svasdssvasds

สัปปายะสภาสถาน รัฐสภาแห่งความสิ้นเปลือง งบซ่อมสร้างที่เกินจริง

สัปปายะสภาสถาน รัฐสภาแห่งความสิ้นเปลือง งบซ่อมสร้างที่เกินจริง

งบปรับปรุงรัฐสภา 2.7 พันล้านบาทถูกตั้งคำถาม สส.-สว.ชี้ฟุ่มเฟือย ทั้งที่จอดรถ ศาลาแก้ว ท่ามกลางปัญหาอาคารชำรุด 'ช้า มั่ว รั่ว พัง' หลังใช้งานเพียง 5 ปี

SHORT CUT

  • มีการตั้งข้อสังเกตว่างบประมาณปรับปรุงรัฐสภาหลายพันล้านบาท โดยเฉพาะ 15 โครงการที่ขอไปในปี 2569 มูลค่ารวม 2,773 ล้านบาท หรือ 10 โครงการที่อยู่ในร่างงบประมาณ 956 ล้านบาท เป็นงบประมาณที่ ฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น ไม่สมเหตุสมผล และไม่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันที่ย่ำแย่ ทั้งที่รัฐสภาใช้งบก่อสร้างไปแล้วกว่า 13,000-22,000 ล้านบาท
  • รัฐสภาใช้งานมาเพียง 4-5 ปี แต่กลับพบปัญหา ชำรุดทรุดโทรม ในหลายจุด เช่น น้ำรั่ว (ทั้งน้ำฝนและน้ำแอร์) ฝ้าเพดานถล่ม ราขึ้นตามเสา ห้องน้ำเสีย และไม่มีป้ายบอกทางที่ชัดเจน ทำให้หาห้องยาก ในขณะที่ปัญหาเหล่านี้ยังไม่มีงบประมาณมาจัดการอย่างเพียงพอ
  • หลายโครงการที่ขอไปมี ความจำเป็นและเหตุผลในการใช้จ่ายที่ไม่ชัดเจน เช่น การปรับปรุงศาลาแก้ว 123 ล้านบาทที่ถูกมองว่าไม่ช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือระบบภาพยนตร์ 4D 180 ล้านบาทที่ไร้เหตุผล นอกจากนี้ยังมีการตั้งคำถามถึงโครงการอาคารจอดรถเพิ่มเติม งบ 1,529-4,600 ล้านบาท

งบปรับปรุงรัฐสภา 2.7 พันล้านบาทถูกตั้งคำถาม สส.-สว.ชี้ฟุ่มเฟือย ทั้งที่จอดรถ ศาลาแก้ว ท่ามกลางปัญหาอาคารชำรุด 'ช้า มั่ว รั่ว พัง' หลังใช้งานเพียง 5 ปี

อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ หรือ "สัปปายะสภาสถาน" ซึ่งตั้งตระหง่านริมแม่น้ำเจ้าพระยา ได้รับการขนานนามว่าเป็นอาคารรัฐสภาที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่เพียงไม่นานหลังจากเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการ ปัญหาการชำรุดทรุดโทรมได้ปรากฏขึ้นควบคู่ไปกับการตั้งคำถามถึงความคุ้มค่าของงบประมาณก่อสร้างที่บานปลายไปถึงกว่า 22,987 ล้านบาท จากที่ตั้งต้นไว้ 12,280 ล้านบาท 

ล่าสุด ประเด็นการใช้งบประมาณของรัฐสภาได้ร้อนระอุขึ้นอีกครั้ง เมื่อมีการเปิดเผยคำของบประมาณปี 2569 เพื่อปรับปรุงและต่อเติมอาคารอีก 15 โครงการ มูลค่ารวมสูงถึง 2,773 ล้านบาท ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของประเทศ งบประมาณก้อนใหม่นี้ได้จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากทั้งสมาชิกรัฐสภาและประชาชน ถึงความจำเป็น ความสมเหตุสมผล และความโปร่งใสในการใช้เงินภาษี บทความนี้จะเจาะลึกรายละเอียดของโครงการที่เป็นข้อถกเถียง และเสียงทักท้วงจากฝ่ายต่างๆ ที่มองว่างบประมาณเหล่านี้เป็นความฟุ่มเฟือยที่ไม่เหมาะสม

ปัญหาอาคารปัจจุบันและการใช้งบประมาณที่ไม่ตรงจุด

แม้จะใช้งานมาเพียงประมาณ 4-5 ปี แต่อาคารรัฐสภาแห่งใหม่กลับมีสภาพชำรุดทรุดโทรมอย่างมาก สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้กล่าวถึงปัญหาที่พบเจอเป็นประจำ เช่น น้ำรั่วจากน้ำฝนและน้ำแอร์ ฝ้าเพดานถล่ม ลาขึ้นตามเสา นอกจากนี้ อาคารยังขาดป้ายบอกทางที่ชัดเจน ทำให้การหาห้องประชุมเป็นไปอย่างยากลำบาก เปรียบเสมือน "รัฐสภาพิศวง" ที่ต้องใช้ "เชื่อมจิต" ในการนำทาง ปัญหาเร่งด่วนอื่นๆ ที่ควรได้รับการแก้ไขคืองบประมาณสำหรับห้องน้ำชายบริเวณชั้น B1 ที่ชำรุดและใช้งานไม่ได้มานานหลายเดือน

อย่างไรก็ตาม งบประมาณที่ขอมาใหม่นี้ ส่วนใหญ่ไม่ใช่เพื่อแก้ไขปัญหาพื้นฐานเหล่านี้ แต่เป็นโครงการปรับปรุงและต่อเติมที่หลายฝ่ายมองว่าฟุ่มเฟือย โดยมี 10 โครงการอยู่ในร่างงบประมาณปี 2569 มูลค่า 956 ล้านบาท และอีก 5 โครงการที่ขอไปแล้วแต่ยังไม่ได้รับการจัดสรร มูลค่า 1,817 ล้านบาท

โครงการที่เป็นข้อถกเถียงและเสียงวิพากษ์วิจารณ์

ในบรรดา 15 โครงการที่ถูกตั้งข้อสังเกต มีหลายโครงการที่ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก:

โครงการก่อสร้างอาคารจอดรถรัฐสภา (เพิ่มเติม) งบประมาณ 1,529 ล้านบาท (รวมค่าควบคุมงานและค่าจ้างที่ปรึกษา) หรือประมาณ 4,600 ล้านบาท สำหรับ 4,600 ช่องจอด (ตกคันละ 1 ล้านบาท) ปัญหานี้สืบเนื่องมาจากแบบอาคารเดิมที่มีที่จอดรถเพียง 1,935 คัน ซึ่งน้อยกว่าที่ข้อบัญญัติของกรุงเทพมหานครกำหนดไว้สำหรับอาคารขนาดใหญ่ (ต้องมีที่จอดรถ 1 คันต่อพื้นที่ 120 ตร.ม. ทำให้ต้องมีประมาณ 3,530 คัน) นั่นหมายความว่าการออกแบบอาคารเดิมผิดกฎหมายมาตั้งแต่ต้น สส.พริษฐ์ วัชรสินธุ และ สว.นันทนา นันทวโรภาส ตั้งคำถามว่าใครควรเป็นผู้รับผิดชอบต่อความผิดพลาดนี้ ไม่ใช่การนำเงินภาษีประชาชนมาแก้ไข สส.ปดิพัทธ์ สันติภาดา ตั้งข้อสังเกตว่าโครงการนี้อาจเป็น "ดำริ" ของฝ่ายการเมือง และที่จอดรถมักเป็นปัญหาสำหรับ "ผู้ใหญ่" มากกว่าประชาชนทั่วไป นอกจากนี้ การของบประมาณ 4,600 ล้านบาทสำหรับ 4,600 ช่องจอดถูกมองว่าสูงเกินไปและไม่สมเหตุสมผลกับจำนวนผู้ใช้งานพร้อมกัน

โครงการปรับปรุงศาลาแก้ว 2 หลัง งบประมาณ 123 ล้านบาท สำนักงานสภาชี้แจงว่ามีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการ, ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ, สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการตัดสินใจ/การประชุม, ตอบสนองความต้องการประชาชน, และพัฒนาภาครัฐให้ทันสมัย โดยจะเป็นพื้นที่ต่อเนื่องกับพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และใช้ต้อนรับผู้นำต่างประเทศหรือแขกของรัฐสภา รวมถึงจัดพิธีการและกิจกรรมให้ประชาชนใช้ อย่างไรก็ตาม สส.พริษฐ์มองว่าวัตถุประสงค์เหล่านี้ไม่สามารถเชื่อมโยงกับการปรับปรุงศาลาแก้วได้ โดยเฉพาะการอ้างว่าช่วยให้การตัดสินใจดีขึ้น และมองว่าดูเหมือนจะเน้นการต้อนรับผู้นำต่างประเทศมากกว่าประชาชน ซึ่งประชาชนอาจไม่ได้ต้องการสิ่งนี้ สส.ปดิพัทธ์กล่าวเสริมว่าผู้นำต่างชาติที่เคยมาเยือนหลายคนกลับมองว่ารัฐสภาไทยใหญ่และฟุ่มเฟือยเกินไปอยู่แล้ว การเพิ่มความอลังการจึงไม่ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สว.นันทนาเสนอว่าศาลาแก้วเหมาะแก่การ "ตากปลาหมอคางดำ" มากกว่าติดแอร์ และเตือนว่างบติดแอร์ 123 ล้านบาท อาจทำให้ค่าไฟรัฐสภาพุ่งสูงขึ้นจากเดือนละ 12-13 ล้านบาท เป็น 30 ล้านบาท อดีตประธาน กมธ.ป.ป.ช. วิลาศ จันทร์พิทักษ์ ยังเปิดเผยข้อสงสัยเกี่ยวกับการก่อสร้างที่ไม่ตรงแบบ เช่น การใช้หินขนาดผิดจากที่กำหนด และการปูกระเบื้องใต้สระน้ำที่หลุดล่อนทำให้น้ำซึมไปยังชั้น B1 การติดแอร์อาจเอื้อประโยชน์ให้เอกชนบางแห่ง สว.พรชัย วิทยเลิศพันธุ์ ตั้งข้อสังเกตว่าศาลาแก้วอาจใช้งานเพียงไม่กี่ครั้ง ในขณะที่ห้องใกล้เคียงที่ประชาชนมายื่นเรื่องร้องเรียนเป็นประจำกลับไม่มีแอร์

โครงการพัฒนาระบบภาพยนตร์ 4D ห้องบรรยายใหญ่ งบ 180 ล้านบาท สว.นันทนากล่าวว่ารัฐสภาฝ่ายนิติบัญญัติไม่ต้องการ "ดินน้ำลมไฟ" หรือแรงสั่นสะเทือนพายุ สส.ปดิพัทธ์มองว่าโครงการนี้ไร้เหตุผลและไม่ตอบโจทย์การมีส่วนร่วมทางการเมือง การมีส่วนร่วมที่แท้จริงคือการได้เห็นกระบวนการจริง เช่น การประชุมสภา หรือพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ ไม่ใช่การชมภาพยนตร์จำลอง เขายังเปรียบเทียบว่าเป็น "คอปป้าแกรนด์ที่ไร้สาระ" สส.พริษฐ์ระบุว่าหน่วยงานไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดที่ทำให้เห็นถึงความคุ้มค่าหรือเหตุจำเป็นในการทำระบบ 4D นี้ได้ 

โครงการออกแบบและตกแต่งฉากหลังบัลลังก์ประธานสภาในห้องประชุมสุริยัน งบ 133 ล้านบาท สส.ปดิพัทธ์กล่าวว่าฉากหลังปัจจุบันดูเหมือนยังไม่เสร็จ หรือดูเหมือน "โรงลิเก" ซึ่งไม่เหมาะสมสำหรับห้องประชุมที่ต้องการสมาธิ การแสดงแนวคิดเชิงวัฒนธรรมหรือประวัติศาสตร์ควรอยู่ในพื้นที่เฉพาะ เช่น พิพิธภัณฑ์

โครงการปรับปรุงพิพิธภัณฑ์รัฐสภา งบ 44 ล้านบาท สว.นันทนา เรียกพิพิธภัณฑ์นี้ว่า "ป่าช้า" เพราะไม่มีสิ่งใดจัดแสดงที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการนิติบัญญัติ สว.พรชัยมองว่าใช้งบประมาณร้อยล้านในการซ่อมแซมพิพิธภัณฑ์ที่แทบไม่เคยใช้งานเป็นสิ่งไม่จำเป็น

โครงการซ่อมแซมปรับปรุงเสาไม้สัก งบ 31 ล้านบาท ปัญหานี้เกิดขึ้นทั้งที่อาคารเพิ่งรับมอบได้ไม่ถึง 1 ปี สว.นันทนาและ อดีตรองประธานสภาปดิพัทธ์ สันติภาดา ตั้งคำถามว่าผู้รับเหมาเดิมควรรับผิดชอบภายใต้การรับประกันหรือไม่ อดีตประธาน กมธ.ป.ป.ช. วิลาศ ยังพบข้อสงสัยว่ามีการใช้ไม้ปลอมปะปนอยู่ และขนาดความยาวไม้ผิดแบบในการปูพื้นบริเวณสระมรกต ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการใช้งบประมาณนี้

โครงการอื่นๆ เช่น ปรับปรุงไฟส่องสว่างห้องสัมมนา 117 ล้านบาท, ปรับปรุงห้องประชุม CB406 118 ล้านบาท, ปรับปรุงพื้นที่ครัว 117 ล้านบาท, ติดตั้งภาพและเสียงห้องจัดเลี้ยง 99 ล้านบาท, จัดซื้อจอ LED 72 ล้านบาท, ปรับปรุงภูมิทัศน์ 43 ล้านบาท, ปรับปรุงห้องจัดเลี้ยงชั้น 1 43 ล้านบาท โครงการเหล่านี้ถูกมองว่าเป็นงบที่สิ้นเปลือง โดยเฉพาะเมื่อปัญหาพื้นฐาน เช่น น้ำรั่ว ฝ้าถล่ม ยังไม่ได้รับการแก้ไข

ข้อกังวลเกี่ยวกับกระบวนการงบประมาณและความรับผิดชอบ

นอกเหนือจากความไม่สมเหตุสมผลของโครงการ ตัวแทนสมาชิกรัฐสภายังตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับที่มาและกระบวนการจัดทำคำของบประมาณ ผู้อำนวยการสำนักอาคารสถานที่กล่าวว่าการของบประมาณใหม่เกิดขึ้นก่อนที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่ง และโครงการทั้ง 15 ไม่ได้อยู่ในสัญญาการก่อสร้างฉบับเดิม อดีตผู้อำนวยการสำนักงานอาคารสถานที่กล่าวว่ายังเหลือเงินส่วนหนึ่งที่ต้องเรียกค่าเสียหายจากผู้รับจ้าง ซึ่งขณะนี้งบอยู่ที่สำนักงานการคลัง

มีการตั้งคำถามถึงการใช้งบประมาณ "เหลือจ่าย" จากหน่วยงานอื่น หรือการโอนงบประมาณเพื่อดำเนินการโครงการใหม่ โดยที่ยังไม่ได้รับการอนุมัติงบประมาณโดยตรง ซึ่งอาจเสี่ยงต่อความไม่โปร่งใสและผิดหลักกฎหมาย ตัวแทนสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ชี้แจงว่าสามารถโอนงบประมาณได้ตามระเบียบรัฐสภา แต่ สส.พริษฐ์มองว่าระเบียบนี้ต่ำกว่า พ.ร.บ.งบประมาณ และการโอนงบประมาณลักษณะนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นอกจากนี้ ยังมีข้อกังวลว่าโครงการบางส่วนอาจถูกเสนอมาจากคณะกรรมการพิเศษที่ตั้งโดยฝ่ายการเมือง ไม่ใช่จากหน่วยงานราชการโดยตรง

ฝ่ายตรวจสอบเรียกร้องให้เปิดเผยเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบและที่มาของโครงการ และให้มีการรับผิดชอบสำหรับความผิดพลาดในการออกแบบตั้งแต่ต้น ปัจจุบันยังมีเงินค้างอยู่กว่า 300 ล้านบาท ที่ยังไม่ได้เบิกจ่าย เพราะบางประเด็นต้องเรียกค่าเสียหายจากผู้รับจ้าง และมีคดีความเกี่ยวกับรัฐสภาค้างคาอยู่ใน ป.ป.ช. อย่างน้อย 56 เรื่อง
ท่าทีสำนักงานเลขาธิการสภาฯ และขั้นตอนต่อไป

ตัวแทนสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรชี้แจงว่า คำของบประมาณทั้งหมดมาจากคณะกรรมการของแต่ละหน่วยงาน และตนในฐานะหัวหน้าส่วนราชการได้ดำเนินการตามกระบวนการ การจะตัดโครงการใดออกจำเป็นต้องหารือกับผู้เกี่ยวข้องและเจ้าของโครงการก่อน เลขาธิการสภาฯ ยืนยันว่าไม่สามารถใช้อำนาจเพียงลำพังในการตัดสินใจได้ และยินดีที่จะนำข้อเสนอแนะทั้งหมดไปหารือกับฝ่ายบริหารของรัฐสภา

สส.พริษฐ์และสส.ปดิพัทธ์ได้เรียกร้องให้เลขาธิการสภาฯ นำข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการและเสียงวิจารณ์จากประชาชนเข้าสู่ที่ประชุมผู้บริหารรัฐสภา ซึ่งมีประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธาน ในวันที่ 13 พฤษภาคมนี้ และขอให้ที่ประชุมมีมติอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรว่าจะยุติโครงการใดบ้าง พวกเขามองว่าการโยนให้คณะกรรมาธิการวิสามัญงบประมาณฯ ไปตัดงบประมาณเองไม่เพียงพอ และมติที่ชัดเจนจะช่วยป้องกันความเสี่ยงที่งบประมาณจะถูกโอนกลับมาใช้ในโครงการเหล่านี้อีกในอนาคต นอกจากนี้ มติของผู้บริหารยังสามารถช่วยเรียกคืนความเชื่อมั่นจากประชาชนต่อผู้บริหารรัฐสภาได้

คำของบประมาณปรับปรุงและต่อเติมอาคารรัฐสภาแห่งใหม่มูลค่ากว่า 2.7 พันล้านบาท ได้ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางถึงความจำเป็นและความเหมาะสม หลายโครงการ เช่น การก่อสร้างอาคารจอดรถเพิ่มเติม, การปรับปรุงศาลาแก้ว, การติดตั้งระบบภาพยนตร์ 4D, และการตกแต่งฉากหลังบัลลังก์ประธานสภา ถูกมองว่าเป็นความฟุ่มเฟือยที่ไม่สมเหตุสมผล โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากปัญหาการชำรุดทรุดโทรมที่มีอยู่เดิมของอาคาร และสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศ สมาชิกรัฐสภาจากฝ่ายตรวจสอบได้ตั้งคำถามถึงที่มาของโครงการ, ความโปร่งใสในการใช้งบประมาณ, และความรับผิดชอบต่อความผิดพลาดในการออกแบบอาคารตั้งแต่แรก แม้สำนักงานเลขาธิการสภาฯ จะชี้แจงว่าเป็นไปตามกระบวนการและระเบียบต่างๆ แต่ฝ่ายตรวจสอบยังคงยืนยันว่าต้องคำนึงถึงความสมเหตุสมผลและความคุ้มค่าต่อภาษีประชาชนเป็นหลัก ประชาชนและสมาชิกรัฐสภากำลังจับตาดูการตัดสินใจของผู้บริหารรัฐสภา โดยเฉพาะอย่างยิ่งว่าพวกเขาจะรับฟังเสียงทักท้วงและมีมติยุติโครงการที่ไม่จำเป็นเพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบและฟื้นคืนความเชื่อมั่นจากสังคมได้หรือไม่ คุณภาพของรัฐสภาไม่ได้อยู่ที่ความยิ่งใหญ่หรือความสวยงามของอาคาร แต่อยู่ที่ประสิทธิภาพในการทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประชาชนในการแก้ไขปัญหาและตรวจสอบรัฐบาลอย่างโปร่งใสและคุ้มค่า

อ้างอิง

การเมือง1 / การเมือง2 / การเมือง3 / สว.พันธุ์ใหม่ / กรุงเทพธุรกิจ / พิพิธภัณฑ์รัฐสภา / 

related