SHORT CUT
แพทองธาร ชินวัตร ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย หรือจะเป็นยุทธศาสตร์ “ตัดไฟแต่ต้นลม” เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงทางกฎหมายที่อาจส่งผลกระทบต่อพรรคในการเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้า
ประเด็นการเมืองที่กำลังเขย่าความเชื่อมั่นของพรรคเพื่อไทย และสร้างแรงกระเพื่อมอย่างรุนแรงในวันนี้ (22 ต.ค. 68) คือการประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยของ แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นี่ไม่ใช่เพียงการเปลี่ยนแปลงตัวผู้นำพรรค แต่เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงวิกฤตซ้อนวิกฤตของพรรคการเมืองที่มีฐานเสียงมหาศาลแห่งนี้
การตัดสินใจลาออกของ น.ส.แพทองธาร เกิดขึ้นภายใต้เงาของความพ่ายแพ้ทางการเมืองครั้งสำคัญ ในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กาญจนบุรี เขต 4 ที่พรรคเพื่อไทยพ่ายให้กับคู่แข่งจากพรรคภูมิใจไทย
ความพ่ายแพ้ครั้งนี้เป็นมากกว่าแค่การสูญเสียที่นั่ง สส. มันคือการส่งสัญญาณอันตรายถึงความสั่นคลอนของฐานเสียงและความมั่นคงภายในพรรคที่หลายฝ่ายเคยเชื่อมั่นว่าแข็งแกร่ง
ข่าวนี้เกิดขึ้นเพียง 12 วันหลังจากพรรคเพิ่งจัดงานใหญ่ “ยกเครื่องเพื่อไทย ยกเครื่องประเทศไทย” เพื่อแสดงศักยภาพและความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งใหญ่ปี 2569 การเปลี่ยนแปลงผู้นำอย่างไม่คาดฝันหลังงานใหญ่จึงสร้างคำถามมากมาย
แม้ความพ่ายแพ้จะเป็นปัจจัยเร่ง แต่แหล่งข่าวระดับสูงชี้ชัดว่า การลาออกครั้งนี้คือการตัดสินใจทางยุทธศาสตร์ที่เฉียบขาดเพื่อ "ตัดไฟแต่ต้นลม" และป้องกันความเสี่ยงทางกฎหมายที่ร้ายแรงกว่า
น.ส.แพทองธาร เพิ่งพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ การดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคต่อไปและต้อง ลงนามรับรองผู้สมัคร สส. ในการเลือกตั้งใหญ่ปี 2569 ถูกประเมินว่าอาจกลายเป็น "ช่องโหว่ทางกฎหมาย"
ภายในพรรคมีการหารือและลงความเห็นว่า หากปล่อยให้เธอดำรงตำแหน่งต่อไป อาจเปิดโอกาสให้ฝ่ายตรงข้ามใช้ประเด็นนี้โจมตีและสร้างความเสียหายต่อความชอบธรรมของผู้สมัครและพรรคได้ในอนาคต การลาออกจึงเป็นการเสียสละเพื่อลดความเสี่ยงโดยรวม
เส้นทางของ "แพทองธาร ชินวัตร" ในการเมืองไทยตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ที่รวดเร็วที่สุด
จากตำแหน่ง "หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย" พุ่งทะยานสู่ "นายกรัฐมนตรีหญิงที่อายุน้อยที่สุด" จบลงด้วยการพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และตามมาด้วยการลาออกจากหัวหน้าพรรคในระยะเวลาไม่ถึง 3 ปีเต็ม
สถานการณ์ปัจจุบันทำให้พรรคเพื่อไทยยืนอยู่บนทางแยกที่สำคัญระหว่าง "การฟื้นตัว" กับ "การถดถอย"
นักวิเคราะห์การเมืองมองว่า หลังการลาออกของแพทองธาร พรรคเพื่อไทยกำลังเผชิญกับโจทย์ใหญ่ 3 ด้านที่ต้องเร่งแก้ไขอย่างเร่งด่วน
หลังจากที่ แพทองธาร ชินวัตร เตรียมประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค ใครจะได้ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ มีบุคคลที่ถูกจับตามองมากเป็นพิเศษอยู่ ดังนี้
ถือหนึ่งในคนที่เคียงข้าง แพทองธาร ชินวัตร ในทุกเหตุการณ์สำคัญของชีวิต พี่สาวคนโตที่อยู่เคียงข้างอุ๊งอิ๊งมาตลอดกว่า 37 ปี แม้จะไม่ทำงานการเมืองโดยตรง แต่พินทองทาถือเป็นกำลังสำคัญที่คอยสนับสนุนทั้งครอบครัว โดยเฉพาะน้องสาว แพทองธาร เธอมักปรากฏตัวในงานสำคัญของครอบครัวและยังคงรักษาบทบาทในภาคธุรกิจและการกุศล ทำให้ชื่อของเธอยังคงถูกพูดถึงในแวดวงสังคมและการเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง
นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โปรไฟล์หรู สามีของ "เอม" พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานบริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท จำกัด (มหาชน) ก่อนหน้านี้นายภูมิธรรม เวชยชัย แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความเป็นไปได้ในการทาบทามณัฐพงศ์เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค พร้อมยกย่องว่า “สมาร์ท หล่อ และมีศักยภาพ” หากได้รับแรงหนุนจากสังคมในสัดส่วนมาก พรรคอาจพิจารณาผลักดันอย่างจริงจัง แต่เจ้าตัวเผย “ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้” เมื่อถูกถามถึงโอกาสเป็นนายกฯ แต่ไม่ปฏิเสธ
ถือเป็นอีกหนึ่งคนสำคัญที่หลายคนจับตามอง สำหรับ "ปอ ปิฎก สุขสวัสดิ์" สามีของแพทองธาร ชินวัตร ลูกเขยคนเล็กของ "ทักษิณ ชินวัตร" เค้าเริ่มงานเป็นนักบิน ประจำสายการบินชื่อดัง ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่ด้านการลงทุน บริษัท เรนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด บริษัทในเครือของตระกูล "ชินวัตร" ดูแลพอร์ตลงทุนในด้านต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ที่มา : Posttoday
ข่าวที่เกี่ยวข้อง