
SHORT CUT
ทำความรู้จัก คูราเซา: เกาะเล็กๆ เท่า ‘สมุทรสงคราม’ ที่เขียนประวัติศาสตร์ใหม่บนเวทีฟุตบอลโลก เมื่อหัวใจทีมชาติใหญ่กว่าขนาดประเทศ
จากเกาะเล็กๆ เท่า ‘สมุทรสงคราม’ สู่เวทีโลก: ปาฏิหาริย์และศรัทธาของ ‘คูราเซา’ น้องใหม่ฟุตบอลโลก 2026
ในโลกของฟุตบอล เรามักได้ยินเรื่องราวของ "ยักษ์ใหญ่" ที่ไล่ล่าความสำเร็จ แต่บางครั้ง เรื่องราวที่จับใจผู้คนทั่วโลกได้มากที่สุด กลับเป็นเสียงคำรามจาก "คนตัวเล็ก" ที่กล้าฝันใหญ่เกินตัว
และนี่คือเรื่องราวของ คูราเซา (Curaçao) เกาะเล็กๆ กลางทะเลแคริบเบียน ที่เพิ่งจารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ด้วยการคว้าตั๋วไปฟุตบอลโลก 2026 ได้สำเร็จ เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ขนาดของประเทศ ไม่ได้เป็นขีดจำกัดของหัวใจ
หากคุณนึกภาพความเล็กของคูราเซาไม่ออก ให้ลองจินตนาการถึงจังหวัด สมุทรสงคราม จังหวัดที่มีประชากรน้อยที่สุดในประเทศไทย คูราเซามีประชากรราว 150,000 - 156,000 คน ซึ่งน้อยกว่าสมุทรสงครามเสียอีก พื้นที่ของประเทศเล็กกว่าไทยถึง 1,155 เท่า
เมื่อ 3 ปีก่อน แฟนบอลชาวไทยอาจคุ้นหูชื่อนี้ ในฐานะทีมที่เดินทางข้ามโลกมาคว้าแชมป์ 'คิงส์คัพ' ที่ประเทศไทย แต่ในวันนี้ พวกเขาก้าวไปไกลกว่านั้นมาก
ชัยชนะในกลุ่ม B โซนคอนคาเคฟ และการบุกไปเสมอจาเมกา 0-0 ในนัดสุดท้าย ท่ามกลางดราม่าช่วงทดเจ็บนาทีที่ 94 ที่ VAR ริบจุดโทษเจ้าถิ่นคืน ทำให้คูราเซากลายเป็น "ชาติที่มีประชากรน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์" ที่ได้ไปฟุตบอลโลก ทำลายสถิติเดิมของไอซ์แลนด์ (ประชากรราว 400,000 คน) ลงอย่างราบคาบ
ความสำเร็จนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะโชคช่วย แต่เกิดจากการวางยุทธศาสตร์ที่ชาญฉลาด คูราเซา ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของเนเธอร์แลนด์แอนทิลลีส ใช้ประโยชน์จากสถานะพิเศษในการดึงตัวนักเตะเชื้อสายคูราเซาที่กระจัดกระจายอยู่ในยุโรป โดยเฉพาะในเนเธอร์แลนด์ ให้กลับมารับใช้มาตุภูมิ
เราจึงได้เห็นนักเตะอย่าง ทาฮิธ ชอง อดีตเด็กปั้นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, จูนินโญ่ บาคูน่า และพี่ชาย เลอันโดร บาคูน่า สวมเสื้อทีมชาติเดียวกัน
"ตอนนั้นผมอายุ 21 ปี โอกาสในทีมชาติฮอลแลนด์ดูห่างไกล ผมจึงตัดสินใจเลือกคูราเซา" จูนินโญ่ บาคูน่า ย้อนความหลัง "การได้เล่นกับพี่ชาย และทำให้ครอบครัวเห็นเราสวมเสื้อทีมชาติเดียวกัน มันคือความฝันสูงสุด"
ความผูกพันทางสายเลือดยังส่งผ่านไปถึงทีมสตาฟ เคนจิ กอร์เร ปีกตัวเก่งของทีม เล่าด้วยความตื้นตันว่า การได้ไปฟุตบอลโลกโดยมีพ่อของเขา (ดีน กอร์เร) เป็นหนึ่งในทีมโค้ช คือความรู้สึกที่พิเศษที่สุด "แม่และยายของผมเป็นคนคูราเซา ความภูมิใจนี้มันลึกซึ้งถึงข้างในจิตใจ"
เบื้องหลังทีมชุดประวัติศาสตร์นี้ คือชายชราวัย 78 ปี นามว่า ดิ๊ก แอดโวคาท (Dick Advocaat)
กุนซือชาวดัตช์ผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาแล้วทั่วโลก ทั้งคุมทีมชาติเนเธอร์แลนด์, เกาหลีใต้, เบลเยียม ฯลฯ เขาเข้ามารับงานนี้ด้วยเป้าหมายเดียวคือ "สร้างปาฏิหาริย์" แม้จะเริ่มต้นงานช้ากว่ากำหนดเพราะรอให้สมาคมฯ เคลียร์ปัญหางบประมาณและค่าตอบแทนนักเตะให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นมืออาชีพและความใส่ใจลูกทีมของเขา
แม้ในเกมตัดสินกับจาเมกา เขาจะไม่สามารถคุมทีมข้างสนามได้เนื่องจากปัญหาส่วนตัว แต่ "จิตวิญญาณ" และ "แท็กติก" ของเขาถูกฝังอยู่ในทีมเรียบร้อยแล้ว
"ทุกคนรู้ว่าเขาคือตำนาน" บาคูน่า กล่าว "อิทธิพลของเขามหาศาล เขาทำให้เราเชื่อว่าเราทำได้"
หากคูราเซาลงสนามในฟุตบอลโลก 2026 ดิ๊ก แอดโวคาทจะทำลายสถิติเป็นกุนซือที่อายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกทันที
เส้นทางของคูราเซา จากอันดับ 150 ของโลกเมื่อ 10 ปีก่อน สู่อันดับ 82 และตั๋วฟุตบอลโลกใบแรก คือบทพิสูจน์ว่า ในโลกของฟุตบอล—และในโลกแห่งความเป็นจริง—ไม่มีใครเล็กเกินกว่าจะฝัน
นี่ไม่ใช่แค่ชัยชนะของทีมฟุตบอลทีมหนึ่ง แต่เป็นชัยชนะของ "ความหวัง" เป็นสารจากเกาะเล็กๆ ที่ส่งไปบอกคนทั่วโลกว่า หากมีการวางแผนที่ดี มีความสามัคคี และมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่พอ ปาฏิหาริย์ก็สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ
ยินดีต้อนรับสู่ฟุตบอลโลก... คูราเซา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
WARRIX พลิกมิติใหม่ รุกสมรภูมิน้ำแข็งโลก หนุนทัพไอซ์ฮอกกี้ไทยล่าแชมป์ซีเกมส์
เปิดที่มา-ความหมายเกมแห่งศักดิ์ศรี "ดาร์บี้แมตช์" ในฟุตบอล มีจุดเริ่มต้นจากไหน ?