SHORT CUT
นิด้าโพลชี้ ประชาชน “หมดหวัง” ต่อการเมือง! กว่า 76% หมดหวังพรรคการเมือง และ กว่า 60% ไม่พอใจ สส. เตรียม ไม่เลือก สส.เดิมเกินครึ่ง สะท้อน วิกฤตความเชื่อมั่น
ผลสำรวจล่าสุดจากนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เผยให้เห็นถึงภาพสะท้อนความรู้สึกของประชาชนที่ "หมดหวัง" ต่อการทำงานของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ชุดปัจจุบัน และพรรคการเมืองอย่างชัดเจน การสำรวจที่จัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 13-14 สิงหาคม 2568 จากกลุ่มตัวอย่าง 1,310 คนทั่วประเทศ
แสดงให้เห็นว่า ประชาชนส่วนใหญ่ไม่พอใจการทำงานของ สส. ในเขตเลือกตั้งของตน และเกินกว่าครึ่งไม่ต้องการเลือก สส. ชุดเดิมกลับเข้ามาดำรงตำแหน่งอีก นอกจากนี้ ความหวังของประชาชนต่อพรรคการเมืองในการแก้ปัญหาของประเทศก็อยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง โดยกว่า 70% รู้สึก "หมดหวัง" หรือ "ค่อนข้างหมดหวัง"
การสำรวจนี้ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายที่สำคัญของนักการเมืองและพรรคการเมืองในการฟื้นฟูความเชื่อมั่นจากประชาชน ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญสำหรับภูมิทัศน์ทางการเมืองในอนาคต
นิด้าโพลได้ทำการสำรวจความคิดเห็นเรื่อง "มีความหวังหรือหมดหวังกับพรรคการเมือง" โดยมีรายละเอียดและผลลัพธ์ที่น่าสนใจดังนี้
จะเห็นได้ว่า ผู้ที่ "ไม่ค่อยพอใจ" และ "ไม่พอใจเลย" รวมกันมีสัดส่วนสูงถึง 60.53% ซึ่งสะท้อนความไม่พึงพอใจต่อการทำงานของ สส.
เกินครึ่งหนึ่งของกลุ่มตัวอย่างระบุว่า "ไม่เลือก" สส. คนเดิมกลับมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการขาดความไว้วางใจ
สัดส่วนของผู้ที่ "หมดหวังแล้ว" และ "ค่อนข้างหมดหวัง" มีรวมกันสูงถึง 76.10% สะท้อนถึงการมองไม่เห็นอนาคตที่ดีจากพรรคการเมืองในปัจจุบัน
คล้ายกับ สส. เขต ประชาชนจำนวนมากก็ "ไม่เลือก" พรรคการเมืองเดิมในส่วนของบัญชีรายชื่อ
ผลสำรวจของนิด้าโพลในเดือนสิงหาคม 2568 ชี้ให้เห็นถึง ภาวะ "หมดหวัง" อย่างกว้างขวางของประชาชนชาวไทยต่อการเมืองในปัจจุบัน. ประเด็นสำคัญที่ตรวจพบคือ ประชาชนส่วนใหญ่กว่า 60% ไม่พอใจการทำงานของ สส. ในเขตเลือกตั้งของตน เกินครึ่งหนึ่งของประชาชน (50.69%) จะไม่เลือก สส. เขตคนเดิมกลับเข้าสู่ตำแหน่ง หากมีการเลือกตั้งในวันนี้ กว่า 76% ของประชาชนรู้สึก "หมดหวัง" หรือ "ค่อนข้างหมดหวัง" กับพรรคการเมือง ในการแก้ปัญหาของประเทศ ผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 40% จะไม่เลือก สส. แบบบัญชีรายชื่อจากพรรคการเมืองเดิมที่เคยเลือกในปี 2566
ผลสำรวจเหล่านี้ตอกย้ำว่า ความเชื่อมั่นของสาธารณชนต่อ สส. และพรรคการเมืองในสภาผู้แทนราษฎรปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำมาก ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อภูมิทัศน์ทางการเมืองในการเลือกตั้งครั้งต่อไป