เปิดตำนานเพลง "รักคือฝันไป" เพลงฮิตระดับตำนานที่มีเนื้อเพลงท่อนหนึ่งกลายเป็นมุกไวรัล "รักไม่ใช่ดวงดาวเมื่อพราวแสง" จากวง "สาว สาว สาว" เกิร์ลกรุ๊ปวงแรกของเมืองไทย สะท้อนวัฒนธรรมร่วมสมัยจากคนรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่งอย่างชัดเจน
กลายเป็นกระแสเทรนด์สุดฮิตที่เล่นกันทั่วโซเชียล เมื่อหลาย ๆ เพจได้นำท่อนแรกเพลง "รักคือฝันไป" ของวง "สาว สาว สาว" ที่มีเนื้อร้องว่า "รักไม่ใช่ดวงดาวเมื่อพราวแสง" มาต่อกับการสอนออกเสียงคำศัพท์จนเป็นมุก ไม่ว่าแบรนด์เล็กแบรนด์ใหญ่ ต่างออกมาโพสต์ข้อความ ทิ้งท้ายวลีเด็ดกันอย่างสนุกสนาน
สำหรับมุกไวรัล "รักไม่ใช่ดวงดาวเมื่อพราวแสง" ได้เริ่มต้นมาจากเพจ "คำไทย" ที่โพสต์ข้อความที่หลายคนมักเขียนผิดโดยเขียนว่า "งอน ไม่ใช่ งอล สังเกต ไม่ใช่ สังเกตุ อนุญาต ไม่ใช่ อนุญาติ รัก ไม่ใช่ ดวงดาวเมื่อพราวแสง" หลังจากโพสต์ไปก็มีหลาย ๆ คนเข้ามากดไลก์และเล่นมุกต่อจากเพจดังกล่าวกันล้นหลาม
ก่อนที่ต่อมาเพจดังกล่าวเผยว่าได้มุกมาจากแอคทวิตเตอร์หนึ่ง หลังจากนั้นไม่นาน หลายๆ เพจก็เริ่มร่วมสนุกกับมุกดังกล่าว เช่น สถานทูตสหรัฐ และสถานทูตสวีเดน ร้านไอศครีม ร้าน Fast Food รวมถึงเพจเล็กเพจใหญ่ในโซเชียล
ล่าสุดแม้แต่เจ้าของเพลง อย่าง "แหม่ม พัชริดา" ก็ยังไม่พลาด โดยเธอได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความว่า "ตอบกลับ ทุกสถานทูต สถานที่ทำงาน สถาน บันเทิง อาจรวมถึงสถานพยาบาลและทุกสถาน esp. เพจคำ ไทย ที่นำเนื้อเพลงของพวกเราไปเล่นสนุก เราชอบและ ขอบคุณ เครดิต. พี่วินัยจรัสอาชาผู้แต่งเนื้อเพลง Music Train น้าระย้า รูปภาพจากคอนเสิร์ตสาวสาวสาวๆๆ by พี่ฉอด"
สำหรับที่มาของเพลง รักคือฝันไป ย้อนกลับไปในปี 2524 "ระย้า-ประเสริฐ พงษ์ธนานิกร" เจ้าของค่ายเพลงรถไฟดนตรี เล็งเห็นว่าตลาดเพลงไทยนั้นยังไม่มีเพลงที่เป็นนักร้องวัยรุ่น จึงได้ปรึกษากับ "อ.วิรัช อยู่ถาวร" เพื่อหาวิธีสร้างความแปลกใหม่และอุดช่องว่างของวงการเพลงไทย
ในที่สุดจึงได้เกิดการรวมตัวกันของนักร้องวัยรุ่นหญิง 3 คน คือ "แอม-เสาวลักษณ์ ลีละบุตร", "แหม่ม-พัชริดา วัฒนา" และ "ปุ้ม-อรวรรณ เย็นพูนสุข" ในนามของ สาว สาว สาว ที่เน้นการประสานเสียง มีท่าเต้นประกอบ และการแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งถือว่าเป็นศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปวงแรกของไทย โดยออกอัลบั้มแรกในปี 2525 ชื่อว่า "รักปักใจ" ซึ่งยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากภาพลักษณ์มีความเป็นผู้ใหญ่เกินวัยของทั้ง 3 คน
ปี 2526 สาว สาว สาว กลับมาอีกครั้งด้วยภาพลักษณ์ ความสดใส น่ารัก สมกับวัยของทั้ง 3 คน กับอัลบั้มที่ชื่อว่า "ประตูใจ" ซึ่งมีเพลงฮิตที่กลายเป็นตำนานที่ติดหูและร้องตามได้มาจนปัจจุบันคือ "รักคือฝันไป" และ "ประตูใจ" โดยอัลบั้มนี้สามารถทำยอดขายได้มากถึง 300,000 ชุด ซึ่งประสบความสำเร็จมากในยุคนั้น อีกทั้ง 2 เพลงข้างต้นยังสามารถติดชาร์ตเพลงในคลื่นวิทยุเป็นเวลานาน
และจากกระแสนิยมของเพลงส่งผลให้ สาว สาว สาว โด่งดังกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศได้ออกรายการวิทยุและโทรทัศน์ ถ่ายแบบนิตยสาร รวมถึงสร้างปรากฏการณ์ทำสตูดิโอถ่ายทำแตก จากการแสดงคอนเสิร์ตผ่านรายการ "โลกดนตรี" เนื่องจากมีคนไปรอชมคอนเสิร์ตเป็นจำนวนมาก จนภายหลังทางรายการต้องย้ายสถานที่จัดคอนเสิร์ตมาเป็นสถานที่กลางแจ้งแทน
จากนั้น สาว สาว สาว ยังคงมีผลงานเพลงออกมาอย่างต่อเนื่องถึง 10 อัลบั้ม โดยในปี 2532 ได้เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมแสดงในเทศกาลดนตรีโตเกียว ครั้งที่ 18 (Tokyo Music Festival 1989) ก่อนที่จะยุบวงในปี 2533 โดยได้เล่นคอนเสิร์ตในรายการ "7 สีคอนเสิร์ต" เป็นคอนเสิร์ตอำลา
จากนั้นทุกคนจะแยกย้ายกันไปเติบโตตามทางของตัวเอง โดยแอมกลายเป็นนักร้องนักแต่งเพลงแถวหน้าของค่ายแกรมมี่ ขณะที่แหม่มเป็นศิลปินและผู้บริหารค่ายอาร์เอส ส่วน ปุ้ม เป็นนักร้องคนแรกในตระกูลลีลา ภายใต้การดูแลของ "แจ้-ดนุพล แก้วกาญจน์" และเป็นครูใหญ่บ้าน “Academy Fantasia” รายการเรียลลิตี้ประกวดร้องเพลงที่โด่งดังที่สุดรายการหนึ่งของไทย
และเนื่องจากแต่ละคนแยกย้ายกันไปคนละสังกัด จึงทำให้ สาว สาว สาว ไม่ได้กลับมารวมตัวกัน จนกระทั่ง แหม่ม พัชริดา ได้ออกจากค่ายอาร์เอสจึงเป็นโอกาสดีที่ "ฉอด-สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา" ได้จัดคอนเสิร์ต สาว สาว สาว ขึ้นอีกครั้ง เมื่อปี 2561 ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในรอบ 34 ปีของพวกเธอ โดยได้รับกระแสตอบรับอย่างดีบัตรคอนเสิร์ตทั้ง 3 รอบขายหมดภายในไม่กี่วัน
สำหรับเพลง "ประตูใจ" และ "รักคือฝันไป" ยังคงถูกนำมาใช้เป็นเพลงในสื่อบันเทิงอยู่ตลอดมา เนื่องด้วยทำนองที่น่ารัก และเนื้อเพลงที่เข้าใจง่าย เช่น ภาพยนตร์เรื่อง "แฟนฉัน" (2546) ละครเรื่อง "แม่ยายที่รัก" (2555) หรือใช้เป็นเพลงประกอบการแสดงของเด็กนักเรียนอีกด้วย
ถึงแม้ว่าในทุกวันนี้พวกเธอจะไม่ได้มีผลงานเพลงใหม่ออกมา แต่ก็ต้องยอมรับว่า สาว สาว สาว เป็นตำนานที่ยังมีลมหายใจของวงการเพลงไทย นี่จึงวัฒนธรรมร่วมสมัยที่เชื่อมคนทุกรุ่นเข้าไว้ด้วยกันจากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่งอย่างชัดเจน