"ชูวิทย์" แฉอีก สมาคมเถื่อนภาค 2 จ่อลุยทำเนียบ แจงข้อมูลนายกฯ พรุ่งนี้
"ชูวิทย์" แฉซ้ำ "สมาคมเถื่อน" ภาค 2 มีประธานสมาคมเป็นหัวหน้ากลุ่มมาเฟียแก๊ง 14K ย่านศรีวรา พร้อมโชว์ภาพหน้าเพจเว็บไซต์สมาคมหงเหมิน เตรียมนำข้อมูลคอร์รัปชัน มอบให้นายกฯ พรุ่งนี้
วันนี้ (20 ก.พ. 2566) ที่ สน.นางเลิ้ง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสมาคมเถื่อนภาค 2 โดยใช้ชื่อว่า สมาคมหงเหมินแห่งประเทศไทย มีนายไบ่ เจ้าฮวย เป็นประธานสมาคม ซึ่งชายคนดังกล่าวเป็นหัวหน้ากลุ่มมาเฟียแก๊ง 14K ทุนจีนสีเทา ฮ่องกงมาเก๊า ที่มีลักษณะเป็นการซ่องสุมอั้งยี่ โดยสมาคมแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ ถ.ศรีวรา กรุงเทพมหานคร จึงถือว่าได้แจ้งข้อมูลเบื้องต้นให้เจ้าหน้าที่ทราบแล้ว อยู่ที่การดำเนินการจัดการ
ทั้งนี้นายชูวิทย์ ได้มีการเผยแพร่ภาพจากหน้าเพจเว็บไซต์สมาคมหงเหมิน คลิปวิดีโอ ให้ผู้สื่อข่าวอีกด้วย รวมถึงระบุว่า ในเวลา 13.00 น. วันที่ 21 กุมภาพันธ์ จะนำข้อมูลการทุจริตคอร์รัปชัน ไปตั้งโต๊ะแถลงและมอบให้นายกรัฐมนตรี แต่ไม่คาดหวังว่าจะต้องมาพบตน และจะขอทำนายทิศทางประเทศไทยหลังจากนี้ว่าจะไปในทิศทางใด
ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ระบุว่า หลังจากนี้ต้องขอข้อมูลจากทางนายชูวิทย์ เพื่อดำเนินการตรวจสอบสมาคมดังกล่าวอย่างละเอียด หากพบว่ามีความผิดก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• "สารวัตรซัว" สะท้อนความเหลื่อมล้ำระบบข้าราชการ ชูวิทย์ ชำแหละวงการสีกากี
• ชูวิทย์ แฉซ้ำ สารวัตรซัว ชี้หากอุดมการณ์ พ่ายอุดมเงิน บ้านเมืองถึงกาลวิบัติ
• ชูวิทย์ แฉทุนจีนสีเทา ดองหมายจับตู้ห่าว โยกย้ายทรัพย์สินกันพัลวัน
ด้านนายวิธาร สุขการ ผู้อำนวยการ ส่วนรักษาความสงบเรียบร้อย 2 สำนักการสอบสวนและพฤติการณ์ กรมการปกครอง ได้เข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีนายหยูซินฉี ประธานสมาคมจีนจื้อกงแห่งอาเชียน และสมาคมชาวจีนอื่นๆ กรณีลักลอบเปิดสมาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตและนำไปแสวงหาผลประโยชน์โดยไม่ชอบ
นายวิธาร เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากอธิบดีกรมการปกครอง ให้มาร้องทุกข์กล่าวโทษนายหยูซินฉี 3 ข้อหา
• ฐานใช้สมาคมนำหน้าโดยที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นสมาคมตามกฎหมาย
• ดำเนินกิจการให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่าเป็นสมาคม โดยไม่ได้เป็นสมาคมตามกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของหุ้นส่วนบริษัท มูลนิธิ และสมาคม
• นำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์
โดยปลัดกระทรวงได้มีหนังสือกำชับไปยังผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัด ในฐานะนายทะเบียนสมาคมของจังหวัด ให้ตรวจตราสมาคมมูลนิธิที่มีอยู่แล้ว หากประชาชนพบสมาคมเถื่อนหรือสมาคมผิดกฎหมาย ให้แจ้งศูนย์ดำรงธรรมทั้งส่วนอำเภอ จังหวัด และของกระทรวง
นายวิธาร กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบพบว่าสมาคมของนายหยูซินฉี ไม่มีข้อมูลในระบบ เชื่อว่ายังมีสมาคมลักษณะนี้อีกหลายแห่งทั่วประเทศ ซึ่งหากพบการกระทำผิด ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งได้ทำมาตลอด เช่น มูลนิธิที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย ได้ยื่นคำร้องต่อพนักงานอัยการให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนไปแล้ว แต่หากเป็นรูปแบบสมาคม นายทะเบียนสามารถเพิกถอนได้เอง
