svasdssvasds

เลือกตั้ง2566 First Voter ทะลุ 4 ล้านคน เช็กผู้มีสิทธิ Gen ไหนมากสุด

เลือกตั้ง2566 First Voter ทะลุ 4 ล้านคน เช็กผู้มีสิทธิ Gen ไหนมากสุด

นับถอยหลังเข้าสู่การเลือกตั้ง 2566 จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก หรือ First Voter นับว่ามีจำนวนสูงถึง 4,012,803 คน ขณะที่ผู้มีสิทธิมากสุดอยู่ที่ Gen X (อายุ 42-57 ปี) กว่า 16 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 30.87 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด

ในการเลือกตั้งทั่วไป 2566 หากคำนวณจำนวน ส.ส. แบบแบ่งเขต ตามมติศาลรัฐธรรมนูญ (3 มี.ค.2566) โดยใช้ตัวเลขประชากรจากประกาศสำนักทะเบียนกลาง เรื่องจำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร ตามหลักฐานทะเบียนราษฎร เมื่อ 31 ธันวาคม 2565 โดยนับเฉพาะผู้มีสัญชาติไทยทั้งประเทศ  จำนวน 65,106,481 คน

จำนวน ส.ส. รายเขต ทั้ง 400 เขตแยกตามภาค

  • ภาคเหนือ 9 จังหวัด มีจำนวน ส.ส. 37 คน
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด มีจำนวน ส.ส. 133 คน
  • ภาคกลาง 22 จังหวัด มีจำนวน ส.ส. 122 คน
  • ภาคตะวันออก 7 จังหวัด มีจำนวน ส.ส. 29 คน
  • ภาคตะวันตก 5 จังหวัด มีจำนวน ส.ส. 19 คน
  • ภาคใต้ 14 จังหวัด มีจำนวน ส.ส. 60 คน

เมื่อเปรียบเทียบกับการเลือกตั้งปี 2562 ซึ่งมี ส.ส.แบบแบ่งเขต 350 คน แต่ในปี 2566 มีจำนวน ส.ส. แบบแบ่งเขตทั้งสิ้น 400 คน พบว่า มี 42 จังหวัดที่มีจำนวน ส.ส.เพิ่มขึ้น

 

เลือกตั้ง2566 First Voter ทะลุ 4 ล้านคน เช็กผู้มีสิทธิ Gen ไหนมากสุด Photo : Freepik โดยกรุงเทพฯ มีจำนวน ส.ส. เพิ่มขึ้นมากที่สุด 3 คน จาก 30 คนเป็น 33 คน รองลงมา เพิ่มขึ้นจังหวัดละ 2 คน รวม 5 จังหวัด คือ นนทบุรี จาก 6 เป็น 8 คน, ชลบุรี จาก 8 เป็น 10 คน, นครราชสีมา จาก 14 เป็น 16 คน, บุรีรัมย์ จาก 8 เป็น 10 คน และอุดรธานีจาก 8 คนเป็น 10 คน

จังหวัดที่มี ส.ส. เพิ่มขึ้น 1 คน มี 36 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ ตรัง ตาก นครนายก นครปฐม นครศรีธรรมราช นราธิวาส บึงกาฬ ปทุมธานี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา พังงา เพชรบูรณ์ แพร่ ภูเก็ต มหาสารคาม แม่ฮ่องสอน ร้อยเอ็ด ระยอง เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สงขลา สมุทรปราการ สระบุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี สุรินทร์ อ่างทอง อุดรธานี อุตรดิตถ์ และอุบลราชธานี

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
การเลือกตั้ง 2566 จำนวนประชากรเฉพาะที่มีสัญชาติไทย ที่นำมาใช้ในการคำนวณจำนวน ส.ส. รายเขตทั้ง 400 เขต ตามมติศาลรัฐธรรมนูญ มีทั้งสิ้น 65,106,481 คน อย่างไรก็ตาม เมื่อดูข้อมูลประชากรไทยที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านแยกรายอายุรายเดือน ธันวาคม 2565 กรมการปกครอง พบว่าเป็นผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไปที่มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 52,322,824 คน โดยสามารถแยกได้ดังนี้

  • ผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก (First Voter) ซึ่งหมายถึงผู้มีอายุ 18-22 ปี จำนวน 4,012,803 คน คิดเป็นร้อยละ 7.67 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด
  • ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นผู้สูงอายุ ซึ่งหมายถึงผู้มีอายุ 58 ปีขึ้นไป จำนวน 14,378,037 คน คิดเป็นร้อยละ 27.48 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด

เลือกตั้ง2566 First Voter ทะลุ 4 ล้านคน เช็กผู้มีสิทธิ Gen ไหนมากสุด

ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 2566 แยกตามเจเนอเรชั่น

  • เจเนอเรชั่น Z (Gen Z) ซึ่งหมายถึง ผู้มีอายุ 18-25 ปี มี 6,689,453 คน คิดเป็นร้อยละ 12.78 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด
  • เจเนอเรชั่น Y (Gen Y) ซึ่งหมายถึง ผู้มีอายุ 26-41 ปี มี 15,103,892 คน คิดเป็นร้อยละ 28.87 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด
  • เจเนอเรชั่น X (Gen X) ซึ่งหมายถึง ผู้มีอายุ 42-57 ปี มี 16,151,442 คน คิดเป็นร้อยละ 30.87 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด
  • เจเนอเรชั่น Baby Boomers (Gen Baby Boomers) ซึ่งหมายถึงผู้มีอายุ 58-76 ปี มี 11,844,939 คน คิดเป็นร้อยละ 22.64 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด
  • เจเนอเรชั่น Silent (Gen Silent) ซึ่งหมายถึงผู้มีอายุ 77 ปีขึ้นไป มี 2,533,098 คน คิดเป็นร้อยละ 4.84 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด

การจำแนกเจเนอเรชั่นตามศูนย์วิจัย Pew Research Center สหรัฐอเมริกา

เลือกตั้ง2566 First Voter ทะลุ 4 ล้านคน เช็กผู้มีสิทธิ Gen ไหนมากสุด Photo : Freepik จำแนกรายละเอียดตามกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

กลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก First Voter 10 จังหวัดที่มีสัดส่วนร้อยละผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก มากที่สุด ได้แก่

  1. ปัตตานี ร้อยละ 12.25
  2. ยะลา ร้อยละ 11.53
  3. นราธิวาส  ร้อยละ 11.38
  4. ตาก ร้อยละ 10.67
  5. แม่ฮ่องสอน 10.32
  6. สตูล ร้อยละ 9.72
  7. กระบี่ ร้อยละ 9.08
  8. สงขลา ร้อยละ 8.91
  9. กาญจนบุรี ร้อยละ 8.65
  10. ลพบุรี ร้อยละ 8.58

จังหวัดที่มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก first voter น้อยที่สุด ได้แก่

  1. ลำพูน ร้อยละ 5.48
  2. ลำปาง ร้อยละ 5.76
  3. แพร่ ร้อยละ 5.80
  4. พะเยา ร้อยละ 6.09
  5. น่าน ร้อยละ 6.31
  6. สิงห์บุรี ร้อยละ 6.34
  7. สมุทรสงคราม ร้อยละ 6.44
  8. นนทบุรี ร้อยละ 6.44
  9. ชัยนาท ร้อยละ 6.45
  10. สุโขทัย ร้อยละ 6.54

Gen Z จังหวัดที่มีสัดส่วนร้อยละผู้มีสิทธิเลือกตั้งมากที่สุด       

  1. ปัตตานี ร้อยละ 19.59
  2. ยะลา ร้อยละ 18.49
  3. นราธิวาส ร้อยละ 18.34
  4. ตาก ร้อยละ 16.98
  5. แม่ฮ่องสอน ร้อยละ 16.60
  6. สตูล ร้อยละ 15.46
  7. กระบี่ ร้อยละ 14.83
  8. สงขลา ร้อยละ 14.47
  9. ระนอง ร้อยละ 14.09
  10. นครพนม ร้อยละ 13.99

Gen Y จังหวัดที่มีสัดส่วนร้อยละผู้มีสิทธิเลือกตั้งมากที่สุด

  1. นราธิวาส ร้อยละ 34.74
  2. ปัตตานี ร้อยละ 34.22
  3. ยะลา ร้อยละ 34.22
  4. ภูเก็ต ร้อยละ 33.80
  5. แม่ฮ่องสอน ร้อยละ 33.51
  6. กระบี่ ร้อยละ 33.20
  7. สตูล ร้อยละ 33.03
  8. ระยอง ร้อยละ 32.89
  9. ชลบุรี ร้อยละ 32.00
  10. สมุทรปราการ ร้อยละ 30.62

Gen X จังหวัดที่มีสัดส่วนร้อยละผู้มีสิทธิเลือกตั้งมากที่สุด

  1. บึงกาฬ ร้อยละ 34.21
  2. สกลนคร ร้อยละ  33.49
  3. กาฬสินธุ์ ร้อยละ 33.42
  4. ปทุมธานี ร้อยละ 33.29
  5. หนองคาย ร้อยละ 33.19
  6. นครพนม ร้อยละ 33.09
  7. อุดรธานี ร้อยละ 33.04
  8. ยโสธร ร้อยละ 33.04
  9. มุกดาหาร ร้อยละ 33.04
  10. หนองบัวลำภู ร้อยละ 33.04

Baby Boomers จังหวัดที่มีสัดส่วนร้อยละผู้มีสิทธิเลือกตั้งมากที่สุด

  1. ลำพูน ร้อยละ 30.24
  2. ลำปาง ร้อยละ 29.99
  3. แพร่  ร้อยละ 29.69
  4. พะเยา ร้อยละ 29.31
  5. สิงห์บุรี ร้อยละ 28.39
  6. ชัยนาท ร้อยละ 27.52
  7. เชียงใหม่ ร้อยละ 27.44
  8. เชียงราย ร้อยละ 27.09
  9. น่าน ร้อยละ 26.94
  10. อุตรดิตถ์ ร้อยละ 26.90

Silent จังหวัดที่มีสัดส่วนร้อยละผู้มีสิทธิเลือกตั้งมากที่สุด

  1. สมุทรสงคราม ร้อยละ 7.14
  2. สิงห์บุรี ร้อยละ 6.99
  3. พัทลุง ร้อยละ 6.61
  4. อ่างทอง ร้อยละ 6.58
  5. ชัยนาท ร้อยละ 6.58
  6. สุพรรณบุรี ร้อยละ 6.23
  7. นครศรีธรรมราช ร้อยละ 6.22
  8. นครนายก  ร้อยละ 6.18
  9. อุทัยธานี ร้อยละ 6.15
  10. นครสวรรค์ ร้อยละ 6.03

ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าแทบจะทุกพรรคการเมืองให้ความสำคัญกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก (First Voter) เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกพรรคการเมือง หรือผู้สมัครรายใดมาก่อน โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียนนักศึกษา หรือผู้ที่เริ่มเข้าทำงาน ซึ่งที่ผ่านมา ติดตามความเคลื่อนไหวทางการเมืองจากโซเชียลมีเดีย และกิจกรรมทางสังคมต่างๆ กลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก จึงค่อนข้างกระตือรือล้นในการมีส่วนร่วมทางการเมืองมากกว่ากลุ่มอื่น หากสามารถซื้อใจผู้มีสิทธิ์กลุ่มนี้ได้ พรรคการเมืองต่างๆ ก็จะมีฐาน “แฟนคลับ” ในระยะยาว ซึ่งจะส่งผลดีต่อการดำเนินกิจกรรมต่างของแต่ละพรรค

และด้วยจำนวนที่คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 10% ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด พลังของ First Voter จึงนับเป็นตัวแปรสำคัญที่จะชี้ผลแพ้ชนะของการเลือกตั้งได้ โดยเฉพาะในเขตเมือง ที่มีความอ่อนไหวเรื่องข้อมูลสูง ผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก จึงเป็นพลังทางการเมืองที่ทุกฝ่ายไม่สามารถมองข้ามได้

ข้อมูลอ้างอิง

1. จำนวนประชากรจากจำนวนประชากรไทยที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านแยกรายอายุรายเดือน ธันวาคม 2565 สำนักบริหารทะเบียน กรมการปกครอง

2. ดูข้อมูลพื้นฐานได้ที่ rocketmedialab

related