svasdssvasds

ประวัติ อุสมาน เดมเบเล่ ผู้คว้าบัลลง ดอร์ 2025 ไปไม่สุดกับบาร์ซ่า สู่ราชายอดนักเตะ

ประวัติ อุสมาน เดมเบเล่ ผู้คว้าบัลลง ดอร์ 2025  ไปไม่สุดกับบาร์ซ่า สู่ราชายอดนักเตะ

"ไม่มีฝนไหนที่จะตกตลอดไป" ประโยคนี้อาจจะใช่่เปรียบเทียบชีวิตของอุสมาน เดมเบเล่ ได้ดี เพราะครั้งหนึ่งเขาเคยล้มเหลว ผิดหวัง , แต่วันนี้ เขาคือนักเตะที่คว้ารางวัลที่ยิ่งใหญ่ อย่างบัลลงดอร์

บนวัย 28 ปี เดมเบเล่ได้จารึกชื่อของตนเองในฐานะเจ้าของรางวัล บัลลงดอร์ ประจำปี 2025 อย่างสง่างาม ปิดฉากฤดูกาลอันน่ามหัศจรรย์ที่เปลี่ยนจากนักเตะพรสวรรค์ผู้หลงทาง สู่ราชันย์แห่งโลกฟุตบอลอย่างสมศักดิ์ศรี 
.
นี่คือเรื่องราวการเดินทางที่ไม่ธรรมดา จากเงาของความผิดหวังที่คัมป์นู "ไปไม่สุด" กับบาร์เซโลน่า กับสู่จุดสูงสุดกับชีวิตในปาร์ก เดอ แพรงส์ ในปารีส

ความสำเร็จ - ฤดูกาลมหัศจรรย์

ฤดูกาล 2024-2025 จะถูกจดจำไปตลอดกาลในหน้าประวัติศาสตร์ของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และเดมเบเลคือศูนย์กลางของทุกความสำเร็จนั้น ภายใต้การนำของ หลุยส์ เอ็นริเก้ กุนซือชาวสเปน เปแอสเชได้สร้างประวัติศาสตร์คว้า 4 แชมป์ (Quadruple) เป็นครั้งแรก ประกอบด้วยถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่รอคอยมานาน, ลีกเอิง, เฟรนช์ คัพ และ เฟรนช์ ซูเปอร์ คัพ

แต่ความสำเร็จของทีมเป็นเพียงภาพสะท้อนฟอร์มการเล่นอันร้อนแรงของเดมเบเล่ สถิติส่วนตัวของเขาในฤดูกาลนั้นช่างน่าเหลือเชื่อ: ลงสนาม 53 นัด, ทำไป 35 ประตู กับอีก 16 แอสซิสต์ เขาไม่ใช่แค่ส่วนหนึ่งของทีม แต่เขาคือหัวใจในเกมรุก

กุญแจสำคัญคือการ "Reinvent" หรือการปฏิวัติตัวตนในสนามโดยหลุยส์ เอ็นริเก้ จากปีกริมเส้นที่คาดเดายาก เอ็นริเก้ได้มอบอิสระให้เดมเบเลขยับเข้ามาเป็นศูนย์กลางในบทบาทที่ยืดหยุ่น บางครั้งเป็นเพลย์เมคเกอร์ บางครั้งเป็นกองหน้าตัวหลอก (False 9) การตัดสินใจนี้ได้ปลดปล่อยศักยภาพที่แท้จริงของเขาออกมาอย่างเต็มที่ ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่สมบูรณ์แบบที่สามารถทั้งสร้างสรรค์เกมและจบสกอร์ได้อย่างเฉียบคม ผลลัพธ์คือรางวัลส่วนตัวมากมายทั้งดาวซัลโวลีกเอิง, ผู้เล่นยอดเยี่ยมลีกเอิง และที่สำคัญที่สุดคือ ผู้เล่นยอดเยี่ยมของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

ประวัติ อุสมาน เดมเบเล่ ผู้คว้าบัลลง ดอร์ 2025  ไปไม่สุดกับบาร์ซ่า สู่ราชายอดนักเตะ  Credit ภาพ AFP

ยชนะบัลลงดอร์ของเขาเหนือคู่แข่งอย่าง ลามีน ยามาล และ วิตินญ่า จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าประหลาดใจแต่อย่างใด และทำให้เขากลายเป็นนักเตะฝรั่งเศสคนที่ 6 ต่อจากตำนานอย่าง คาริม เบนเซม่า และ ซีเนดีน ซีดาน ที่ได้สัมผัสกับลูกบอลทองคำอันทรงเกียรตินี้

ความมืดมนที่บาร์เซโลน่า : บทเรียนราคาแพง 

ภาพความสำเร็จของเดมเบเล่ตอนนี้ ช่างแตกต่างจากช่วงเวลา 6 ปีของเขาที่ บาร์เซโลน่า อย่างสิ้นเชิง ย้อนเวลากลับไป เดมเบเลย้ายมายังถิ่นคัมป์นูในปี 2017 ด้วยค่าตัวมหาศาลกว่า 105 ล้านยูโร จากดอร์ทมุนด์ พร้อมความคาดหวังที่จะเป็นตัวแทนของเนย์มาร์ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับกลายเป็นฝันร้ายที่ยาวนาน

ชีวิตของเขาในสีเสื้อบาร์ซ่า ถูกรบกวนด้วยปีศาจร้ายที่ชื่อว่า อาการบาดเจ็บ สถิติระบุว่าเขาพลาดการลงสนามไปมากกว่า 100 นัด ตลอดช่วงเวลาที่อยู่กับสโมสร กล้ามเนื้อของเขาดูเปราะบางเกินกว่าจะยืนระยะในเกมระดับสูงสุดได้ ความต่อเนื่องที่นักเตะทุกคนต้องการจึงไม่เคยเกิดขึ้นจริง

ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงแรก ปัญหาด้าน วินัยและทัศนคติความเป็นมืออาชีพ ก็เป็นอีกหนึ่งเงื่อนไขที่ฉุดรั้งเขาไว้ ทั้งการมาซ้อมสาย, พฤติกรรมการกินที่ไม่เหมาะสม และการติดวิดีโอเกม ล้วนเป็นหัวข้อข่าวที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เมื่อรวมกับความกดดันจากค่าตัวมหาศาล ฟอร์มการเล่นในสนามของเขาจึงเต็มไปด้วยความไม่สม่ำเสมอ แม้จะมีบางวันที่เขาแสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์อันน่าทึ่ง แต่ก็มักจะตามมาด้วยช่วงเวลาที่น่าผิดหวังเสมอ

185 นัด 40 ประตู และ 43 แอสซิสต์ อาจไม่ใช่ตัวเลขที่เลวร้าย แต่สำหรับนักเตะที่ถูกซื้อมาเพื่อเป็นอนาคตของสโมสร มันคือความล้มเหลวที่ปฏิเสธไม่ได้
ประวัติ อุสมาน เดมเบเล่ ผู้คว้าบัลลง ดอร์ 2025  ไปไม่สุดกับบาร์ซ่า สู่ราชายอดนักเตะ  Credit ภาาพ AFP

น้ำตาแห่งชัยชนะ-คำขอบคุณถึงผู้เป็นที่รัก 

การย้ายกลับมายังบ้านเกิดที่ฝรั่งเศสในปี 2023 คือจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุด มันไม่ใช่แค่การเปลี่ยนสโมสร แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงทั้งชีวิต เดมเบเล่แสดงให้เห็นถึงวุฒิภาวะที่เติบโตขึ้น การมีครอบครัวที่มั่นคงได้มอบสมาธิและความมุ่งมั่นที่เขาไม่เคยมีมาก่อนในสนาม

และบนเวทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา เดมเบเลก็ได้แสดงให้โลกเห็นถึงเบื้องหลังความสำเร็จนั้น

หลังจากรับรางวัล เขากล่าวสุนทรพจน์ที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก และได้เชิญบุคคลที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขาขึ้นมาบนเวทีด้วย นั่นคือคุณแม่ ฟาติมาตา เดมเบเล่

ห้วงเวลาที่ยากลำบากกับบาร์ซ่า ถ้าไม่มีแม่ ก็ไม่มีเขาบนเวทีนี้ เขากล่าวทั้งน้ำตา "ถึงคุณแม่ ผมอยากขอบคุณ แม่อยู่กับผมเสมอทุกที่ ทุกเวลา... ถึงครอบครัวของเราทุกคน เราผ่านอะไรด้วยกันมามากมาย เราเผชิญมันมาด้วยกัน และเราอยู่เคียงข้างกันเสมอ"

หยดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของเขาในวันนั้น ไม่ใช่เพียงน้ำตาแห่งความสุข แต่มันคือหยาดน้ำที่กลั่นมาจากความเจ็บปวด, ความผิดหวัง, ความทรมาน และความทะเยอทะยานที่เขาแบกรับมาตลอดหลายปี

การชูลูกบอลทองคำ บัลลง ดอร์ ขึ้นเหนือศีรษะของ อุสมาน เดมเบเล่ จึงเป็นมากกว่าแค่การประกาศว่าใครคือนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในโลก แต่มันคือบทพิสูจน์อันทรงพลังว่า แม้จะเคยล้มลงสู่จุดที่มืดมิดที่สุด แต่ด้วยความเชื่อมั่น, การทำงานหนัก และความรักจากครอบครัว คนเราก็สามารถปีนกลับขึ้นมาสู่จุดสูงสุดได้อย่างสง่างามเสมอ

 

ความสำเร็จครั้งนี้ทำให้ อุสมาน เดมเบเล่ วัย 28 ปี กลายเป็นนักเตะฝรั่งเศสคนที่ 6 ที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ต่อจากตำนานอย่าง คาริม เบนเซม่า, ซีเนดีน ซีดาน, ฌอง-ปิแอร์ ปาแป็ง, เรย์มงด์ โกปา และ มิเชล พลาตินี่
🏆ทำเนียบผู้คว้ารางวัล บัลลงดอร์ (ตั้งแต่ปี 2010)
◉ 2010: ลิโอเนล เมสซี่
◉ 2011: ลิโอเนล เมสซี่
◉ 2012: ลิโอเนล เมสซี่
◉ 2013: คริสเตียโน่ โรนัลโด้
◉ 2014: คริสเตียโน่ โรนัลโด้
◉ 2015: ลิโอเนล เมสซี่
◉ 2016: คริสเตียโน่ โรนัลโด้
◉ 2017: คริสเตียโน่ โรนัลโด้
◉ 2018: ลูก้า โมดริช
◉ 2019: ลิโอเนล เมสซี่
◉ 2021: ลิโอเนล เมสซี่
◉ 2022: คาริม เบนเซม่า
◉ 2023: ลิโอเนล เมสซี่
◉ 2024: โรดรี้
◉ 2025: อุสมาน เดมเบเล่
.

related