svasdssvasds

มัดรวมดราม่าซีเกมส์ 2025: ยังไม่เริ่มเลย แต่ "ตอ" ผุดแล้ว เทงานพิธีเปิด โปรแกรมล้าสมัย

มัดรวมดราม่าซีเกมส์ 2025: ยังไม่เริ่มเลย แต่ "ตอ" ผุดแล้ว เทงานพิธีเปิด โปรแกรมล้าสมัย

มัดรวมดราม่าซีเกมส์ 2025: ยังไม่เริ่มเลย แต่ "ตอ" ผุดแล้ว - เมื่อ "ระบบภายใน" อาจเป็น ศัตรูตัวพ่อ ของเจ้าภาพไทย

มัดรวมดราม่าซีเกมส์! เทงานพิธีเปิดปิด  ธงผิด-โปรแกรมล้าสมัย   -AD Card  ซีเกมส์ไทย 2025 น้ำยังไม่ลด ตอผุดแล้ว  ยิ่งใกล้วันเริ่ม แผลยิ่งเปิด กลิ่นเหม็นเน่าเริ่มโชย

สำหรับชาติมหาอำนาจทางกีฬาของอาเซียนอย่างประเทศไทย การเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาซีเกมส์ (SEA Games) ครั้งที่ 33 ควรจะเป็นเพียง "ธรรมดาๆ"  หรือภารกิจที่ง่ายดายเพราะมีประสบการณ์การเป็นเจ้าภาพซีเกมส์มาแล้ว ถึง 6 ครั้งในปี 1959 , 1967 , 1975 , 1985 , 1995 , และ 2007  ครั้งนี้ ปี 2025 กำลังจะเป็นครั้งที่ 7 ของประเทศไทย 

ด้วยประสบการณ์และโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ เพียงแค่ต้อนรับเพื่อนบ้าน 11 ชาติ จัดการแข่งขันให้ราบรื่น และโกยเหรียญทองตามเป้าหมาย นั่นคือภาพฝันที่คนไทยและภาครัฐวาดหวังไว้

แต่ในความเป็นจริง เมื่อเข็มนาฬิกาเดินเข้าสู่ธ.ค. 2025 ช่วงเวลาที่ไฟคบเพลิงแห่งความพร้อมจะได้ลุกโชน  ประเทศไทยกลับกำลังเผชิญกับ "พายุแห่งความโกลาหล สับสน" จากการบริหารจัดการที่ล้มเหลว ซ้ำซ้อน และ "ดูเหมือน" จะขาดความเป็นมืออาชีพ จนอาจกล่าวได้ว่า ศัตรูที่น่ากลัวที่สุดของไทยในซีเกมส์ครั้งนี้ ไม่ใช่คู่แข่งจากชาติใด แต่คือ "ระบบภายใน" ของตัวเอง

มัดรวมดราม่าซีเกมส์ 2025: ยังไม่เริ่มเลย แต่ "ตอ" ผุดแล้ว - เมื่อ "ระบบภายใน" อาจเป็น ศัตรูตัวพ่อ ของเจ้าภาพไทย Credit ภาพ AFP

เบื้องหลังพิธีเปิด-ปิด : การ "เทงาน" ระดับชาติ 

ดราม่าที่ร้อนแรงที่สุดในเวลานี้ และสะท้อนภาพความล้มเหลวของการบริหารงานภาครัฐได้อย่างชัดเจน คือกรณีของพิธีเปิด-ปิด การแข่งขัน สิ่งที่ควรจะเป็นหน้าเป็นตาของประเทศกลับกลายเป็นโศกนาฏกรรมของคนทำงาน

"ต้น" เรืองฤทธิ์ สันติสุข นักออกแบบแสงและโชว์ระดับประเทศ อดีต Director พิธีเปิด–ปิด ซีเกมส์ 2025  ออกมาเปิดโปงความจริงที่น่าตกใจผ่านโซเชียลมีเดีย ว่าทีมงานของเขาซึ่งทุ่มเทเตรียมงานมานานกว่า 7 เดือน ถูก "เท" อย่างไร้เยื่อใย เพียงเพราะการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง

จากแผนงานที่เริ่มวางไว้ตั้งแต่ต้นปี การฝ่าฟันข้อจำกัดด้านงบประมาณ และการต้องรื้อแบบใหม่ทั้งหมดเมื่อสถานที่ถูกย้ายจากสนามหลวงมายังราชมังคลากีฬาสถาน ทีมงานยังคงกัดฟันสู้เพื่อหวังสร้างชื่อให้ประเทศ แต่เมื่อ "ลมการเมืองเปลี่ยนทิศ" ในช่วงปลายเดือนกันยายน สัญญาณอันตรายก็เริ่มปรากฏ ทีมงานชุดใหม่ที่มี "ผู้ใหญ่" หนุนหลังเริ่มเข้ามาแทรกแซง จนกระทั่งทีมงานเดิมต้องยุติบทบาทไปโดยไม่ได้รับการแจ้งยกเลิกหรือยืนยันใดๆ อย่างเป็นทางการ

คำถามสำคัญคือ งบประมาณและเวลาที่เสียไปเพื่อ "แลกเปลี่ยนผลประโยชน์" หรือ "จัดสรรเค้กใหม่" นั้น คุ้มค่าหรือไม่กับภาพลักษณ์ของพิธีเปิดที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ท่ามกลางสายตาจับจ้องด้วยความกังวลของคนทั้งชาติ
มัดรวมดราม่าซีเกมส์ 2025: ยังไม่เริ่มเลย แต่ \"ตอ\" ผุดแล้ว เทงานพิธีเปิด โปรแกรมล้าสมัย

เปลี่ยน มาสคอต  ที่ดูอิง ชาตินิยม

ช่วงต้นเดือนตุลาคม มีอีกหนึ่งดราม่า , การกีฬาแห่งประเทศไทยดำเนินการ ปรับโฉมมาสคอต ‘เดอะสาน’ รูปแบบใหม่ จาก 7 สี เป็น 2 ตัว และใช้สี ‘ธงชาติ’ การเปลี่ยนแปลงนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า ดูไม่ทันสมัย และเป็นการเกาะกระแส ‘ชาตินิยม’

มัดรวมดราม่าซีเกมส์ 2025: ยังไม่เริ่มเลย แต่ \"ตอ\" ผุดแล้ว เทงานพิธีเปิด โปรแกรมล้าสมัย

ความล้มเหลวเชิงปฏิบัติการ: เมื่อ "ความประทับใจแรก" คือ "ความหงุดหงิด"

หากพิธีเปิดคือหน้าตา ระบบจัดการพื้นฐานก็คือกระดูกสันหลัง และดูเหมือนว่ากระดูกสันหลังของซีเกมส์ครั้งนี้จะเปราะบางอย่างยิ่ง

ในยุคดิจิทัลแบบนี้ ที่ใครๆ ก็ดีไซส์ได้ ผ่าน Canva ,  ฝ่ายจัดการแข่งขันกลับนำเสนอ "ตารางการแข่งขัน" ในรูปแบบที่ล้าสมัย (ในความคิดของใครหลายคน)  

แทนที่จะเป็นระบบ Real-time บนเว็บไซต์ที่ได้มาตรฐาน ซ้ำร้ายไปกว่านั้น คือความผิดพลาดในระดับที่ไม่น่าให้อภัยบนกราฟิกถ่ายทอดสด ที่มีการสลับธงชาติและชื่อประเทศ (ไทย-เวียดนาม, อินโดนีเซีย-ลาว) ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนทางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ที่หนักหนาสาหัสที่สุดคือเรื่อง "AD CARD" หรือบัตรประจำตัวสื่อมวลชน ซึ่งตามมาตรฐานสากลควรจะถูกส่งไปยังประเทศต่างๆ ล่วงหน้าเป็นเดือน เพื่อความสะดวกในการเดินทางและเข้าพื้นที่ แต่ประเทศไทยกลับทำเสร็จก่อนวันเริ่มแข่งฟุตบอลเพียง 1 วัน ส่งผลให้นักข่าวต่างชาติที่เดินทางมาถึงต้องเคว้งคว้าง ไร้บัตร ไร้การติดต่อ สร้าง "First Impression" ที่เลวร้ายที่สุด และเปิดช่องให้สื่อต่างชาติพร้อมที่จะ "ขยี้" ข่าวความไม่พร้อมนี้ไปทั่วโลก

มัดรวมดราม่าซีเกมส์ 2025: ยังไม่เริ่มเลย แต่ "ตอ" ผุดแล้ว - เมื่อ "ระบบภายใน" อาจเป็น ศัตรูตัวพ่อ ของเจ้าภาพไทย

นักกีฬา(บางส่วน)กับชะตากรรมที่ถูกทอดทิ้ง

ภายใต้ความวุ่นวายของการจัดงาน ผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงที่สุดคือนักกีฬา "อริศรา นุ่นเอียด" นักมวยไทยทีมชาติ และพรีเซ็นเตอร์ของการแข่งขัน ต้องออกมาโพสต์ทวงถามถึง "เบี้ยเลี้ยง" ที่ยังมาไม่ถึงมือ ทั้งที่การแข่งขันจ่อคอหอย

นี่ไม่ใช่กรณีแรก แต่เป็นยอดภูเขาน้ำแข็งของปัญหาเรื้อรังในวงการกีฬาไทย ไล่เลียงตั้งแต่ "หมิว พรปวีณ์" นักแบดมินตันมือต้นๆของทีมชาติ ที่ถอนตัวเพราะถูกหักเบี้ยเลี้ยงอย่างไม่เป็นธรรม ก่อนที่สุดท้าย ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี จะช่วยเจรจาหาทางออก จนเธอกลับมาร่วมซีเกมส์อีกครั้ง , ดราม่านักตะกร้อทีมชาติถูกหักหัวคิวเงินอัดฉีดนับสิบล้านบาท, ไปจนถึง "ณี สุธิยา  จิวเฉลิมมิตร " นักแม่นปืนเป้าบินระดับโลกที่ประกาศยุติบทบาทเพราะทนไม่ไหวกับการบริหารงานที่เอื้อพวกพ้องของสมาคม

เมื่อนักกีฬาที่เป็นดั่ง "นักรบ" ของชาติ ต้องออกมารบกับเรื่องปากท้องและความไม่โปร่งใสก่อนจะได้ลงสนามจริง กำลังใจที่จะไปคว้าเหรียญทองย่อมถดถอยลงอย่างน่าใจหาย

ราคาที่ต้องจ่ายจากดราม่าซีเกมส์ ทั้งหมด

แม้รัฐบาลจะวาดฝันถึงเม็ดเงินสะพัดกว่า 15,000 ล้านบาทจากการจัดการแข่งขัน แต่ความเสียหายทาง "ชื่อเสียง" และ "ความเชื่อมั่น" ที่เกิดขึ้นจากความโกลาหลครั้งนี้ อาจมีมูลค่าสูงกว่านั้นมหาศาล

ปัญหาทั้งหมดไม่ได้เกิดขึ้นเพราะประเทศไทยขาดแคลนบุคลากรที่มีความสามารถ แต่เกิดจากปัญหาเชิงโครงสร้าง "ระบบอุปถัมภ์" การแทรกแซงทางการเมือง และระบบราชการที่ล่าช้า ซึ่งกัดกินประสิทธิภาพในการทำงาน

ซีเกมส์ 2025 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ กำลังจะเป็นบทเรียนราคาแพง  - หากยังไม่เร่งปฏิรูปการบริหารจัดการ "ดราม่า" เหล่านี้จะไม่ใช่แค่เรื่องขายหน้าชั่วคราว แต่จะเป็นอีกหนึ่งแผลตราบาป ที่ย้ำว่า เรายังไม่พร้อมจะเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอย่างแท้จริง

การแข่งขันกำลังจะเริ่มขึ้น แต่สำหรับฝ่ายจัดการแข่งขัน... พวกเขาอาจจะแพ้ตั้งแต่อยู่ในมุ้งบ้านตัวเองแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related