svasdssvasds

เปิดขั้นตอนเลือกตั้งใหม่ ภายใน 45-60 วัน หาก "ยุบสภา" เกิดขึ้นจริง

เปิดขั้นตอนเลือกตั้งใหม่ ภายใน 45-60 วัน หาก "ยุบสภา" เกิดขึ้นจริง

การยุบสภาคือ การ “รีเซ็ต” การเมือง โดยสมบูรณ์ เป็นการยุติอำนาจของสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมดก่อนครบวาระ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้กลับไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งใหม่

SHORT CUT

  • การยุบสภาคือ การ “รีเซ็ต” การเมือง โดยสมบูรณ์ เป็นการยุติอำนาจของสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมดก่อนครบวาระ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้กลับไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งใหม่
  • การยุบสภาเริ่มต้นโดยนายกรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอพระราชกฤษฎีกาต่อพระมหากษัตริย์เพื่อทรงมีพระบรมราชโองการ
  • คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ภายใน 45-60 วัน นับจากวันที่มีการยุบสภา
  • เมื่อยุบสภา ส.ส. ทั้งหมดจะสิ้นสุดสถานะลงทันที และรัฐบาลชุดเดิมจะทำหน้าที่เป็น "รัฐบาลรักษาการ" จนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่

การยุบสภาคือ การ “รีเซ็ต” การเมือง โดยสมบูรณ์ เป็นการยุติอำนาจของสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมดก่อนครบวาระ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้กลับไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งใหม่

คำว่า "ยุบสภา" กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอย่างมากในแวดวงการเมืองไทยในขณะนี้ หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมคำนี้ถึงมีความสำคัญนัก และการยุบสภาจะส่งผลอย่างไรต่อทิศทางการเมืองของประเทศ

การยุบสภาคือ การ “รีเซ็ต” การเมืองโดยสมบูรณ์ กล่าวคือ เป็นการยุติอำนาจของสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมดก่อนครบวาระ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้กลับไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งใหม่

ยุบสภาคืออะไร?

การยุบสภา คือการที่รัฐบาลตัดสินใจให้สภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดอำนาจลงก่อนจะครบวาระ 4 ปี เพื่อเปิดทางให้มีการเลือกตั้งใหม่และให้ประชาชนได้ตัดสินใจเลือกผู้แทนของตัวเองอีกครั้ง

กลไกนี้เป็นเครื่องมือสำคัญในการแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่หาทางออกไม่ได้ เพราะการเลือกตั้งใหม่สามารถเปลี่ยนโฉมหน้าทางการเมืองและอำนาจในสภาได้เลย

ขั้นตอนการยุบสภาและเลือกตั้งใหม่

สำหรับการ “ยุบสภา” ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 103 กำหนดไว้ว่า “พระมหากษัตริย์ทรงมีพระราชอำนาจยุบสภาผู้แทนราษฎร โดยคำแนะนำของนายกรัฐมนตรี” และเมื่อมีพระราชกฤษฎีกายุบสภา จะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไป ภายใน 45-60 วัน

  • นายกรัฐมนตรี เสนอพระราชกฤษฎีกายุบสภาต่อพระมหากษัตริย์
  • พระมหากษัตริย์ ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ยุบสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีผลบังคับใช้ทันทีที่ประกาศ
  • หลังจากนั้น ส.ส. ทั้งหมดจะสิ้นสุดสถานะทันที
  • คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะเข้ามามีบทบาท โดยมีหน้าที่กำหนดวันเลือกตั้งใหม่ภายใน 45-60 วันนับตั้งแต่วันที่ยุบสภา
  • หลังจากวันเลือกตั้งและ กกต. รับรองผลแล้ว จะมีการเปิดประชุมรัฐสภาใหม่ภายใน 15 วัน เพื่อโหวตเลือก นายกรัฐมนตรี คนใหม่
  • ในระหว่างที่รอกระบวนการเหล่านี้ รัฐบาลชุดเดิม จะทำหน้าที่เป็น “รัฐบาลรักษาการ” จนกว่ารัฐบาลใหม่จะจัดตั้งสำเร็จ

คณะรัฐมนตรีรักษาการ

  • จำกัดอำนาจไม่สามารถทำเรื่องสำคัญเช่น การกู้เงิน หรือแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง

การ “ยุบสภา” จะเกิดขึ้นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี จะเสนอพระราชกฤษฎีกายุบสภาต่อพระมหากษัตริย์หรือไม่ และการ “ยุบสภาสภาผู้แทนราษฎร” ถือเป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัติรย์ 

ไทม์ไลน์การเมืองไทย ถ้าไม่ยุบสภา

  • เลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 32-แถลงนโยบาย ( เดือนก.ย.2568)
  • ยุบสภา 4 เดือนตามกรอบเวลา (เดือนต.ค.-ม.ค.2569)
  • เลือกตั้งใหม่ 45-60 วัน (เดือนก.พ.-มี.ค.2569)
  • ประกาศผลเลือกตั้งใน 60 วัน (เดือนเม.ย.-พ.ค.2569)
  • ประชุมรัฐสภาภายใน 15 วัน (เดือนมิ.ย.2569)

นั่นหมายความว่ารัฐบาลรักษาการ จะยังคงต้องทำหน้าที่ไปอีกอย่างน้อย 9 เดือน

ที่มา : thansettakij 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related