พรรคพลังประชารัฐ คึกคัก อดีต ส.ส.และอดีตรัฐมนตรียังตบเท้าเข้าสมัครสมาชิกต่อเนื่อง ขณะที่"สุชาติ ตันเจริญ" ขนทีมบ้านริมน้ำ พร้อมสนับสนุน ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ
บรรยากาศการเปิดรับสมัครสมาชิกของพรรคพลังประชารัฐ ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนครบกำหนด ส.ส.ต้องสังกัดพรรค 90 วัน หรือ ภายในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 เป็นไปอย่างคึกคักตลอด ทั้งไฮไลท์สำคัญ คือนายสุชาติ ตันเจริญ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร อดีต ส.ส. จังหวัดฉะเชิงเทรา 8 สมัย และแกนนำกลุ่มบ้านริมน้ำ พานายศักดิ์ชาย ตันเจริญ รองประธานสภาจังหวัดฉะเชิงเทรา บุตรชาย และอดีต ส.ส.และนักการเมืองท้องถิ่น กว่า 30 คน เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ
โดยนายสุชาติ ให้เหตุผลที่เข้าร่วมพรรคนี้ เพราะต้องการยึดอำนาจ คืนจากเผด็จการและกลับสู่ประชาธิปไตย จึงต้องร่วมกันทำพรรคการเมืองเพื่อให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นโดยเร็ว พร้อมยืนยันว่าการเข้ามาร่วมพรรคพลังประชารัฐไม่มีการต่อรองเรื่องผลประโยชน์ เพราะส่วนตัวไม่ได้ถูกดำเนินคดี และทราบว่า นายวราเทพ รัตนากร อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐด้วย ซึ่งส่วนตัวได้พูดคุยกับ นายวราเทพ แล้ว แต่ไม่ได้เป็นผู้ติดต่อให้มาร่วมพรรค
โดยนายสุชาติ ให้เหตุผลที่เข้าร่วมพรรคนี้ เพราะต้องการยึดอำนาจ คืนจากเผด็จการและกลับสู่ประชาธิปไตย จึงต้องร่วมกันทำพรรคการเมืองเพื่อให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นโดยเร็ว พร้อมยืนยันว่าการเข้ามาร่วมพรรคพลังประชารัฐไม่มีการต่อรองเรื่องผลประโยชน์ เพราะส่วนตัวไม่ได้ถูกดำเนินคดี และทราบว่า นายวราเทพ รัตนากร อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐด้วย ซึ่งส่วนตัวได้พูดคุยกับ นายวราเทพ แล้ว แต่ไม่ได้เป็นผู้ติดต่อให้มาร่วมพรรค
ทั้งนี้ ส.ส. กลุ่ม 16 นอกจาก นายวราเทพ ก็ยังนึกไม่ออกว่าจะมีบุคคลใดมาร่วมพรรคพลังประชารัฐอีกหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้มีมาร่วมแล้วหลายคนแล้ว ส่วนนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรทีมฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด คงไม่มา แต่จะมีโอกาสที่พรรคภูมิใจไทยจะรวมกับพรรคพลังประชารัฐในอนาคตหรือไม่ นายสุชาติมองว่า เป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว สามารถพูดคุยกันได้ เมื่อถามว่าแล้ว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเพื่อนด้วยหรือไม่ นายสุชาติ ตอบว่า นายทักษิณ ชินวัตร เป็นพ่อ นายพานทองแท้ ชินวัตร นายสุชาติ ยังกล่าวถึงบุคคล ที่เหมาะสมจะถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีของพรรค ว่า จะเป็นทหารหรือพลเรือนก็เป็นอำนาจของคณะกรรมการบริหารพรรค แต่หากเป็นทหารหรือพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ ส่วนจะเป็นพรรคที่มีเสียงอันดับ 1 จนได้ตั้งรัฐบาลหรือไม่นั้น เห็นว่าทุกพรรคก็มีความมั่นใจ แต่สุดท้ายขึ้นอยู่กับประชาชน