svasdssvasds

เปิดสถิติ “งบเลือกตั้ง” ย้อนหลัง 20 ปี กว่า 2.5 หมื่นล้าน มีอะไรพัฒนาบ้าง?

เปิดสถิติ “งบเลือกตั้ง” ย้อนหลัง 20 ปี กว่า 2.5 หมื่นล้าน มีอะไรพัฒนาบ้าง?

สแกนงบเลือกตั้งย้อนหลัง 20 ปี พุ่งสูงเกือบ 3 เท่า! จากปี 2544 ถึง 2566 ใช้งบรวมไปแล้วกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท และสูญเปล่าไปกว่า 6,000 ล้านบาท จากการประกาศ "โมฆะ" พาวิเคราะห์ปัจจัยเบื้องหลังงบเลือกตั้งที่เพิ่มขึ้น?

SHORT CUT

  • งบประมาณจัดการเลือกตั้งทั่วไปตลอด 20 ปีที่ผ่านมามีมูลค่าสะสมกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  • การเลือกตั้งที่เป็นโมฆะ 2 ครั้ง (ปี 2549 และ 2557) ทำให้ประเทศสูญเสียงบประมาณจากภาษีประชาชนไปโดยเปล่าประโยชน์รวมกว่า 6,044 ล้านบาท
  • งบประมาณที่สูงขึ้นไม่ได้เป็นเครื่องการันตีเสถียรภาพทางการเมือง โดยการเลือกตั้งปี 2566 ใช้งบสูงสุดแต่กลับมีความผันผวนทางการเมืองมากที่สุดเช่นกัน

สแกนงบเลือกตั้งย้อนหลัง 20 ปี พุ่งสูงเกือบ 3 เท่า! จากปี 2544 ถึง 2566 ใช้งบรวมไปแล้วกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท และสูญเปล่าไปกว่า 6,000 ล้านบาท จากการประกาศ "โมฆะ" พาวิเคราะห์ปัจจัยเบื้องหลังงบเลือกตั้งที่เพิ่มขึ้น?

ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา งบประมาณในการจัดการเลือกตั้งทั่วไปของไทยพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยใช้งบเลือกตั้งรวมสะสมไปแล้วกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท ท่ามกลางบริบททางการเมืองที่ผันผวน ทั้งการเลือกตั้งที่เป็นโมฆะและการรัฐประหาร

ซึ่งหากเรามองย้อนกลับดูข้อมูลจาก สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สะท้อนให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจทั้งในแง่ของตัวเลขและผลลัพธ์ทางการเมือง ต้นทุนของประชาธิปไตยไทยไม่เคย "ราคาถูก" ลงเลย

การเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 6 มกราคม 2544 เป็นการเลือกตั้งครั้งสำคัญหลังรัฐธรรมนูญ 2540 ที่ โดยมี คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มาจัดการเลือกตั้งเป็นครั้งแรก และมีการเปลี่ยนแปลงหน่วยเลือกตั้งที่เน้นการกระจายตัวมากขึ้นตามเขตเลือกตั้งใหม่ และการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อและแบบแบ่งเขต เพื่อให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง

เปิดสถิติ “งบเลือกตั้ง” ย้อนหลัง 20 ปี กว่า 2.5 หมื่นล้าน มีอะไรพัฒนาบ้าง?

สถิติ “งบเลือกตั้ง” ย้อนหลัง 20 ปี

1. วันที่ 6 ม.ค. 2544

  • งบประมาณที่ใช้ในการเลือกตั้ง 2,000 ล้านบาท
  • ได้ ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี

2. วันที่ 6 ก.พ. 2548

  • งบประมาณที่ใช้ในการเลือกตั้ง 1,500 ล้านบาท
  • ได้ ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี

3. วันที่ 2 เม.ย. 2549

  • งบประมาณที่ใช้ในการเลือกตั้ง 2,159 ล้านบาท (แต่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้โมฆะ นำมาซึ่งการถูกรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549)
  • พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี

4. วันที่ 23 ธ.ค. 2550

  • งบประมาณที่ใช้ในการเลือกตั้ง 2,521 ล้านบาท
  • ได้ สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี

5. วันที่ 3 ก.ค. 2554

  • งบประมาณที่ใช้ในการเลือกตั้ง 3,000 ล้านบาท
  • ได้ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

6. วันที่ 2 ก.พ. 2557

  • งบประมาณที่ใช้ในการเลือกตั้ง 3,885 ล้านบาท
  • เกิดการชุมนุมขัดขวางหน่วยเลือกตั้ง ทำให้ไม่สามารถเลือกตั้งทั่วประเทศได้ในวันเดียว  (ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการเลือกตั้งไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและเป็นโมฆะ ทำให้เกิดรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557)

7. วันที่ 24 มี.ค. 2562

  • งบประมาณที่ใช้ในการเลือกตั้ง 4,220 ล้านบาท
  • พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

8. วันที่ 7 พ.ค. 2566

  • งบประมาณที่ใช้ในการเลือกตั้ง 5,945 ล้านบาท
  • ได้เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี

เป็นที่น่าสังเกตว่าการเลือกตั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้เป็น "โมฆะ" หรือถูกขัดขวางจนไม่สามารถสรุปผลได้ 2 ครั้ง ทำให้เราสูญเสียภาษีไปเปล่าๆ รวมกว่า 6,044 ล้านบาท 

และการเลือกตั้งปี 2566 ที่ใช้งบประมาณสูงที่สุด แต่ความผันผวนทางการเมืองก็มากสุดเช่นกัน ประเทศไทยมี "นายกรัฐมนตรีถึง 3 คน" คำถามคือ งบที่จ่ายไป ตอบโจทย์ "เสถียรภาพการเมือง" และ "ประชาธิปไตย" ที่เราต้องการจริงหรือไม่?

เปิดสถิติ “งบเลือกตั้ง” ย้อนหลัง 20 ปี กว่า 2.5 หมื่นล้าน มีอะไรพัฒนาบ้าง?

ทำไม "งบประมาณเลือกตั้ง" ยิ่งนาน... ยิ่งแพง?

ตัวเลขงบประมาณเลือกตั้งที่เพิ่มขึ้นไม่ได้มาจากแค่ค่าผลิต "บัตรเลือกตั้ง" หรือ "หีบพลาสติก" แต่สะท้อนถึงกลไกที่ซับซ้อนขึ้น เช่น ปัจจัยอย่างจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น การบริหารจัดการหน่วยเลือกตั้งกว่า 90,000 แห่งทั่วประเทศ และการใช้เทคโนโลยีเพื่อป้องกันการทุจริต ล้วนเป็นคือต้นทุนสำคัญที่ทำให้ "ราคาต่อหัว" ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งสูงขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้

ดูประวัติศาสตร์ ‘การเลือกตั้งที่สกปรกที่สุด’

หากย้อนไปในปี พ.ศ. 2500 การเลือกตั้งที่เป็นการแข่งขันกัน 2 พรรคใหญ่ คือ พรรคเสรีมนังคศิลากับพรรคประชาธิปัตย์ ถูกจารึกว่า "สกปรกที่สุดในประวัติศาสตร์" ด้วยวิธีการโกงสารพัดรูปแบบ ตั้งแต่พลร่ม เวียนเทียนลงคะแนน ไปจนถึงพบไพ่ไฟเกลื่อนกรุง

ไพ่ไฟ คืออะไร ทำไมเกี่ยวข้องการทุจริตเลือกตั้ง

ไพ่ไฟ หมายถึง รูปแบบการทุจริตการเลือกตั้งโดยใช้ตั้งบัตรลงคะแนนเสียงเลือกด้วยวิธีการทุจริต ด้วยการนำบัตรผี หรือบัตรปลอมลงในกล่องใส่บัตรเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก ในช่วงจังหวะที่ไม่มีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ในหน่วยเลือกตั้งจึงมีเพียงคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งที่ดูแลและควบคุมการใช้สิทธิเลือกตั้งของประชาชน เป็นการเปิดโอกาสให้เกิดการทุจริตในลักษณะดังกล่าวได้ง่าย หรืออาศัยช่วงเวลาเปิดหีบเลือกตั้งแล้วใช้เทคนิครีบนำไพ่ไฟหย่อนในหีบให้เร็วที่สุด หรือใกล้เวลาปิดหีบเลือกตั้งและนับคะแนนในกรณีที่นับคะแนนประจำหน่วยเลือกตั้งก็จะมีการนำไพ่ไฟเข้ามานับคะแนนร่วมด้วย

แม้ในปัจจุบันเราจะขยับมาไกลจากจุดนั้น และมีการจัดการเลือกตั้งทั่วไปมาแล้วถึง 26 ครั้ง (นับตั้งแต่ปี 2475) แต่ความท้าทายในเชิงคุณภาพยังคงอยู่ ประวัติศาสตร์บอกเราว่า การเลือกตั้งที่ "แพง" ไม่ใช่เครื่องการันตี "ความโปร่งใส"

เปิดสถิติ “งบเลือกตั้ง” ย้อนหลัง 20 ปี กว่า 2.5 หมื่นล้าน มีอะไรพัฒนาบ้าง?

เลือกตั้ง 2569 เดิมพันครั้งใหม่ในงบประมาณที่ (น่าจะ) สูงกว่าเดิม

เมื่อมองไปข้างหน้าสู่การเลือกตั้ง 2569 ภาพของผู้นำคนปัจจุบันอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล หรือแคนดิเดตคนอื่นๆ เริ่มถูกจับตามอง พร้อมทั้งนโยบายและรวบรวมมือดีทางการเมืองเอาไว้เพื่อหวังชนะการเลือกตั้ง และคาดว่างบประมาณเลือกตั้งอาจพุ่งสูงขึ้นเกินกว่า 6,000 ล้านบาท ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจ ความท้าทายในการบริหารจัดการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังคงมีการแข่งขันสูง

แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ "ตัวเลข" ในงบประมาณจัดการเลือกตั้ง ประชาชนและประเทศจะได้รับอะไรตอบแทนจากเงินก้อนนั้น?

ข้อมูลอ้างอิง

related