ทนายพาเหยื่อ "ย่างให้" ร้องบิ๊กโจ๊ก หลังอวด 400 สาขา หลอกร่วมลงทุน สูญนับล้าน

 วันที่ 29 มีนาคม 2566 ที่สโมสรตำรวจ ถ.วิภาวดีรังสิต กลุ่มผู้เสียหาย รวมตัวเข้าร้องทุกข์กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) หลังถูกเจ้าของแฟรนไชส์ ชื่อดัง “ย่างให้” ก่อคดีฉ้อโกง หลอกให้ลงทุน แต่ไม่จ่ายปันผลและไม่ยอมถอนหุ้น

 นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความ เปิดเผยว่า นายมณฑล ทองคำ เจ้าของแบรนด์ “ย่างให้” ซึ่งมีพฤติการณ์ คือ เดินสายออกสื่อหลายรายการทั้งทางโทรทัศน์และสื่อออนไลน์ต่างๆ พร้อมให้สัมภาษณ์ว่าธุรกิจได้ทำจริง และประสบความสำเร็จ มีความน่าเชื่อจากสาขาที่มากกว่า 400 สาขาทั่วประเทศ มีการนำภาพศิลปิน ดารา นักแสดงชื่อดังหลายคนมาโพสต์แสดงความชื่นชอบในแบรนด์สินค้า และมาร่วมลงทุนในธุรกิจจำนวนมาก

 ทำให้กลุ่มผู้เสียหายเชื่อใจ นำเงินไปร่วมลงทุน แต่กลับไม่ได้เงินปันผล ไม่มีการแบ่งผลกำไร และไม่พบการดำเนินกิจการต่างๆ ตามที่ได้คุยกันไว้ และเมื่อผู้เสียหายสอบถาม กลับถูกลบออกจากกรุ๊ปไลน์

 นอกจากนี้ ภายหลังมีการตรวจสอบ กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่าธุรกิจมีการจดทะเบียนจริง แต่ไม่มีการจดชื่อผู้เสียหายบางรายเข้าไปในรายชื่อผู้ถือหุ้น ตามที่ได้ตกลงกันไว้

 อีกทั้งปัจจุบันเจ้าของแบรนด์ได้ปิดเฟซบุ๊กส่วนตัวและปิดเพจธุรกิจไปแล้ว ทำให้ไม่สามารถติดต่อได้ เบื้องต้นจากการรวบรวมกลุ่มผู้เสียหาย ตอนนี้มีอยู่ประมาณ 13 คน ที่หลงเชื่อคำโฆษณานี้และเข้าร่วมลงทุน ยอดความเสียหายเบื้องต้นกว่า 4 ล้านบาท เฉลี่ยรายละตั้งแต่ 2 แสนถึง 1 ล้านบาท และคาดว่าอาจจะมีผู้เสียหายเพิ่มอีก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• รวบ“น้องมายด์” เน็ตไอดอลชื่อดัง หลอกลงทุนทองคำผู้เสียหายทั่วประเทศ

• ดีเอสไอ เผย 25 กลโกงที่โจรใช้หลอกให้ลงทุนในแชร์ลูกโซ่

• รู้กลโกง ซื้อของออนไลน์ ผ่านโซเชียล ทำตาม 3 ขั้นตอนง่าย ๆ ไม่โดนหลอกแน่

 ด้านนายต๋อง หนึ่งในผู้เสียหาย ที่สูญเสียเงินมากที่สุด เล่าให้ฟังว่า นายมณฑล หลอกว่ามีหุ้นอยู่ 20 ตัว ตัวละ 2 แสนบาท ตนจึงได้ร่วมลงทุน 5 ตัว เป็นจำนวนเงิน 1 ล้านบาท โดยนายมณฑลกล่าวอ้างว่าลงทุนแค่ 7,000 บาท สามารถคืนทุนภายใน 1 เดือน ปลดหนี้ 10 ล้านบาทได้ใน 6 เดือน แต่เมื่อเวลาผ่านไป 6 เดือนก็ยังไม่ได้รับเงินใดๆ 

"ช่วงโควิดระบาด ถูกนำมาอ้างเป็นเหตุให้ไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ แต่ยังมีการเชิญชวนให้ลงทุนเพิ่มเติม โดยอ้างว่ามีบริษัทน้ำดื่มยักษ์ใหญ่เข้ามาร่วมลงทุนด้วย จึงจะได้เงินปันผล แต่หลังจากตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า นายมณฑลเปิดบริษัทที่สอง และนำไปขายให้กับบริษัทดังต่อ เพื่อให้เป็นการรับช่วงทำแบรนด์ต่อจากนายมณฑล ไม่ใช่การทำแบรนด์บริษัทลูกอย่างที่บอกกับผู้เสียหาย และหลังจากผ่านไป 2 ปีก็ยังไม่ได้รับเงินปันผลแม้แต่บาทเดียว อีกทั้งยังมีปัญหากับภรรยาจนถึงขั้นเลิกรากันไป