"10 ที่สุด ครม.อนุทิน" ดรีมทีมแก้เศรษฐกิจ-7 รองนายกฯ พาประเทศฝ่าวิกฤต

ความคืบหน้าการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่กำลังเข้าสู่โค้งสุดท้าย เมื่ออนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ได้ลงนามในรายชื่อคณะรัฐมนตรีเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว หลังจากที่กระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติเสร็จสิ้น ซึ่งเป็นสัญญาณว่ารัฐบาลใหม่กำลังจะเริ่มทำงานอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้

"10 ที่สุด ครม.อนุทิน"

1. 7 รองนายกฯ

• เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส : รองนายกฯ และรมว.คลัง
• พิพัฒน์ รัชกิจประการ : รองนายกฯ และรมว.คมนาคม
• โสภณ​ ​ซา​รัมย์ : รองนายกฯ
• บวรศักดิ์ อุวรรณโณ : รองนายกฯ
• ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า : รองนายกฯ และรมว.เกษตรฯ
• พัฒนา พร้อมพัฒน์ : รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข
• สุชาติ ชมกลิ่น : รองนายกฯ และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ

2. 4 รัฐมนตรี ประจำสำนักนายกฯ

• ศุภมาส อิศรภักดี
• ภราดร ปริศนานันทกุล 
• นภินทร ศรีสรรพางค์ 
• สันติ ปิยะทัต

3. ดรีมทีมเศรษฐกิจ

กลุ่มนี้ถูกมองว่าเข้ามาช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้รัฐบาล ทำหน้าที่แก้ไขวิกฤต และฟื้นความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ ปากท้อง

• เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส : รองนายกฯ และรมว.คลัง อธิบดีกรมธนารักษ์ ก่อนหน้านี้เป็นอธิบดีกรมสรรพากร และอธิบดีกรมสรรพสามิต
• อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ : รมว.พลังงาน อดีต CEO ปตท.
• ศุภจี สุธรรมพันธุ์ : รมว.พาณิชย์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน)
• วรภัค ธันยาวงษ์ : รมช.คลัง อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธ.กรุงไทย เคยช่วยงาน นายพิชัย ชุณหวชิร รมว.คลัง ยุคนายกฯ แพทองธาร

4. รัฐมนตรี "สายล่อฟ้า"

ครม.ชุดนี้ยังปรากฎรชื่อรัฐมนตรีที่ถูกมองว่าเป็น “สายล่อฟ้า” เพราะสุ่มเสี่ยงต่อการถูกร้องเรียนตรวจสอบคุณสมบัติ และถูกจับตาว่าอาจทำงานเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเครือข่ายการเมืองและธุรกิจ

5. รัฐมนตรี "อายุน้อย"

นายไชยชนก ชิดชอบ อายุ 36 ปี ถือเป็นว่าที่รัฐมนตรีอายุน้อยที่ติดโผเป็นรัฐมนตรีว่าการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นทายาทรุ่นที่ 3 ของครอบครัวนักการเมืองในตระกูล ชิดชอบ คือเป็นหลานของปู่ชัย และลูกชายคนโตของพ่อเนวิน - กรุณา ชิดชอบ

6. รัฐมนตรี "อายุมาก"

• พิพัฒน์ รัชกิจประการ อายุ 70 ปี
• บวรศักดิ์ อุวรรณโณ 70 ปี

7. รมต.มาแรง ควบ 2 เก้าอี้

พัฒนา พร้อมพัฒน์ ลูกชาย "สันติ พร้อมพัฒน์" เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ มาแรง เตรียมนั่งเก้าอี้รองนายกฯ ควบรมว.สาธารณสุข 

8. โจทย์ใหญ่ทางการเมือง 

"ข้อตกลงทางการเมือง" ระหว่างพรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาชน ใน MOA ระบุไว้ชัดเจน

• นายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องยุบสภาผู้แทนราษฎรภายใน 4 เดือน นับตั้งแต่วันที่ได้แถลงนโยบาย ต่อรัฐสภา เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป
• ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จำเป็นต้องมีการออกเสียงประชามติก่อนที่รัฐสภาจะดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ตามมาตรา 256 นั้น เพื่อนำไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญญฉบับใหม่ โดยสภาร่างรัฐธรรมนณที่มาจากการเลือกตั้งโดยเร็ว ทั้งนี้ต้องไม่เกินกว่าวันลงคะแนเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป

ข้อตกลงทางการเมืองที่ “พรรคส้ม” ขีดวาระอายุรัฐบาล “อนุทิน” ไว้ที่ 4 เดือน นับจากวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งคาดการณ์ไว้ว่า จะไม่เกินต้นเดือนต.ค.นี้ ดังนั้น กรอบระยะจะสิ้นสุดช่วงเดือน ม.ค.2569 จากนั้น “รัฐบาล”ต้องประกาศยุบสภา ซึ่งส่งผลให้ต้องเลือกตั้งใหม่ ภายใน 45 - 60 วัน จึงไม่ทันต่อการวางวาระเพื่อตั้งต้นนำไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประชาชน ได้ทันสมัยสภาชุดนี้

9. ปัญหาใหญ่ของรัฐบาลอนุทิน 

ทันทีที่มีข่าวพรรคภูมิใจไทยจะมาเป็นรัฐบาล นโยบายและการตรวจสอบเรื่องสำคัญต่างๆ บางเรื่อง บางกรณี มีการเปลี่ยนทิศทางไปอย่างน่าสนใจ ทั้งๆ ที่พรรคภูมิใจไทยยังไม่ได้เข้ามารับหน้าที่เป็นรัฐบาลเลยด้วยซ้ำ โดยพบว่า ทันทีที่การเมืองทำท่าจะเปลี่ยนขั้ว การเพิกถอนโฉนดที่ดินเขากระโดง “โซนไข่แดง” ชะงักทันที ตั้งแต่คดีคลิปเสียงนายกฯแพทองธาร ชินวัตร ยังไม่ตัดสิน โดยอธิบดีกรมที่ดินคนใหม่มีอาการเจ็บหัวไหล่ ทำให้จับปากกาเซ็นเพิกถอนโฉนดไม่ได้ ทั้งๆ ที่ฝ่ายการเมืองเคยประกาศว่า "วันเดียวจบ" 

10. รัฐบาลเสียงข้างน้อย (ขาดอำนาจบริหารเด็ดขาด)

“รัฐบาลเสียงข้างน้อย” เป็นรัฐบาลที่พรรคการเมืองหรือแนวร่วมพรรคการเมืองมีจำนวนที่นั่งในสภานิติบัญญัติน้อยกว่ากึ่งหนึ่งของทั้งหมด รัฐบาลเสียงข้างน้อยอาจประกอบด้วยพรรคเดียวหรือหลายพรรค และอาจอยู่ในรูปแบบที่มีหรือไม่มีการสนับสนุนจากพรรคการเมืองอื่นที่ไม่ได้เข้าร่วมในคณะรัฐมนตรีก็ได้ 

รัฐบาลที่ภายใต้การนำของนายอนุทิน ถือเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่มีอายุสั้น โดยมีกรอบเวลา 4 เดือนในการจัดทำประชามติหรือผลักดันรัฐธรรมนูญใหม่ ก่อนยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน 

รัฐบาลเสียงข้างน้อยในบริบทไทยปัจจุบันมีลักษณะเฉพาะกิจ โดยจัดตั้งขึ้นเพื่อคลี่คลายวิกฤตทางการเมืองและปูทางไปสู่การยุบสภาและการเลือกตั้งครั้งใหม่