พ่อค้าหนุ่มทนไม่ได้วันเลือกตั้งไม่ชัด ประกาศอดข้าวประท้วงกลางอนุสาวรีย์ชัยฯ [คลิป]

นายเอกราช อุดมอำนวย พ่อค้าหนุ่ม วัย 35 ปี เข้ามายืนชูป้าย และทำป้ายติดที่หัว โดยมีข้อความที่โจมตีการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. บริเวณเกาะกลาง ฝั่งหพลโยธิน มุ่งหน้าสะพานควาย ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และเป็นการเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์เพียงคนเดียวลำพัง

ซึ่งก่อนหน้านี้นายเอกราช เคยไปร่วมโกนหัวประท้วงการทำงานของรัฐบาลที่แยกราชประสงค์มาแล้ว เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา ส่วนการมายืนประท้วงที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิในวันนี้ ก็เพื่อจี้ให้ทางกกต.ได้ออกมาชี้แจงวันเลือกตั้งที่ชัดเจนต่อประชาชน และเพื่อให้รัฐบาลได้เร่งรัดให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นได้จริงๆ ไม่ใช่เลื่อนการเลือกตั้งไปเรื่อยๆ เพื่อสืบทอดอำนาจคสช.อย่างไม่มีกำหนด และยังได้พูดถึงประเด็นการซื้อรถประจำตำแหน่งคันใหม่ให้ กกต. ซึ่งเป็นสิ่งที่สิ้นเปลืองและไม่เกิดประโยชน์ เพราะที่ผ่านมากกต.ทำงานบกพร่อง ไม่สมควรจะได้รับอะไรทั้งสิ้น จนกว่าจะปรับปรุงการทำงานใหม่ให้เป็นที่ยอมรับของประชาชน

นายเอกราช เปิดเผยว่า จะอดข้าว อดน้ำ แล้วจะใช้ชีวิตอยู่ที่เกาะกลางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิอย่างนี้ไปเรื่อยๆ และจะยืนชูป้ายประท้วงตลอดเวลาเพื่อให้คนที่สัญจรไปมาได้เห็นถึงจุดยืนของตัวเอง และจะเคลื่อนไหวแบบนี้ต่อไปจนกว่าทางกกต.และรัฐบาลจะออกมาระบุวันเลือกตั้งที่ชัดเจนต่อประชาชน เบื้องต้นจะยืนอดข้าวอดน้ำเพียงลำพังก่อน แต่เชื่อว่าอีกไม่นานจะมีคนที่มีอุดมการณ์เดียวกันเข้ามาร่วมเคลื่อนไหวด้วยกัน ซึ่งตนเองก็ยืนดี หากมีคนที่เข้ามาประท้วงด้วยกันเพิ่มมากขึ้น ก็จะเตรียมเคลื่อนที่ไปประท้วงตามจุดยุทธศาสตร์เชิงสัญลักษณ์ต่างๆทั่วกรุงเทพ เช่น สำนักงานกกต. หรือทำเนียบรัฐบาล

ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.พญาไท ก็ได้ทราบว่า การเคลื่อนไหวในครั้งนี้นายเอกราชได้ทำการขออนุญาตถูกต้องแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ตำรวจก็จะเข้ามาสังเกตุการณ์การเคลื่อนไหวของนายเอกราชไปตลอดทั้งวัน เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย

ส่วนนายเอกราชวันนี้ ได้เอกสารที่ตนเองร่างคำฟ้องเอาไว้ ถ้าหากใครเข้ามากลั่นแกล้งและไม่ห้ามไม่ให้เคลื่อนไหวก็ใส่ชื่อแล้วนำไปฟ้องร้องต่อศาล เพราะถือว่าขออนุญาตอย่างถูกต้องแล้ว นายเอกราชยืนยันว่าการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ไม่ได้ต้องการสร้างความวุ่นวาย แต่เป็นการขอร้องให้มีการเลือกตั้ง เพราะคนไทยกำลังลำบาก กับการปกครองของรัฐบาลทหาร ถ้ามีการเลือกตั้งจนได้รัฐบาลใหม่เข้ามา คนไทยอาจจะลืมตาอ้าปากได้มากกว่าที่เป็นอยู่