svasdssvasds

รู้จัก Rolex GMT-Master II นาฬิกาที่เชื่อมโยงคุณกับทุกโซนเวลาทั่วโลก

รู้จัก Rolex GMT-Master II นาฬิกาที่เชื่อมโยงคุณกับทุกโซนเวลาทั่วโลก

Rolex GMT-Master II คอลเลกชันที่ประสบความสำเร็จตลอดกาล ควรแก่การเก็บสะสมไว้สักเรือน โดดเด่นด้วยคุณสมบัติแสดงสองเขตเวลาได้พร้อมกัน โดยเฉพาะใครที่ต้องเดินทางข้ามโซนเวลาอยู่ตลอด

หนึ่งในนาฬิกาจาก Rolex ที่ประสบความสำเร็จสูงสุด คงหนีไม่พ้นรุ่น Rolex GMT-Master II คอลเลกชันที่ประสบความสำเร็จตลอดกาล ควรแก่การเก็บสะสมไว้สักเรือน โดยเฉพาะใครที่ต้องเดินทางข้ามโซนเวลาอยู่ตลอดอย่างเช่น นักธุรกิจ นักบิน เพราะ Rolex GMT-Master โดดเด่นด้วยคุณสมบัติแสดงสองเขตเวลาได้พร้อมกัน โดยอาจปรับเป็นเวลาท้องถิ่นและเขตเวลาอื่นที่เราสามารถปรับได้ตามต้องการ

รวมถึงคุณสมบัติอื่นๆ ทั้งความทนทาน แข็งแกร่ง พร้อมเผชิญกับสภาพอากาศที่แตกต่าง ทำให้ Rolex GMT-Master กลายเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ และครองใจใครหลายคนมาอย่างยาวนาน จนพัฒนาไปอีกขั้นในรุ่น Rolex GMT-Master II บทความนี้จะพาไปย้อนรอยความสำเร็จของ Rolex GMT-Master II ถึงความเป็นมาของนาฬิกาสองไทม์โซนยอดฮิต เรือนเวลาคู่ใจนักเดินทางท่องกาลเวลาอย่างต่อเนื่องไปพร้อมกัน 

ประวัติศาสตร์ของ Rolex GMT-Master ยุคแรกของการเดินทางข้ามทวีป

Rolex GMT-Master ถือกำเนิดขึ้นในปี 1955 โดยได้รับการออกแบบเป็นพิเศษสำหรับนักบินของสายการบิน Pan American World Airways (Pan Am) ในยุคแรกของการเดินทางข้ามทวีป ด้วยความสามารถในการแสดงเวลาพร้อมกัน 2 โซนเวลา ช่วยให้นักบินสามารถติดตามเวลาของสถานที่ที่อยู่และจุดหมายปลายทางได้อย่างแม่นยำ รุ่นแรกของ GMT-Master มีชื่อรุ่นว่า Ref. 6542 พร้อมด้วยขอบหน้าปัดสีสองโทนที่สื่อถึงกลางวันและกลางคืน ทำให้นาฬิการุ่นนี้ไม่เพียงแต่ได้รับความนิยมในหมู่นักบินเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นสัญลักษณ์ของผู้เดินทางทั่วโลก
 

 

ฟังก์ชันอัจฉริยะ หัวใจหลักของ Rolex GMT-Master II

Rolex GMT-Master II โดดเด่นด้วยฟังก์ชันหลักในการแสดงเวลาสองโซนพร้อมกัน และสามารถติดตามได้ถึงสามโซนเวลา กลไกสำคัญคือ เข็ม 24 ชั่วโมงปลายสามเหลี่ยม ซึ่งทำหน้าที่แสดงเวลาอ้างอิงหรือเวลาถิ่นพำนัก ขณะที่เข็มชั่วโมงปกติสามารถปรับตั้งค่าได้อย่างอิสระแบบ "กระโดดข้าม" ทีละชั่วโมง โดยไม่ส่งผลกระทบต่อความเที่ยงตรงของนาฬิกา ขับเคลื่อนด้วยกลไก Calibre 3285 ที่พัฒนาโดย Rolex ทำให้มีความแม่นยำสูง มีระบบหยุดเข็มวินาทีเพื่อการตั้งเวลาที่เที่ยงตรง และมีพลังงานสำรองนานถึง 70 ชั่วโมง 

ดีไซน์การออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ ด้วยหน้าปัดสองสี

คอลเลกชันนี้โดดเด่นด้วยดีไซน์ขอบหน้าปัดแบบสองสีซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของรุ่นนี้ ขอบหน้าปัด Cerachrom ผลิตจากเซรามิกที่มีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษ ทนทานต่อการขีดข่วนและการกัดกร่อน สีสวยงามไม่ซีดจางตามกาลเวลา ขอบหน้าปัดแบ่งเป็นสองสีเพื่อแสดงเวลา 24 ชั่วโมง โดยส่วนครึ่งล่างแทนเวลาช่วงกลางวัน และครึ่งบนแทนเวลาช่วงกลางคืน วัสดุที่ใช้ผสมผสานระหว่าง Oystersteel เหล็กคุณภาพสูงและเอเวอร์โรสโกลด์ทองชมพู 18 กะรัตในโทน Everose Rolesor ซึ่งมอบความแข็งแรงและความงดงามแบบคลาสสิคเข้ากันอย่างลงตัว ดีไซน์ที่หลากหลายและวัสดุคุณภาพสูงนี้ช่วยเสริมความทนทานและความหรูหราของ Rolex GMT-Master II ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เหตุผลที่ Rolex GMT-Master II ยังคงเป็นที่ต้องการทุกเจนเนอเรชัน

Rolex GMT-Master II ออกแบบด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ขอบหน้าปัด Cerachrom สีน้ำตาลและสีดำที่หมุนได้สองทิศทาง เพื่อแสดงเวลา 24 ชั่วโมง ช่วยให้ผู้สวมใส่ดูเวลาในเขตเวลาอ้างอิงและเขตเวลาท้องถิ่นได้พร้อมกัน โดยแสดงปลายเข็มที่มีปลายลูกศรเดินรอบ 24 ชั่วโมง ทำให้สามารถอ่านเวลาและปรับตั้งให้เข้ากับไทม์โซนต่างๆ ได้ง่ายดาย และด้วยกลไก Calibre 3285 เอกสิทธิ์เฉพาะของ Rolex ทำให้ได้กลไกการทำงานระบบขึ้นลานอัตโนมัติ สามารถปรับตั้งเวลาได้อย่างเที่ยงตรง

นอกจากนี้ ยังมีพลังงานสำรองของการทำงานในกลไกได้สูงสุดถึง 70 ชั่วโมง พร้อมวัสดุที่ผสมผสานระหว่าง Oystersteel เหล็กเกรดสูงและเอเวอร์โรสโกลด์ทองชมพูในโทน Everose Rolesor มอบทั้งความแข็งแกร่งและความงดงาม รูปแบบหน้าปัดสีดำมาพร้อมโครมาไลท์ที่เรืองแสงให้เห็นได้ชัดในทุกสภาพแวดล้อม ดีไซน์นี้ช่วยเสริมความทนทานและความสปอร์ตในทุกการเดินทางที่เป็นมากกว่านาฬิกา ด้วยดีไซน์และกลไกการทำงานที่โดดเด่น ทนทาน และเที่ยงตรงจึงเป็นเหตุผลที่ Rolex GMT-Master II เป็นที่ต้องการของนักสะสมและคนทุกเจนเนอเรชัน

ทั้งหมดนี้เป็นคุณสมบัติเด่นที่ Rolex GMT-Master II เป็นนาฬิกาที่ยังคงเป็นที่ต้องการอยู่เสมอ โดยมีฟังก์ชันหลักในการแสดงเวลาได้ถึงสองหรือสามโซนเวลาพร้อมกัน กลไกนี้ทำงานโดยใช้เข็ม 24 ชั่วโมงแสดงเวลาอ้างอิง และสามารถปรับตั้งเข็มชั่วโมงปกติแบบ "กระโดดข้าม" ได้อย่างอิสระโดยไม่กระทบความแม่นยำ นาฬิกาขับเคลื่อนด้วยกลไก Calibre 3285 ที่เที่ยงตรงสูง มีพลังงานสำรองนาน 70 ชั่วโมง และเสริมด้วยขอบหน้าปัด Cerachrom ที่หมุนได้สองทิศทาง ช่วยให้การอ่านเวลาในโซนอื่นๆ สะดวกและแม่นยำมากยิ่งขึ้น ใครที่กำลังมองหาเรือนเวลาคู่ใจที่เป็นมากกว่าบอกเวลา แต่ยังบอกถึงรสนิยมอย่างมีสไตล์ แนะนำที่ Nam Sawang ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย พร้อมให้คำปรึกษาก่อนเลือกนาฬิกาเรือนโปรดให้ตรงใจ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คุณมากที่สุด

related