SHORT CUT
การยุบสภาคือ การ “รีเซ็ต” การเมือง โดยสมบูรณ์ เป็นการยุติอำนาจของสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมดก่อนครบวาระ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้กลับไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งใหม่
คำว่า "ยุบสภา" กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอย่างมากในแวดวงการเมืองไทยในขณะนี้ หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมคำนี้ถึงมีความสำคัญนัก และการยุบสภาจะส่งผลอย่างไรต่อทิศทางการเมืองของประเทศ
การยุบสภาคือ การ “รีเซ็ต” การเมืองโดยสมบูรณ์ กล่าวคือ เป็นการยุติอำนาจของสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมดก่อนครบวาระ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้กลับไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งใหม่
การยุบสภา คือการที่รัฐบาลตัดสินใจให้สภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดอำนาจลงก่อนจะครบวาระ 4 ปี เพื่อเปิดทางให้มีการเลือกตั้งใหม่และให้ประชาชนได้ตัดสินใจเลือกผู้แทนของตัวเองอีกครั้ง
กลไกนี้เป็นเครื่องมือสำคัญในการแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่หาทางออกไม่ได้ เพราะการเลือกตั้งใหม่สามารถเปลี่ยนโฉมหน้าทางการเมืองและอำนาจในสภาได้เลย
สำหรับการ “ยุบสภา” ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 103 กำหนดไว้ว่า “พระมหากษัตริย์ทรงมีพระราชอำนาจยุบสภาผู้แทนราษฎร โดยคำแนะนำของนายกรัฐมนตรี” และเมื่อมีพระราชกฤษฎีกายุบสภา จะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไป ภายใน 45-60 วัน
การ “ยุบสภา” จะเกิดขึ้นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี จะเสนอพระราชกฤษฎีกายุบสภาต่อพระมหากษัตริย์หรือไม่ และการ “ยุบสภาสภาผู้แทนราษฎร” ถือเป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัติรย์
นั่นหมายความว่ารัฐบาลรักษาการ จะยังคงต้องทำหน้าที่ไปอีกอย่างน้อย 9 เดือน
ที่มา : thansettakij
ข่าวที่เกี่ยวข้อง