เปิดรายชื่อ 21 สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ เสนอนายกฯ แพทองธาร ปรับครม.ทุกตำแหน่ง ชี้ขาดความสามารถบริหาร-มีปัญหาจริยธรรม
กลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมือง หลัง 21 สส. พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ทำหนังสือถึง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรื่อง ข้อเสนอการปรับคณะรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยมีเนื้อหาดังนี้
ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง และสังคม อาทิ ความขัดแย้งระหว่างประเทศในภูมิภาค สงครามทางการค้า ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะการหลอกลวงผ่านคอลเซ็นเตอร์ การชะลอตัวของภาคการท่องเที่ยว ความเปราะบางของผู้ประกอบการ SME ตลอดจนภาระค่าครองชีพของประชาชนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล้วนส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน และอาจบั่นทอนเสถียรภาพและความมั่นคงของประเทศในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังขาดความรู้ความสามารถในการบริหารงาน รวมถึงการผลักดันนโยบายและการสร้างผลงานของรัฐมนตรี ซึ่งส่งผลให้ไม่สามารถตอบสนองต่อความคาดหวังของพี่น้องประชาชนได้อย่างเต็มศักยภาพ
นอกจากนี้ ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับประเด็นด้านจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีจากพรรครวมไทยสร้างชาติโดยเฉพาะในกรณีที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งปรากฏเป็นข่าวในหลายกรณี อันอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลโดยรวม
กรณีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับพฤติการณ์ที่อาจเข้าข่ายการกระทำอันขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 186 และ 184 ซึ่งว่าด้วยการใช้อำนาจแทรกแซงการปฏิบัติงานของหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรอิสระที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล ตลอดจนประเด็นที่อาจเข้าข่ายการกระทำอันขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 219 ซึ่งว่าด้วยการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อันอาจส่งผลต่อสถานภาพและคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี
ในสถานการณ์เช่นนี้ จึงเห็นว่า คุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีควรได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ “ความสุจริตอันเป็นที่ประจักษ์” ซึ่งถือเป็นหลักคุณธรรมพื้นฐาน และเป็นคุณสมบัติที่สำคัญอย่างยิ่งของการดำรงตำแหน่งทางการเมือง
อย่างไรก็ตาม ด้วยกลไกภายในของพรรครวมไทยสร้างชาติในปัจจุบันที่ไม่สามารถผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมในการสรรหาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ที่เหมาะสม มาช่วยขับเคลื่อนในการแก้ปัญหาให้กับรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำได้
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรครวมไทยสร้างชาติตามรายชื่อแนบท้ายจึงได้หารือร่วมกัน โดยยึดหลักความห่วงใยต่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศ จึงใคร่ขอเสนอให้ท่านนายกรัฐมนตรีพิจารณาปรับเปลี่ยนผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติในทุกตำแหน่ง เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปอย่างมีเอกภาพ มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ และสามารถตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนในภาวะวิกฤตเช่นปัจจุบันได้อย่างแท้จริง
ณ ปัจจุบัน (เดือนมิถุนายน 2568) พรรครวมไทยสร้างชาติมี สส. จำนวน 36 คน
ด้านนายวิชัย สุดสวาสดิ์ ส.ส.ชุมพร ได้ออกมาโต้ข่าวการปรับ ครม. “ผมในฐานะตัวแทนของ ส.ส.ทั้ง 3 เขตของ จ.ชุมพร ยืนยันว่า พวกเราไม่เคยลงชื่อในหนังสือถึงนายกฯ ให้ปรับครม.ในสัดส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ปรากฏตามข่าว เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดย 3 ส.ส.ชุมพร ที่ได้มีลายเซ็นในจดหมายแนบดังกล่าว ได้แก่ นายวิชัย สุดสวาสดิ์ นายสันต์ แซ่ตั้ง และนายสุพล จุลใส
ทางฝั่งของนายชื่นชอบ คงอุดม รองเลขาธิการนายกฯ ประจำรองนายกฯ พีระพันธุ์ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นกรณีดังกล่าว
“อย่ายอมคนชั่ว เหมือนว่าเรื่องนี้จะเป็นแค่ปัญหาในพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่มีคนชั่วพยายามทำลายคนดีที่พยายามทำงานเพื่อปชช. ทำทุกวิถีทางแม้โกหกหน้าด้านๆบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของท่านพีระพันธุ์ ส.ส.วิชัย สุดสวาสดิ์ ส.ส.จังหวัดชุมพรได้ออกมายืนยันแล้วว่าเรื่องทั้งหมดคือการโกหกต่อหน้าประชาชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง