ไมค์ ภัทรเดช เล่าชีวิต "พระเอก" ไม่ง่าย เผยเกือบโดน ผจก.ดาราดังลวงไปกิน

เป็นกระแสที่คนพูดถึงในโลกออนไลน์ สำหรับเรื่องราวของพระเอกชื่อดัง "ไมค์ ภัทรเดช" ที่ล่าสุดเจ้าตัวได้เป็นแขกรับเชิญคนแรกในรายการ "TurningPoint" ของสาวคนสนิท "ปุ๊กลุก ฝนทิพย์" ซึ่งหนุ่มไมค์ได้เล่าชีวิตของตัวเองกว่าจะได้เข้ามาทำงานในวงการนั้น เกือบถูกผู้จัดการของดาราดังลวงไปกิน หากต้องการเป็นพระเอก ก่อนจะร้องไห้ออกมา เมื่อต้องพูดถึงช่วงหนึ่งของชีวิตที่เคยคิดสั้น

โดยหนุ่มไมค์บอกว่า "ตอนอายุ 16 ปี มีเพื่อนสนิทมาชวนไปประกวดดัชชี่ เราได้ที่1 ภาคอีสาน สุดท้ายมาประกวดกรุงเทพฯ ได้ที่ 3 มาอยู่ในสารบบวงการบันเทิง แป๊บหนึ่งมาเจอเรื่องราวที่มันไม่ใช่ เราไม่ได้เกลียดกะเทย เรารักเขามาก แต่พอเรามาเจอกะเทย คนที่มาเจอตอนประกวดดัชชี่ มันเป็นอีกแบบ ด้วยเด็กตัวเล็กๆที่มีความฝันมาตรงนี้ เขาเป็นกะเทยที่พาเราไป เขาต้องการมากกว่านั้น เป็นด่านแรกที่เราต้องผ่านก่อนที่เราจะเป็นพระเอก"

"ด่านแรกที่เราเจอ เราต้องให้เขากินก่อนเป็นเงื่อนไข ตอนแรกก็เป็นพี่น้องกัน เรารักเขามาก เพราะเราเป็นเด็กบ้านนอกไม่ได้คิดอะไรเลย อยู่ดีๆวันหนึ่ง จะมาทำแบบนั้นกับเราตอนนั้นประมาณ ม.5 เราก็ตัดเขาไปเลย อายุประมาณ17 ก็กลับไปเรียนหนังสือไปเรียนมหาวิทยาลัย ไปเรียนประเทศจีน ตัดมาอีกทีอายุ 21 เลย ชีวิตเราโตมาพ่อแม่เลี้ยงอย่างอิสระมาก"

"เราฐานะค่อนข้างดี ขายอะไหล่มอเตอร์ไซค์เจ้าแรกในท้องถิ่น ขายน้ำปลายี่ปั๊ว เงินในเก๊ะเยอะมาก เราเรียนธุรกิจที่จีน ปกติแม่โอนเงินให้ไวมาก เราใช้เงินอิสระมาก วันหนึ่งแม่โอนเงินให้ช้ามาก แม่บอกแม่ล้มละลาย ไม่มีเงิน เพิ่งเลิกกับป๊า เพิ่งหย่ากัน เป้าหมายในชีวิตเดียวตอนนั้น คือผมต้องดูแลแม่ให้ได้"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

ไบร์ท วชิรวิชญ์ เคลียร์สังคม! ปม Forex-3D ลั่นผมก็เป็นเหยื่อ-ไม่ชักชวนใคร

ติ๊นา ศุภนาฎ ทำบุญครบ 6 ปี หลังสูญเสียพ่อแม่จากเหตุการณ์ไฟไหม้บ้าน

อิงฟ้า วราหะ ตอบชัดเจน! หลังแฟนคลับสงสับถามตรงๆ ยังโสดอยู่ไหม?

ไมค์ได้เผยอีกว่า "กลับมาจากจีนมาไทยก็มาเจออีก ผมเคยเจอคนที่ผมรักมาก ให้ผมฝากชีวิตไว้กับเขา เขาแนะนำให้ผมรู้จักคนๆหนึ่งที่จะพาผมไปสู่ดวงดาว เป็นผู้จัดการดาราใหญ่มาก เราใกล้ถึงความจริงแล้วโว้ย พอไปเจอเขาวันแรก พี่คนนี้ให้เราไปรับที่ห้างหนึ่งที่เขาพาดาราดังๆของเขาไปทำงาน เราก็รับเขาไปส่งที่โรงแรม เขาบอกให้เราขนของขึ้นไปให้ เราเป็นเด็กปี4 ไม่ได้คิดอะไร"

"ขนของให้เขาเสร็จ เราบอกจะกลับ เขาบอกคุยกันหน่อย ให้ถอดเสื้อดูหน่อย ดูอะไรพี่ ดูหุ่นเป็นดาราต้องดูหุ่น พอถอดเสื้อเสร็จ ถอดกางเกงหน่อย เขาบอกอยากดูต้นขา จะได้รู้ใส่ยีนส์ยังไงให้เหมาะ กูใส่บ็อกเซอร์ไปก็ดูต้นขาไปสิ ถอดเสร็จมานั่งบนเตียงพี่หน่อย มาคุยกับพี่หน่อยก็เริ่มเอะใจ แค่นั่งบนเตียงกูรู้สึกผิดแล้วว่าทำไมกูถึงอยากเป็นขนาดนั้น เรารู้แล้วแต่เราเสือกไปนั่ง นั่งสักพักเขาถอดเสื้อเขา เราก็ลุก ถามเขาการจะเป็นพระเอกดารา ต้องทำแบบนี้ทุกคนไหม เขาตอบว่าก็แล้วแต่คน"

"เราตัดสินใจไม่เป็นแล้ว เราเรียนธุรกิจจีน ก็ไปเป็นนักธุรกิจแล้วกัน วันหนึ่งไปฝึกงานที่กรุงเทพฯก่อนจบ ที่ออฟฟิศผู้จัดการคนก่อนหน้านี้คนหนึ่ง เป็นผู้หญิงเราไปตอบจดหมายประเทศจีน เขาทำโมเดลลิ่ง เขารักเรามาก เขาอยากปั้นเราเป็นดารา พอเขาพูดแบบนี้เรารู้สึกตื๊ดขึ้นมาเอาอีกแล้ว แต่เขาเป็นผู้หญิง สุดท้ายเขาให้ความรักเรา ไม่ได้อะไร เราเลยลองดูอีกสักครั้ง"

"เหตุที่เลือกเข้าวงการ ทั้งที่มีงานสายธุรกิจที่เรียนมาที่จีน มันบ้ามากโคตรบ้า ตอนเรียนมัธยมมีเด็กขอนแก่นหลายคน เด็กดังๆในขอนแก่น มีอาร์ตี้ ณเดชน์ มิน พีชญา เวียร์ โตโน่ มีแค่นี้ แล้วกูหละ ทุกคนทำได้เราก็ต้องทำได้"

"แต่ 3 ปีที่จะดูแลแม่ตัวเองไม่ไปถึงไหนเลย เป็นความทุกข์เครียดมาก 3 ปี ยังวนเวียนกับการเดินแบบอยู่เลย เล่นละครเรื่องหนึ่งปีกว่า ได้เงิน 8 พัน คูณ 15 ได้ 2 แสนกว่าบาท ไม่เหลือเลย คิดว่ามีณเดชน์ อาร์ตี้ มันจะง่าย เข้ามามันไม่ง่ายเลย เห็นเฟซบุ๊กเพื่อนที่เรียนจบมาด้วยกัน ทำโลจิสติกส์ไทย-จีน รวยแล้ว บางคนไปเรียนต่อปักกิ่ง จีน ชีวิตดี อิจฉา เครียดว่ากูคิดผิดหรือถูก เก็บเงินได้ 2 แสนกว่า แบ่ง2แสนกว่าบาทซื้อคอนโดให้แม่มาอยู่ มีเงินเหลือใช้ไม่เท่าไหร่"

ไมค์ ร่ำไห้กลางรายการ หลังได้ยินปุ๊กลุกถามเคยคิดสั้น ซึ่งไมค์เล่าว่า "ไม่มีใครรู้ชีวิตผมผ่านอะไรมาบ้าง" ก่อนจะปิดหน้าร้องไห้หนัก "เราไม่อยากพูดถึงมัน เครียดมาก เรารักแม่ แต่ปัญหาครอบครัวเรายังใหญ่อยู่ วันที่เห็นแม่เตรียมของให้เราไปกองทุกวัน พลังงานเปลี่ยน มีสติมากขึ้น แม่ก็มีความสุขแม่ยิ้ม ตั้งแต่วันนั้นงานก็มีขึ้นเรื่อยๆ ละครใยกัลยา หลังจากวันนั้นชีวิตดีขึ้นเรื่อยๆ"