SHORT CUT
เมื่อถนนทุกสายมุ่งสู่ภูมิใจไทย บ้านใหญ่และ สส. ที่เข้ามาใหม่อาจจะส่งผลข้างเคียงให้เกิดรอยร้าวใหญ่ภายในพรรค เมื่อคนใหม่ที่ดูดเข้ามาทับที่คนเก่า
นับถอยหลังอีกไม่ถึง 4 เดือนที่จะมีการยุบสภาและนำประเทศไทยเข้าสู่การเลือกตั้งทั่วไปอีกครั้ง กลุ่มการเมืองและบ้านใหญ่ต่างเริ่มหาสังกัดพรรคและพื้นที่ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามกฎหมายลูกประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.
แน่นอนว่าพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอย่าง 'ภูมิใจไทย' กลายเป็นพรรคเนื้อหอมที่ใครๆ ก็ต่างย้ายเข้ามา ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เช่น กระแสพรรค อำนาจรัฐ หรือพลังดูด เป็นต้น นำมาสู่ปัญหาหนึ่งที่เลี่ยงไม่ได้คือ คนใหม่ที่เข้ามากลับทับซ้อนกับหลายพื้นที่ของคนเก่าที่ทำพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะการเข้ามาของ สส. พรรคเพื่อไทย 8 คนในนามกลุ่มนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้แก่
นายอนันต์ ปรีดาสุทธิจิตต์ ชลบุรี เขต 5
พล.ต.ต.สุรพล บุญมา นครนายก เขต 1
นายกิตติ สมทรัพย์ ร้อยเอ็ด เขต 6
นายนรากร เมืองนารักษ์ ร้อยเอ็ด เขต 4
นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ กาญจนบุรี เขต 1
นายประเสริฐ บุญเรือง กาฬสินธุ์ เขต 6
นพ.ภูมินทร์ ลีธีรประเสริฐ ศรีสะเกษ เขต 4
และนางนุชนาถ จารุวงษ์เสถียร ศรีสะเกษ เขต 9
เกิดการทับซ้อนกับคนเก่าใน 4 พื้นที่ ได้แก่ จังหวัดนครนายก เขต 1 (อำเภอเมืองและอำเภอปากพลี) สส.ปัจจุบันจากค่ายเพื่อไทยที่ย้ายเข้ามาในพรรคภูมิใจไทย คือ พล.ต.ต.สุรพล บุญมา หรือที่รู้จักกันในนาม ‘ผู้การแดง’ หรืออดีต ‘รองผู้การ’ หรือตำแหน่งสุดท้ายก่อนออกจากราชการมาทำการเมืองคือ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรนครนายก ก่อนที่จะมาลงสมัคร สส. และได้รับเลือกตั้งเป็น สส.นครนายก สมัยแรก ชนกับ นายปิยวัฒน์ กิตติธเนศวร ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายภราดร ปริศนานันทกุล) ที่เคยลงหาเสียงเลือกตั้งแข่งกันเมื่อปี 2566 เขาเป็นลูกชาย ‘เสี่ยอ๋า นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร’ บ้านใหญ่ที่ครองเก้าอี้ สส.นครนายกมา 5 สมัย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครนายก และประธาน ส.อบจ. อีก 4 สมัย
จังหวัดร้อยเอ็ด เขต 6 (อำเภอสุวรรณภูมิ อำเภอโพนทราย และอำเภอหนองฮี ยกเว้นตำบลหนองฮี) นายกิตติ สมทรัพย์ จากค่ายเพื่อไทย เป็น สส.ร้อยเอ็ดมา 6 สมัย ตั้งแต่ปี 2544 จนถึงปัจจุบัน กลายเป็นคู่แข่งคนสำคัญของ นายคารม พลพรกลาง ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายโสภณ ซารัมย์) อดีตรองโฆษกรัฐบาลแพทองธาร และรัฐบาลเศรษฐา อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ หรือ พรรคก้าวไกล ที่กล้าลุยไฟย้ายพรรคมาตั้งแต่ปี 2564 จนถูกวิจารณ์จากโลกออนไลน์ว่าเป็น "งูเห่า" แต่ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ย้ายพรรคมาแล้วทำพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดมาอย่างต่อเนื่อง แม้จะแพ้ให้แชมป์เก่าอย่างนายกิตติ ในการเลือกตั้งปี 2566 ก็ตาม
จังหวัดศรีสะเกษ เขต 3 (อำเภอกันทรลักษ์ ยกเว้นตำบลภูเงิน ตำบลกระแซง ตำบลตระกาจ และตำบลจานใหญ่) นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ สส.ศรีสะเกษ 3 สมัย ปี 2535 2539 พรรคความหวังใหม่ และ 2566 พรรคเพื่อไทย อดีตรองโฆษกรัฐบาลอภิสิทธิ์ และอดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย รอบนี้ต้องเจอกับ นพ.จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ อดีต สส.ศรีสะเกษ 5 สมัย สามีของ ‘อุดมลักษณ์’ อดีต สส.ศรีสะเกษ ที่เป็นคู่แข่งของ นพ.ภูมินทร์ ในการเลือกตั้งปี 2566 นอกจากนี้ นพ.จาตุรงค์ ยังดองกับบ้านใหญ่อย่าง 'ไตรสรณกุล' เพราะนางอุดมลักษณ์เป็นน้องสาวของนายธีระ ไตรสรณกุล สส. หลายสมัย นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ เรียกว่าจะเป็นศึกช้างชนช้างในพรรคภูมิใจไทยที่หัวหน้าหนูต้องหนักใจก็เป็นได้
จังหวัดศรีสะเกษ เขต 9 (อำเภอราษีไศล อำเภอยางชุมน้อย อำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ อำเภอศิลาลาด อำเภอบึงบูรพ์) นางนุชนาถ จารุวงษ์เสถียร แม้จะเป็น สส.ศรีสะเกษ สมัยแรก แต่เธอถือเป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่ เป็นประธานสโมสรฟุตบอลราษีไศลยูไนเต็ด และเคยมีผลงานการอภิปรายตอบโต้กับนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในสภาโดดเด่นจนถูกขนานนามว่า "สส.กีกี้" ต้องมาชนกับนายปวีณ แซ่จึง คู่แข่งเก่าในสนามเลือกตั้งปี 2566 เขาเป็นอดีตอดีตนายก อบจ.ศรีสะเกษ และ สส.ศรีสะเกษ 3 สมัย และเป็นสามีของนางผ่องศรี แซ่จึง อดีต สส.ศรีสะเกษ 2 สมัย
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเขตที่ต้องจับตามอง ไม่ว่าจะเป็น จังหวัดพัทลุง เขต 3 ที่ตอนนี้วางตัวให้ นายมุนินทร์ เขมพล อุ้ยตยะกุล ประธานสโมสร พัทลุง เอฟซี และอดีตเลขานุการ รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ เป็นผู้สมัคร สส. ในสมัยหน้า แต่หากนายนริศ ขำนุรักษ์ ย้ายเอาลูกชาย นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ เจ้าของพื้นที่มาพรรคภูมิใจไทย งานนี้ก็อาจจะเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากอีกกรณีหนึ่งก็เป็นได้ เพราะหากสุดท้ายแล้วการตัดสินใจให้ใครลงเขตไหนก็อาจจะส่งผลต่อการตัดสินใจ "ไปต่อ" กับพรรคภูมิใจไทยของผู้สมัครเกรดเอ