svasdssvasds

เปิดใจ ‘กังฟู เพื่อไทยรวมพลัง’ หายหน้า หลังทัวร์ลงปมร่วมรัฐบาล

เปิดใจ ‘กังฟู เพื่อไทยรวมพลัง’ หายหน้า หลังทัวร์ลงปมร่วมรัฐบาล

'กังฟู วสวรรธน์' ยืนยันไม่ได้รับตำแหน่งตามที่พูดไว้ รับจัดตั้งรัฐบาลไม่สะท้อนเจตนารมณ์ประชาชน แต่บ้านเมืองต้องเดินต่อภายใต้รัฐธรรมนูญ เปรียบ "หมอลำเขาเขียนเรื่องมาแล้ว แก้ไม่ได้"

ทีมข่าว SPRiNG สัมภาษณ์พิเศษ 'กังฟู วสวรรธน์ พวงพรศรี' หัวหน้าพรรคเพื่อไทยรวมพลัง หลังจากหายหน้าหายตาจากสื่อไปพักใหญ่ ในช่วงการจัดตั้งรัฐบาลและถูกวิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ถึงการไปร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ทั้งที่เคยประกาศจุดยืนไว้ชัดเจนว่าจะไม่มีวันทิ้งพรรคก้าวไกลและ 8 พรรคร่วมฯ 

อย่างไรก็ตามกังฟูยังคงลงพื้นที่ใน จ.อุบลราชธานี อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเขต 3 และเขต 10 ซึ่งเจ้าตัวได้เปิดเผยกับทีมข่าวว่า พื้นน้องประชาชนในพื้นที่มีทั้งสองความเห็น ความเห็นหนึ่งก็ไม่ต้องการให้ร่วมรัฐบาล เพราะเจตนารมณ์ของประชาชนในการเลือกตั้งปี 2566 ที่ผ่านมา ประชาชนคาดหวังให้ส้มกับแดงจับมือกัน ขณะที่อีกฟากก็ต้องการให้พรรคเพื่อไทยรวมพลังร่วมรัฐบาล เพราะจะได้นำงบประมาณมาพัฒนาพื้นที่มากขึ้น และให้กำลังใจว่าไม่เป็นไร รอบหน้าค่อยเอาใหม่ก็ได้

กังฟู ยอมรับเวลา หลังจากรู้ว่าต้องร่วมรัฐบาล ตัวเองก็รู้สึกเครียดและเสียใจ เป็นห่วงความรู้สึกของพี่น้องประชาชน ตอนนั้นตัวเองเป็นหัวหน้าพรรคเมื่ออายุ 28 ปี ต้องฟังความคิดเห็นของกรรมการบริหารพรรค และ สส. แถมพรรคเพื่อไทยรวมพลังยังเป็นพรรคเล็กที่มีแค่ 2 เสียง ตัวเองก็ไม่ได้เป็น สส. ไม่สามารถกำหนดอะไรได้ ถ้าเป็น สส. ก็จะทำตามอุดมการณ์ ทำตามจุดยืนอย่างไม่ลังเล แต่ทั้งที่ตัวเองก็ยังรักษาคำพูดที่ให้ไว้คือ ไม่รับตำแหน่ง แต่ทำงานเป็นตำนานเพื่อคนตัวเล็กตัวน้อยเหมือนเดิม

"ยอมรับว่ากดดันและเสียแทนพี่น้องประชาชนที่หน้าตาของรัฐบาลไม่ได้เป็นไปตามผลของการเลือกตั้ง แต่วันนี้ต้องมีรัฐบาลเพื่อไปแก้ไขปัญหา รัฐธรรมนูญเขาขีดมาแบบนี้ เราเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ เหมือนสุภาษิตว่า หมอลำเรื่องเขาเขียนบทไว้แล้ว เราก็เบิ่ง ทำอะไรไม่ได้" 

ทั้งนี้ กังฟู อยากให้เข้าใจถึงการเมืองใน 2 ระดับคือการเมืองภาพใหญ่ และการเมืองท้องถิ่น ซึ่งตัวเองอยู่ในพื้นที่พบเห็นปัญหาของพี่น้องประชาชนในท้องถิ่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ไฟฟ้า ราคาพืชผลการเกษตร และคมนาคม ที่ถนนยังมีหลุมบ่อ บ้างก็ไม่มีไหล่ทาง ไม่มีไฟสองข้างทาง และถนนแคบ ไม่เหมาะสมต่อการขนส่งสินค้าและไม่ปลอดภัยต่อการสัญจรของผู้คนจำนวนมาก เช่น อำเภอน้ำยืน อำเภอน้ำขุ่น มีประชากรรวมกันเป็นแสนคน แต่ถนนจากอำเภอเข้าตัวเมืองคงยังเป็นถนนสองเลนส์ ไม่มีไหล่ทาง เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องที่ดีที่วันนี้รัฐบาลเริ่มดำเนินนโยบายเพื่อช่วยเหลือปัญหาปากท้องของประชาชน ตามเจตนารมณ์ของพรรคเพื่อไทยรวมพลังแล้ว เช่น มาตรการช่วยเหลือผู้ปลูกข้าวไร่ละ 1,000 บาท เป็นต้น พร้อมกันนี้กังฟูยังบอกว่าเมื่อหน้าตาของรัฐบาลวันนี้เป็นอย่างนี้แล้ว เราก็ต้องขับเคลื่อนกันต่อไปเพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งตัวเองก็ยังคงเป็นกระบอกเสียงและตัวประสานให้ประชาชนในฐานะหัวหน้าพรรคท้องถิ่นของคนอีสานเช่นเคย พร้อมทิ้งท้ายว่า "วันนี้พรรคของคนอีสานได้เกิดขึ้นแล้ว"

กังฟู กล่าวว่า วันนี้ฝ่ายค้านก็ทำงานตรวจสอบรัฐบาล รัฐบาลก็ต้องทำหน้าที่ขับเคลื่อนนโยบาย แต่ส่วนตัวยังพูดคุยกับพรรคก้าวไกลเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม ตัวเองยอมรับว่าในช่วงที่ทำงานกับ 8 พรรคร่วม มีความสุขเพราะได้ทำตามเจตนารมณ์ของประชาชน แต่วันนี้ หน้าตาของรัฐบาลออกมาเป็นแบบนี้ก็ไม่เป็นไร เราก็พร้อมทำงานเต็มที่เหมือนเดิม รับใช้พี่น้องประชาชนเหมือนเดิม ไม่ได้หายหน้าหายตาไปไหน และถ้ากฎหมายฉบับไหนที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลเสนอ พรรคเพื่อไทยรวมพลังก็พร้อมยกมือสนับสนุนในสภาฯ

รับชมเพิ่มเติม

related