ภคมน เดือด ซัด รัฐบาล ใจดำ จัดงบฯ ตอกย้ำความเหลื่อมล้ำ ประชาชนชนบท

ภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อัดรัฐบาลจัดสรรงบประมาณจังหวัดและกลุ่มจังหวัด จำนวน 2.65 หมื่นล้านบาท สำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 เธอมองว่าการจัดสรรงบประมาณในลักษณะนี้ เป็นการตอกย้ำความเหลื่อมล้ำและไม่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาให้ประชาชนในพื้นที่

ภคมน ระบุว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการใช้งบแบบนี้ เพราะผู้มีอำนาจใช้งบคือผู้ว่าราชการจังหวัดที่แต่งตั้งโดยกระทรวงมหาดไทย ซึ่งไม่ได้ยึดโยงกับประชาชนและไม่เข้าใจพื้นที่ การออกแบบงบประมาณใช้เกณฑ์ขนาดและความร่ำรวยของจังหวัด ทำให้จังหวัดใหญ่และร่ำรวยได้งบประมาณเยอะกว่า

เธอยกตัวอย่างการใช้งบที่พบว่า ส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้ในการทำถนน สร้างสะพาน ติดไฟส่องสว่าง และสร้างอาคาร แทนที่จะเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ตัวอย่างที่ระบุในแหล่งข้อมูลได้แก่

กลุ่มจังหวัดชายแดนใต้ งบ 1,205 ล้านบาท ถูกใช้สำหรับการก่อสร้างและฝึกอบรม แต่ไม่ได้มีโครงการยกระดับคุณภาพชีวิตและการศึกษาเลย ภคมน กล่าวว่ารัฐบาล "ใจดำ" ที่ไม่เจียดงบมาในส่วนนี้

พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อย่างจังหวัดบึงกาฬ หนองบัวลำภู และอำนาจเจริญ ขาดแคลนแพทย์ แต่ไม่มีโครงการที่เกี่ยวกับการเข้าถึงสาธารณสุขเลย งบถูกใช้กับทำถนนสร้างสะพานแทน

งบกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน 1,278 ล้านบาท ระบุว่าสำหรับโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว แต่พบว่างบส่วนมากเอาไปสร้างถนน ทำสะพาน และไฟส่องสว่าง นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่ใช้สำหรับทำถนนจริงๆ อีก 3,800 ล้านบาท ทำให้งบประมาณปี 69 ในส่วนงบจังหวัดและกลุ่มจังหวัดจะมีการก่อสร้างในพื้นที่ภาคใต้ถึง 5,000 ล้านบาท

กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 (กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี) มีการทุ่มเงินไปกับการสร้างถนน สร้างอาคาร มากกว่าสร้างคน

ภคมน ชี้ว่าสิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงอำนาจทางการเมือง ภารกิจที่ซ้ำซ้อน และขาดความพร้อมในการทำโครงการ เธอมองว่า การพัฒนาที่รัฐบาลคิดมีแต่การสร้างสิ่งก่อสร้าง ไม่เคยสร้างสรรค์งบประมาณที่ประชาชนรอคอย เธอจึงเสนอให้ ใช้งบประมาณจังหวัดและกลุ่มจังหวัดอย่างสร้างสรรค์ ตอบโจทย์พื้นที่มากกว่านี้ โดยคำนึงถึงการพัฒนาระบบการศึกษา ระบบสาธาณสุข ขนส่งสาธารณะ และเครื่องจักรการเกษตร

พร้อมทั้งเรียกร้องให้ มีการจัดสรรงบโดยคำนึงถึงการพัฒนาจังหวัด ไม่ใช่จัดสรรเป็นเค้กของกลุ่มอำนาจ และอยากเห็นงบถูกบริหารโดยท้องถิ่นจริงๆ ไม่ใช่ขอผ่านผู้ว่าฯ โดยเสนอให้มีการถ่ายโอนงบให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ซึ่งเป็นองค์กรทางการเมืองที่มีความเชื่อมโยงประชาชนมากกว่า การจัดสรรงบแบบเดิมเป็นการปิดกั้นการกระจายอำนาจ และประชาชนคือผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ