svasdssvasds

สรุปให้ "ลัทธิ" คลั่งทารุณเหยื่อสาดน้ำร้อน บังคับทำงานใช้หนี้ 140 ล้านบาท

สรุปให้ "ลัทธิ" คลั่งทารุณเหยื่อสาดน้ำร้อน บังคับทำงานใช้หนี้ 140 ล้านบาท

สรุปให้ “ลัทธิ" คลั่งทารุณเหยื่อสาดน้ำร้อน บังคับทำงานใช้หนี้ 140 ล้านบาท พบประวัติ ฮารุ เจ้าลัทธิมีคดีฉ้อโกงหลายคดี ผู้เสียหายส่วนใหญ่ เป็นบุคลากรทางการแพทย์ ในพื้นที่ กทม.

จากกรณีเบาะแสของผู้เสียหายรายหนึ่งที่แจ้ง ผ่านทาง Facebook เพจ สืบสวนนครบาล IDMB ว่า ญาติของตนเองซึ่งเป็นผู้หญิง พร้อมบุตรชายและบุตรสาว และเพื่อนอีก 2 คน รวมทั้งหมด 5 คน ถูกบังคับทำงานอยู่ในห้องพักคอนโดหรูแห่งหนึ่ง  ถ.อรุณอมรินทร์ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพฯ โดยผู้ถูกกักขังได้แอบส่งข้อความมาให้กับชุดลาดตระเวนออนไลน์ สืบนครบาลโดยส่งรูปภาพมีสภาพร่างกาย ถูกโกนผมสั้น และมีบาดแผลถูกน้ำร้อนลวก ซ้ำร้ายยังให้ข้อมูลว่ามิจฉาชีพบังคับให้ตบหน้าบุตรชายและบุตรสาวของตนเอง หลายครั้ง ถ้าไม่ทำจะสาดน้ำร้อนใส่เด็กๆ

เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบจนทราบถึงสถานที่ที่ถูกกักขัง ผลการตรวจค้นพบเหยื่อทั้ง 5 คน อยู่ด้วยกันภายในห้องอย่างแออัด และจากการตรวจสอบสภาพร่างกายเบื้องต้นพบว่า เหยื่อหลายรายมีบาดแผลการถูกน้ำร้อนลวกตามร่างกายและมีบาดแผลฟกช้ำ ซึ่งทุกคนต่างมีอาการหวาดกลัว เสมือนคนเกิดภาวะผิดปกติทางจิต และได้ให้ข้อมูลว่าได้ถูกบังคับให้ทำงานใช้หนี้กับนายทุน อ้างเป็นแพทย์หญิงลูกครึ่งเกาหลี-ญี่ปุ่น  ทำงานสถานทูตประเทศใหญ่ โดยมีลูกน้อง 1 คน เป็นคนคอยมาควบคุม

นายทุนผู้นี้จะใช้อุบายหลอกลวง โดยแรกเริ่มจะทำทีร่วมธุรกิจด้วยกันแต่จะให้รวมเงินไว้ที่ตนเองและเมื่อเริ่มขับเคลื่อนธุรกิจ นายทุนผู้นี้จะใช้ทุนดำเนินการต่างๆโดยที่ไม่ทราบแต่อย่างใด และจะใช้ ความกลัว เข้ากดขี่ เช่น หลอกว่างานไม่สำเร็จมีค่าปรับ , ลูกค้าเรียกเงินคืน , ฝากบุตรเข้าโรงเรียนดัง ฯลฯ จากนั้นนายทุนผู้นี้ก็จะอุปโลกน์ หนี้ ยัดเยียดให้และใช้การหลอกว่ารู้จักกับตำรวจ จะดำเนินคดี ทำให้เกิดความกลัวและยอมตกเป็นเบี้ยล่างทำงานใช้หนี้ทิพย์นี้เรื่อยมากว่า 3 ปี โดยล่าสุดเหยื่อเข้าใจว่าตนเองตกเป็นหนี้นายทุนผู้นี้ถึง จำนวน 140 ล้านบาท ทั้งที่แท้จริงทได้ถูกนายทุนหลอกลวงทรัพย์สิ้นไป รวมเป็นความเสียหายไม่ต่ำกว่า 5,000,000 บาท 

จากการตรวจสอบประวัติของนายฮารุพบว่า มีคดีที่เกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกงหลายคดี ในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ล่าสุด มีผู้เสียหายแจ้งความประสงค์ เข้ามาดูตัวผู้ต้องหา และแจ้งความแล้ว ประมาณ 20 คน มูลค่าความเสียหายมากกว่า 10 ล้านบาท โดยพบว่า ผู้เสียหายส่วนใหญ่ จะเป็นบุคลากรทางการแพทย์จาก 3 – 4 โรงพยาบาล ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

เจ้าหน้าที่ "ตำรวจ" ควบคุมตัวนายฮารุ ฮวังสิริ และ นายตรีเพชรรัตน ณพชร สองผู้ต้องหาไป "ฝากขัง"  ศาลอาญาตลิ่งชัน โดยคัดค้านการประกันตัว ในข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุให้ผู้อื่นนั้นได้รับอันตรายสาหัส, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น

สรุปให้ \"ลัทธิ\" คลั่งทารุณเหยื่อสาดน้ำร้อน บังคับทำงานใช้หนี้ 140 ล้านบาท

 

ขณะที่ พ่อของ 2 เด็กเหยื่อเจ้าลัทธิประหลาดเผย อดีตภรรยา ไปรู้จักกับปาร์ค ซอยอ จากกลุ่มขายอาหารเสริมและชักชวนกันไปลงทุน โดยอ้างว่าจะดูแลความเป็นอยู่และค่าเล่าเรียนของลูกๆ ซึ่งช่วงแรกจะพาไปทำบุญ วิปัสสนา บูชาพระเจ้า และสาบานว่าจะเริ่มชีวิตใหม่ จากนั้นผู้ก่อเหตุก็ให้ไปเปลี่ยนชื่อและนามสกุล เป็นชื่ออัญมณีทั้งหมด และยังพูดจาหว่านล้อมให้อดีตภรรยาหลงเชื่อจนลาออกจากงานประจำไปอยู่กับผู้ก่อเหตุ

ผู้ก่อเหตุจะใช้วิธีในการหลอกผู้เสียหาย ว่าเป็นหนี้ กว่า 100 ล้าน จากการลงทุนอาหารเสริม และบังคับให้ผู้เสียหายทุกคนทำงานหาเงินมาให้วันละ 6 หมื่นบาท เพื่อชดใช้หนี้ หากหาไม่ได้ก็จะทำร้ายร่างกายด้วยการนำน้ำร้อนสาดตัวเอง ด้วยความสมัครใจที่จะยอมถูกลงโทษ

สำหรับจุดเปลี่ยนที่ทำให้ ผู้เสียหาย ตื่นจากภวังค์ เพราะว่า ผู้ก่อเหตุ ให้ลูกทั้งทั้งสอง เรียกผู้ก่อเหตุว่าแม่ และเรียกแม่ว่า คุณ และยังบังคับให้แม่ตบทำร้ายร่างกายลูก และผู้ก่อเหตุยังสร้างเรื่องหลอกว่า พ่อแท้ๆ ของเด็กนั้นทิ้งไป สร้างความเกลียดชังให้กับเด็กต่อพ่อแม่ อีกทั้ง ผู้ก่อเหตุยังบังคับให้เด็กชาย แต่งตัวเป็นหญิง และอ้างว่า เกิดวัน เดือนเดียวกันอยากให้เป็นเหมือนกันกับผู้ก่อเหตุ

ด้าน ผบก.สส.บช.น. ชี้คดีแปลกประหลาด เหยื่อถูกใช้จิตวิทยาขั้นสูง จนเชื่อฟังคำสั่ง ทุกคนไม่ติดใจเอาเรื่องผู้ต้องหา มีเพียงแม่เด็ก เมื่อได้สติ สัญชาตญาณความเป็นแม่กลับมา จึงอยากเอาเรื่องให้ถึงที่สุด