svasdssvasds

เปิดไทม์ไลน์ ร้องเรียนทุจริต “อธิบดีกรมอุทยานฯ” รีดส่วยก่อนถูกจับ

เปิดไทม์ไลน์ ร้องเรียนทุจริต “อธิบดีกรมอุทยานฯ” รีดส่วยก่อนถูกจับ

เปิดไทม์ไลน์ ร้องเรียน นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ปมรีดส่วยจากลูกน้อง ก่อนถูกจับคาโต๊ะทำงาน

จากกรณีข่าวฉาววงการราชการไทย ที่นาย นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ถูกจับกุมหลังมีผู้ร้องเรียนถึงพฤติกรรมเรียกรับเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชา แลกกับการไม่ถูกโยกย้ายตำแหน่งในหน่วยงาน และมีการเรียกรับเงินจากหน่วยงานในสังกัดกรมอุทยานฯ เป็นรายเดือน เดือนละหลายแสนบาท ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมเป็นวงกว้างถึงความล้มเหลวนการแก้ปัญหาคอร์รัปชัน

สำหรับไทม์ไลน์ เส้นทางการร้องเรียนทุจริต นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา เริ่มตั้งแต่ได้รับแต่งตั้งเข้ารับตำแหน่ง อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

อธิบดีกรมอุทยานฯ

23 กุมภาพันธ์ 2565 นายรัชฎา  ได้รับการแต่งตั้งเข้าดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

24 กรกฎาคม 2565 นายรัชฎา ลงนามหนังสือแจ้งเวียนกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ด่วนที่สุด ที่ ทส 0901.304/ว3952 ลงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 เรื่อง ซักซ้อมแนวทางปฏิบัติการมอบหมายให้ข้าราชการไปปฏิบัติราชการ แจ้งให้ข้าราชการในสังกัดถือปฏิบัติ ดังนี้

- กรณีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีคำสั่งมอบหมายให้ข้าราชการไปปฏิบัติ ราชการในสังกัดที่ดำรงตำแหน่งอยู่ ให้ปฏิบัติราชการตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมายต่อไป จนกว่าจะมีคำสั่ง เปลี่ยนแปลง

- กรณีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีคำสั่งมอบหมายให้ข้าราชการไปปฏิบัติ ราชการ หรือไปช่วยปฏิบัติราชการต่างสังกัด (ภายในกรม) รวมทั้งผู้ที่มาช่วยปฏิบัติราชการจากส่วนราชการอื่น ให้ปฏิบัติราชการตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมายต่อไป จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2565

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

- กรณีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีคำสั่งมอบหมายให้ข้าราชการไปปฏิบัติ ราชการทำหน้าที่ผู้อำนวยการส่วน หัวหน้ากลุ่ม และ/หรือ หัวหน้าหน่วยงานใดแล้ว ให้ผู้ซึ่งทำหน้าที่นั้นอยู่เดิม กลับไปปฏิบัติราชการต้นสังกัด หรือไปปฏิบัติราชการตามที่ได้รับมอบหมายต่อไป

- ให้ผู้อำนวยการสำนักทุกสำนัก ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ทุกสำนัก ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษาสาขา ผู้อำนวยการกองทุกกอง และหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกอื่นที่ขึ้นตรงต่ออธิบดี จัดทำคำสั่งมอบหมายหน้าที่ความรับผิดชอบให้ข้าราชการซึ่งกลับไปปฏิบัติราชการ ต้นสังกัดตามข้อ  3 ทุกราย

28 กุมภาพันธุ์ 2565 นายรัชฎา มีคำสั่งแต่งตั้งโยกย้าย ผู้อำนวยการสำนักสาขา ผู้อำนวยการส่วน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเกรด A (ขนาดใหญ่) ทั้งทางบกทางทะเล ทั่วประเทศ จำนวนหลายคำสั่ง และมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง โดยออกคำสั่งแต่งตั้งทุก 3 วัน เป็นต้นมา

ต่อมานายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ได้รับเรื่องร้องเรียน ว่ามีการเรียกรับเงินในการโยกย้ายตำแหน่งของอธิบดีกรม อส. จากอดีตผู้บังคับบัญชา เพื่อน รุ่นน้อง จำนวนมาก

ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร

4 สิงหาคม 2565 นายชัยวัฒน์ มีหนังสือร้องเรียนขอให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง (ในทางลับ) กรณีนายรัชฎา มีพฤติกรรมทุจริต และปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบด้วยกฎหมายหลายประการ ถึงนายกรัฐมนตรี (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา) เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และพลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา

15 สิงหาคม 2565 นายชัยวัฒน์ ได้เข้าพบนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีการพูดคุยถึงการทุจริตเรียกรับเงินที่เกี่ยวกับนายรัชฎา เรียกรับ วิ่งเต้น โยกย้าย ข้าราชการของข้าราชการในกรม ซึ่งนายจตุพร ระบุว่า ไม่รู้ไม่เห็น และไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน หากมีหลักฐานให้นำมาแสดงมาแจ้งได้เลย

3 ตุลาคม 2565 นายชัยวัฒน์ ได้กลับไปทำหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) และได้รับแจ้งจากผู้ใต้บังคับบัญชามีอธิบดีมีการเรียกเก็บเปอร์เซ็นต์จากหัวหน้าหน่วยงาน

ปลายเดือนตุลาคม 2565 นายชัยวัฒน์ ได้เข้าพบอธิบดีที่ห้องทำงานจึงได้ทราบว่าอธิบดีมีการเรียกเก็บเงินจากหน่วยงานฯ ที่นายชัยวัฒน์เป็นผู้บังคับบัญชาอยู่จริง และเงินดังกล่าวให้นายชัยวัฒน์เป็นผู้นำมาส่ง

22 ธันวาคม 2565 เจ้าหน้าที่ ปปช. เรียกนายชัยวัฒน์เพื่อสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมกรณีที่มีการร้องเรียน อธิบดีกรมอุทยานฯ ตามหนังสือร้องเรียนลงวันที่ 4 สิงหาคม 2565

26 ธันวาคม 2565 นายชัยวัฒน์ ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ป.ป.ป. เจ้าหน้าที่ป.ป.ท และ ป.ป.ช ตรวจสอบข้อมูลพยานข้อเท็จจริง และมีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อนายรัชฎา  ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ โดยกล่าวหาว่า เป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ และ เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

27 ธันวาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) นำโดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เชิญตัวนายรัชฎา มาที่ห้องทำงานอธิบดีกรมอุทยานฯ พร้อมแจ้งเหตุ และตรวจสอบพบเงินที่ดำเนินการล่อซื้อและขยายผลตรวจพบเงินและเอกสารรายละเอียดเกี่ยวกับเงินดังกล่าว โดยตรวจยึดไว้เป็นของกลางจำนวน 21 รายการ เป็นเงินจำนวน 4,843,300 บาท  พร้อมจับกุมนายรัชฎา ดำเนินคดีตามกฎหมาย ฐาน เป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ และ เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

related