“เสรีพิศุทธ์” เข้าให้การ กกต. ปมพรรคเล็กรับกล้วยพรรคใหญ่ มั่นใจพยานหลักฐานชัดเจน ด้าน "สมชัย" จี้ กกต. ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนเลือกตั้ง มิเช่นอาจเข้าข่ายช่วยเหลือผู้กระทำผิด
วันนี้ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย พร้อมด้วยนายสมชัย ศรีสุทธิยากร สมาชิกพรรค เข้าให้การต่อคณะกรรมการสอบสวน ของ กกต.ในฐานะผู้ร้อง กรณีพรรคเล็กรับเงินจากพรรคใหญ่
หลังใช้เวลาชี้แจงนานกว่า 1 ชั่วโมง พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ว่าวันนี้ได้เป็นการให้รายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อยืนยันว่าพรรคการเมืองเล็กหลายพรรค ยินยอมให้พรรคพลังประชารัฐ เข้ามาครอบงำ ซึ่งเป็นการกระทำผิดทั้งสองฝ่าย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการพรรคการเมือง ยอมรับว่าพยานหลักฐานอาจจะไม่มีภาพตอนจ่ายเงินยืนยัน แต่มันมีการโอนเงินและมีการเซ็นรับ มีเลขบัญชีว่าโอนจากบัญชีนี้ไปบัญชีนี้ มันชัดเจนและเจ้าตัวเขาก็ยอมรับ ซึ่งเอกสารเหล่านี้ ก็หลุดออกไปตามสื่อมวลชนแล้ว นั้นคือพยานหลักฐานที่ชัดเจนมาก
"ถ้าเราสังเกต ดูพรรคเล็กพรรคปัดเศษ จะอยู่กับใคร อยู่ที่ไหน ถ้าได้เงินพวกนี้ก็จะแห่ไปอยู่ที่นั่นล่ะ อยู่กับฝ่ายค้านมันไม่มี ก็จะแห่ไปที่รัฐบาล พรรคใหญ่ก็คือพรรคพลังประชารัฐ ดังนั้นการที่ครอบงำก็คือพรรคพลังประชารัฐ ก็ดึงพวกนี้ไปและก็จ่ายเป็นรายเดือนและไม่ได้จ่ายเฉพาะพวกนี้ บุคคลในพรรคตัวเองก็จ่าย ไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย ผมก็งงว่าไม่รู้เอาเงินจากไหน มาจ่าย ถ้าไม่ทุจริตกันเอามาจ่ายไม่ได้หรอก เพราะมันมากมาย" พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมั่นใจในหัวหน้าพนักงานสอบสวนของ กกต.เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ และเมื่อให้การไปแล้ว เขาเข้าใจ และเขาก็รับปากว่า จะทำเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ทุกอย่างก็อยู่ที่กรรมการการเลือกตั้งว่า จะช้าเร็วแค่ไหน แต่ส่วนตัวคิดว่าไม่รอด ต้องส่งไปที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ให้พิจารณาทั้ง 6 พรรคเล็ก และพรรคใหญ่คือพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งมีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรคและมีร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นเลขาธิการพรรค แน่นอน
ส่วนที่ก่อนหน้านี้ มีการออกมาชี้แจงว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารลงลายมือชื่อผู้เข้าร่วมประชุม พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เอกสารดังกล่าวไม่ใช่เอกสารเข้าประชุม มันเป็นเอกสารรับเงินชัดเจน และทางนายสมชัย ก็ได้ยื่นเรื่องนี้ต่อ ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบแล้วด้วย แค่การรับเงินเกินกว่า 3,000 บาท ถือว่าผิดกฎหมายแล้ว คำพูดที่ให้สัมภาษณ์ของแต่ละฝ่ายก็มัดคอตัวเอง และส่วนตัวก็เชื่อว่าพลเอกประวิตร มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้ เพราะเขาก็รับเงินกันที่มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด และใครเป็นเจ้าของบ้านล่ะ
ด้านนายสมชัย กล่าวว่า เท่าที่ดูบรรยากาศการพูดคุยกับพนักงานสอบสวน ของ กกต. พบว่า มีรายละเอียดพอสมควร มีข้อมูลเพียงพอที่จะดำเนินการต่อ แต่ก็ต้องเรียกฝั่งผู้ถูกร้องมาให้ปากคำด้วย คงจะเป็นในโอกาสถัดไป ส่วนการตรวจสอบเลขบัญชีธนาคาร ทาง กกต.ได้ส่งจดหมายไปทุกธนาคารที่เกี่ยวข้อง เพื่อดูเงินหมุนเวียนเข้าบัญชีดังกล่าวแล้ว ว่าเงินจากบัญชีของใครถึงใครบ้าง ซึ่งเพิ่งส่งไปสัปดาห์ที่แล้ว
นายสมชัย ยังขอฝากไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่า ท่านควรที่จะสรุปเรื่องดังกล่าวและส่งเรื่องนี้ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง เพราะหากกระทำการล่าช้าและปล่อยให้มีการเลือกตั้งก่อน อาจจะเข้าข่ายว่าเป็นการช่วยเหลือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ซึ่งกรรมการการเลือกตั้งก็จะเป็นผู้ที่มีความผิดทางอาญา