมายพนันของเมียนมาจะบังคับใช้ด้วยซ้ำไป โดยกฎหมายการพนันของเมียนมาเพิ่งจะมีขึ้นเมื่อปีที่แล้ว เปิดทางให้รัฐบาลออกใบอนุญาตให้ประกอบกิจการคาสิโนได้ ขณะทีบางแห่งก็มีใบอนุญาตจากเขตปกครองตนเองโกก้าง แต่พวกเขาจะระบุตนเองว่าเป็นบริษัท ไม่ใช่คาสิโน

คาสิโนที่เลาห์ก่ายเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และเปิดทุกวันในหนึ่งปีไม่มีวันหยุด แต่ในช่วงการระบาดของโควิด 19 ที่ทางการจีนคุมการระบาดอย่างเข้มงวด บรรยากาศที่เลาห์ก่ายก็เงียบเหงาลงไปเช่นกัน ในช่วงเวลานั้น โรงแรมจำนวนมากปิดปรับปรุง ซ่อมแซม จนกระทั่งเมื่อทางการจีนผ่อนคลายมาตรการโควิด 19 ความคึกคักก็กลับมาอีกครั้ง

แต่ในเวลานี้ เมืองเลาห์ก่ายกำลังกลับมาเงียบเหงาอีกครั้ง เพราะเหตุการณ์สู้รบที่เกิดขึ้นระหว่างกองกำลังชาติพันธุ์ต่างๆ กับกองกำลังของรัฐบาลทหารเมียนมา ผู้คนอพยพออกมา ขณะที่บรรดาเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็ได้รับความช่วยเหลือ

กองกำลังโกก้างประกาศว่า อุตสาหกรรมคอลเซ็นเตอร์คืออาชญากรรม เป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรงมาก สเกลของที่นั่นใหญ่มาก คล้ายธุรกิจขนาดใหญ่ เหมือนโรงงาน และนับจนถึงขณะนี้ กองกำลังโกก้างระบุว่า ได้เข้าช่วยเหลือประชาชนจำนวนมากที่ถูกหลอกมา หลายคนอยู่ภายใต้การดูแลของกองกำลัง และหลายคนรอส่งตัวกลับประเทศอยู่

ข่าวที่เกียวข้อง 

 

related