สถิติการตัดไม้ในป่าแอมะซอนของบราซิลแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
เกือบ 2 เท่าของจุดสูงสุดในเดือนเดียวกันปีที่แล้ว สำหรับป่าแอมะซอนในบราซิลที่ยังคงทุบสถิติการตัดไม้ทำลายป่ามากที่สุด และเดือนเมษายนก็แตะยอดสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ป่าแอมะซอนผืนใหญ่ที่เป็นปอดของโลกกำลังหายไปเรื่อยๆ จากเดิมลดลงไปทุก2-3 ปีแต่ตอนนนี้ลดลงไปทุกๆ1-2 เดือนเท่านั้น การลดลงของจำนวนป่าไม้ดังกล่าว สร้างความขุ่นเคืองใจให้กับชาวเมือง โดยเฉพาะนักอนุรักษ์ที่เฝ้าสังเกตการณ์มานานว่า ประธานาธิบดีคนปัจจุบันแทบจะไม่สนโลกอะไรแล้ว
การตัดไม้ทำลายป่าในแอมะซอนของบราซิลพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในเดือนเมษายน ทำให้พื้นที่ป่าหายวับไปเกือบ 2 เท่าในเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งสถิติเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาสูงมากที่สุด ข้อมูลที่เผยแพร่นี้เป็นข้อมูลเบื้องต้นของรัฐบาลที่เผยแพร่ออกมาเมื่อวันศุกร์ สร้างความตื่นตระหนกให้กับนักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม จนแทบนั่งไม่ติดกันแล้ว
ใน 29 วันของเดือนเมษายน การตัดไม้ในภูมิภาคนี้รวมได้ทั้งสิ้น 1,012.5 ตารางกิโลเมตร ตามข้อมูลจากหน่วยงานวิจัยอวกาศแห่งชาติ Inpe หน่วยงานที่ทำหน้าที่รวบรวมชุดข้อมูล DETER-B รายเดือนตั้งแต่ปี 2015/2016 ซึ่งจะรายงานผลอย่างเป็นทางการสำหรับสถิติทั้งหมดของเดือนเมษายนในสัปดาห์หน้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-
ป่าแอมะซอนเดินทางถึงจุดเปลี่ยน จากป่าฝนผืนใหญ่สู่ทุ่งสะวันนาแห้งแล้ง
-
ป่าแอมะซอนทุบสถิติ สูญเสียพื้นที่ป่ามากกว่า 7 เท่าของแมนฮัตตัน
-
บราซิลสูญเสียพื้นที่ป่าอเมซอนเทียบเท่ารัฐเท็กซัสและนิวเม็กซิโกรวมกัน
-
NFTs เพื่อป่าแอมะซอน บริษัทในบราซิลผุดไอเดียขาย NFTs ระดมทุนฟื้นฟูแอมะซอน
เช่นเดียวกัน ผู้ที่ติดตามเรื่องป่าในบราซิลจะรู้ดีว่า การตัดไม้ทำลายป่าของแอมะซอนเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ประธานาธิบดี Jair Bolsonaro รัฐบาลฝ่ายขวาเข้ารับตำแหน่งในปี 2019 ตั้งแต่นั้นมา การคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของประเทศก็อ่อนแอลง โดยเฉพาะพื้นที่ในป่าแอมะซอน โซนาโร ให้เหตุผลว่า สิ่งสำคัญที่มากกว่าการตัดไม้ คือการทำฟาร์มและการขุดในแอมะซอนจะช่วยลดความยากจนในภูมิภาคนี้ ซึ่งนั่นเป็นการให้เหตุผลที่ไม่มีใครพึงพอใจเลย
หรือกล่าวง่ายๆก็คือ ประธานาธิบดีคนนี้ได้วางแผนที่จะขยายพื้นที่การทำการเกษตรเข้าไปในป่าแอมะซอนและขุดแร่ดินต่างๆมาเป็นกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับภูมิภาคนี้ เพื่อลดความยากจนของประชาชน แต่ไม่ได้คำนึงถึงความมั่นคงด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นเลย แม้ว่าป่าแอมะซอนจะถูกตั้งสถานะว่ามีความเสี่ยงต่อการสูญเสียมากขึ้นก็ตามที
“รายงานบันทึกนี้ได้กล่าวถึงชื่อและนามสกุลของ Jair Messias Bolsonaro ไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้รู้ว่าเรากำลังพูดถึงเขาอยู่” Marcio Astrini หัวหน้ากลุ่ม Climate Observatory ของบราซิลกล่าวในแถลงการณ์
นอกจากนี้ สำนักงานของ Bolsonaro ได้ตั้งคำถามกับกระทรวงสิ่งแวดล้อมและความยุติธรรมจากกระทรวงต่างๆที่กลาวในแถลงการณ์ร่วมว่า รัฐบาลกำลังพยายามอย่างมากในการต่อสู้กับอาชญากรรมด้านสิ่งแวดล้อม ตำรวจ และหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมกำลังร่วมมือกันในการดำเนินการเพื่อต่อสู้กับการตัดไม้ทำลายป่าในรัฐแอมะซอน 5 รัฐ
แม้ว่าจะมีการตัดไม้เพิ่มขึ้นแล้ว Climate Observatory กล่าวว่า นักวิเคราะห์รู้สึกประหลาดใจกับการอ่านค่าที่สูงขึ้นในเดือนเมษายน สิ่งที่พวกเขาสงสัยคือทำไมสถิติยังคงสูงขึ้นแม้ว่านี่จะเป็นฤดูฝนที่พื้นที่ป่าอาจเต็มไปด้วยโคลน ทำให้ยากต่อการเข้าไปตัดไม้
เรื่องราวนี้สวนทางกับการประชุม COP26 เมื่อปลายปีที่ผ่านมาของผู้นำโลกที่กล่าวว่าจะช่วยกันหยุดยั้งวิกฤตด้านสภาพภูมิอากาศ ในส่วนงานของบราซิล การอนุรักษ์ป่าแอมะซอนมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการหยุดการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่เลวร้าย เนื่องจากมีคาร์บอนไดออกไซด์ที่ทำให้โลกร้อนในปริมาณมหาศาลที่ป่าต้องทำหน้าที่ในการดูดซับมันเข้าไป ยิ่งมีพื้นที่ป่าเท่าไหร่ มลพิษบนโลกก็จะน้อยลงเท่านั้น
Ane Alencar ผู้อำนวยการด้านวิทยาศาสตร์ของสถาบันวิจัยสิ่งแวดล้อมอเมซอน (IPAM) เผยว่า เธอคาดการว่าการตัดไม้จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีใหม่ในเดือนตุลาคมนี้ เช่นเดียวกับการเลือกตั้ง 3 ปีที่ผ่านมาของบราซิล เนื่องจากเจ้าหน้าที่มักจะระมัดระวังไม่ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่พอใจและนำไปบังคับใช้ทางกฎหมาย ถึงกระนั้น เธอเรียกสถิติการตัดไม้ที่เพิ่มสูงขึ้นในเดือนที่แล้วว่า “ไร้สาระ”
ไร้สาระในที่นี้คือ แทบจะถอดใจแล้วกับการเปลี่ยนแปลงที่แย่ลงตลอดเวลาและตลอดปีของป่าไม้ในบราซิล จนหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆแทบจะทำอะไรไม่ได้เลย มันจึงไร้สาระเสียแล้วที่เราจะทำสำเร็จได้
ที่มาข้อมูล
https://rainforests.mongabay.com/amazon/deforestation-rate.html
https://news.mongabay.com/2015/05/whats-the-current-deforestation-rate-in-the-amazon-rainforest/
