ตำรวจ ปอท. รวบยกแก๊งขบวนการรับจ้างปลอมสเตทเม้น หนังสือรับรองเงินเดือน นำไปหาประโยชน์ โดยการยื่นขอสินเชื่อธนาคารและทำวีซ่า คำให้การหัวหน้ากลุ่ม ยอมรับ มีประวัติอยู่ระหว่างยื่นอุทธรณ์ค้างอยู่ ปีเดียว มีผู้ว่าจ้างกว่า 1 พันราย ทำเงินหมุนเวียนกว่า 20 ล้านบาท
วันที่ 9 ธ.ค. 65 ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท. นายภิญโญ โกมลกิตติพงศ์ ผู้จัดการทีมสืบสวนการทุจริตต่อองศ์กร ฝ่ายป้องกันอาชญากรรมทางการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ พร้อมตำรวจ ปอท.ร่วมกันแถลงการจับกุม ขบวนการรับจ้างปลอมแปลงเอกสาร รับรองเงินเดือน โดยจับกุม 4 ราย หลังตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2754-2757/2565 ลงวันที่ 6 ธ.ค.2565 ซึ่งประกอบด้วย
นายศตวรรษ แฉ่งฉวี อายุ 27 ปี นางสาววรรณวิสา พราหมจร อายุ 30 ปี ซึ่ง 2 รายแรกเป็นสามี - ภรรยา ถูกรวบตัวได้ที่บ้านพัก ในพื้นที่ ม.2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พร้อมของกลาง หลายรายการ อาทิ คอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง ไอแพด 2 เครื่อง ไอโฟน 2 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคารและบัตรกดเงินสด 16 รายการ และจักรยานยนต์ 1 คัน สำหรับใช้เป็นพาหนะเดินทางไปกดเงิน และอีก 2 ราย คือ นายพลวัฒน์ ศรีทอง อายุ 34 ปี นางสาวรัตนาภรณ์ ลาวัลย์ อายุ 32 ปี จากพื้นที่ จ.กาญจนบุรี
บเนื่องจาก ฝ่ายกฎหมาย ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้รับความเสียหาย จากพฤติกรรมของกลุ่มบุคคล ที่นำรายงานเดินบัญชีธนาคารปลอมไปยื่นกู้กับสถาบันการเงินอื่นๆ และยื่นขอหนังสือเดินทางกับสถานทูตต่างๆ เพื่อไปทำงานหรือศึกษาต่อต่างประเทศ โดยได้ว่าจ้างทำรายการเดินบัญชีปลอมจากเว็บไซต์ www.monneyaporvedmany.com และมีการติดต่อกันผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ ชื่อบัญชี@loansimple
หลังรับแจ้ง ตำรวจ ปอท.จึงออกสืบสวน จนทราบว่า กลุ่มคนร้ายมีการเปิดเว็บไซต์รับจ้างทำเอกสารปลอมเพิ่มเติมอีก 2 เว็บไซต์ มี นายศตวรรษและนางสาววรรณวิสา 2 สามีภรรยาเป็นเจ้าของเว็บไซต์ที่แท้จริง มีการใช้บัญชีม้า ซึ่งเป็นของนายพลวัฒน์และนางสาวรัตนาภรณ ในการทำธุรกรรมการเงินทั้งหมด
ขณะที่ นายศตวรรษ ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ เคยรับจ้างทำสเตทเม้นธนาคารปลอมร่วมกับผู้ต้องหาในคดีอื่น และเห็นว่ามีรายได้สูง คือตั้งแต่6,000 บาท เรื่อยไปจนถึง 50,000 บาท ต่อครั้ง แล้วแต่จำนวนยอดเงิน และรายการเดินบัญชี ทั้งยังเคยมีประวัติถูกดำเนินคดี โดยศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก 5 ปี 4 เดือน และขอยื่นประกันตัวในระหว่างศาลอุทธรณ์ โดยระหว่างการประกันตัวได้กลับมาก่อเหตุอีก ซึ่งในห้วงเวลา 1 ปี พบมีผู้ว่าจ้างทำสเตทเม้นปลอมจากกลุ่มผู้ต้องหา กว่า 1,000 ราย พบเงินหมุนเวียนกว่า 20 ล้านบาท
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำผู้ต้องหา ทั้ง 4 ราย ของกลาง พร้อมแจ้งข้อหา “ร่วมกันโดยทุจริตหรือหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ” นำส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท. พร้อมดำเนินคดีต่อไป//