เลือกตั้ง 62 : พปชร. ชู 3 นโยบาย ชูเพิ่มความรวยให้ประเทศ ไม่นิรโทษกรรมคนผิด ลดความเหลื่อมล้ำ

แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ร่วมแถลงนโยบายก่อนถึงวันเลือกตั้ง พร้อมแสดงจุดยืนไม่เน้นวาทกรรม แต่จะทำให้เกิดขึ้นจริง พร้อมขอโอกาสเข้าไปทำงาน เพื่อทำให้เกิดความรวย ความสงบ ก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่แบ่งสี ไม่แบ่งฝ่าย และไม่เป็นคู่ขัดแย้งใคร หลอมรวมทุกฝ่าย

เริ่มจากนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค กล่าวว่าถีงนโยบายเพิ่มความสงบ พรรคจะลดข้อจำกัดและเงื่อนไข จะนำความปรองดองเข้ามาใช้ ลดความขัดแย้ง เคารพกติกาทั้งกกต.และรัฐธรรมนูญ เพราะกติกาคือพื้นฐานแรกของความสงบ ทุกฝ่ายต้องเคารพกติกา เมื่อเข้าสู่การเลือกตั้ง และพรรคมีจุดยืนที่จะไม่นำประชาชนไปสู่ความขัดแย้ง ประเทศบอบช้ำมานาน หยุดสร้างความขัดแย้ง อย่านำประเทศไปสู่วาทกรรมของการขัดแย้ง ต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชน และที่สำคัญ คือ จะไม่นิรโทษกรรมคนผิด

นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค กล่าวถึงนโยบายสร้างความสุข ที่ต้องแก้คือความเหลื่อมล้ำ ถ้าประชาชนจะรวย ต้องให้ความเท่าเทียมกัน ความสงบเกิด โดยจะใช้นโยบายบัตรประชารัฐ เพิ่มคนเพิ่มสิทธิ เช่น ผู้สูงวัย คนพิการ เป็นคำตอบของการลดความเหลื่อมล้ำ  นโยบายพักหนี้กองทุนหมู่บ้าน 3 ปีและนโยบายมารดาประชารัฐ เพราะเด็กเป็นสมบัติของแผ่นดิน ดูแลเด็กตั้งแต่ในครรภ์ การศึกษา จนถึงช่วงสูงวัย

ด้านนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค กล่าวถึงนโยบายเพิ่มความหวัง สร้างความสามารถและโอกาสที่เท่าเทียม การมองอนาคตจะต้องมีความหวัง สดใส คือ เรื่องรายได้ ทั้งเกษตรกรรม เช่น ข้าวหอมมะลิ 18,000 บาทต่อตัน ยางพารา 65 บาทขึ้นไปต่อกิโลกรัม เป็นต้น ขณะเดียวกันจะผลักดันค่าแรงงานขั้นต่ำ 400-425 บาทต่อวัน อาชีวะศึกษา 18,000 บาทต่อเดือน และปริญญาตรี 20,000 ต่อเดือน ส่วนพนักงานเงินเดือนจะได้รับการลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 10% ในทุกขั้นบันได หมายความว่าคนที่มีรายได้ต่ำกว่า 2,000,000 บาทต่อปี ไม่ต้องเสียภาษี นอกจากนั้นเราจะยกเว้นภาษีเด็กจบใหม่ 5 ปี ยกเว้นภาษีค้าขายออนไลน์ 2 ปี ส่วนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ล้มแล้วต้องลุกได้ ต้องได้รับการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ยกระดับขีดความสามารถร้านค้าโชว์ห่วยใช้ดิจิทัลรวมกลุ่มผู้ค้าให้มีอำนาจต่อรองกับผู้ผลิต พร้อมรับสินเชื่อ 1 ล้านบาทต่อโชว์ห่วยเพื่อปรับตัว

ขณะที่ในภาพรวม จะสร้างเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน เพิ่มรายได้ประเทศเป็น 19 ล้านล้านบาท ภายในปี 2565 ด้วยการ ปฏิรูปเศรษฐกิจดิจิทัล ขับเคลื่อนภาคการเกษตรฐานรากที่ยั่งยืน สร้างการลงทุนเพื่อเกิดการสร้างงานครั้งใหญ่เพิ่มรายได้เป็น 2 ล้านล้านบาท ตั้งเป้ารายได้ท่องเที่ยว 4.5 ล้านล้านบาท และสร้งารายได้เศรษฐกิจฐากราก 2 ล้านล้านบาท