ราชกิจจาฯ ประกาศพระราชกำหนดเกี่ยวกับการทำผิดทางอาชญากรรมแก่ผู้ให้บริการเครือข่ายและธนาคาร ในกรณีที่มีบัญชีหรือเบอร์โทรต้องสงสัยว่าจะเกี่ยวกับการฟอกเงินหรือมีเหตุโอนเงินแบบน่าสงสัยให้ทั้งสองธุรกิจระงับการทำธุรกรรมได้ 7 วัน
พ.ต.ท. ภูมิรพี ผลาภูมิ โพสต์ในเฟซบุ๊กเกี่ยวกับราชกิจจานุเบกษาเกี่ยวกับการออกกฎหมายใหม่ เพื่อป้องกันเมื่อประชาชน ถูกฉ้อโกงทางออนไลน์ ให้สามารถโทรอายัดเงินธนาคารเจ้าของบัญชีม้าได้ทันที
รวมทั้งธนาคารตรวจพบการโอนถอนเงินผิดปกติ สามารถอายัดได้เองโดยไม่ต้องร้องขอ และให้ธนาคารแห่งแรกแจ้งธนาคาร/สถาบันการเงิน/ผู้ประกอบธุรกิจ ต้องอายัดต่อทุกทอด
จากนั้นให้ผู้แจ้งเดินทางไปสถานีตำรวจที่สะดวก แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ภายใน 72 ชม. เพื่อให้มีการสอบสวน และมีหมายอายัดเงินกับทางธนาคารต่อไป
อย่างไรก็ตาม หากแจ้งให้ธนาคารอายัดเงินไว้ครบ 7 วันแล้ว แต่ไม่มีหมายอายัดจากพนักงานสอบสวนติดต่อมาเพิ่มเติม ก็อนุมัติให้ธนาคารถอนการอายัดบัญชีนั้นทันที
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม
นอกจากนี้ ผู้ใดเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน (ผู้เปิดบัญชีม้า) โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน
ทั้งนี้ ในมาตรา 9 ระบุว่า หากตรวจพบว่าบัญชีหรือหมายเลขดังกล่าว ถูกนำไปใช้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด ผู้นั้นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 10 หากตรวจพบว่าผู้ใดเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด ต้องระวางโทษ จำคุก 2-5 ปี และปรับ 2-5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 11 ผู้ใดเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อหรือขายเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2-5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2 - 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 12 การเปิดเผย การแลกเปลี่ยน การเข้าถึง ตลอดจนการเก็บ การรวบรวมหรือการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชกำหนดนี้ ไม่อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล แต่ผู้ได้รับหรือครอบครองข้อมูลจะเปิดเผยให้บุคคลอื่น ซึ่งไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องทราบมิได้
ทั้งนี้ ธนาคารทั้ง 15 แห่ง ได้เปิดศูนย์รับแจ้งเหตุภัยทางการเงินจากมิจฉาชีพของธนาคาร เพื่อให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ หรือตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพโทรแจ้งเหตุ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน บรรเทาความเสียหายให้เร็วที่สุด ดังนี้