นายกฯ วอนสังคมอย่ามอง คสช.สืบทอดอำนาจ ยังไม่เกี่ยวจัดตั้งรัฐบาล แต่อยากขอกระทรวงความมั่นคงไว้กับพรรคหลัก

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับประทานอาหารกลางวันร่วมกับสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล พร้อมเปิดใจการทำงานตลอด 5 ปีที่ผ่านมา โดยพอใจที่งานหลายเรื่องมีความคืบหน้า และอยากทำต่อให้สำเร็จ ส่วนจะได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีต่อหรือไม่ ให้เป็นไปตามกระบวนการของรัฐสภา ที่จะต้องโหวตให้ความเห็นชอบนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ส.ว. 250 คน ที่สรรหามา ไม่สามารถคุมได้ จึงไม่รู้ว่า ตอนโหวตเลือกนายกฯ จะเสียงแตกหรือไม่ พร้อมขอสังคมให้เวลา ส.ว. ได้ทำหน้าที่พิสูจน์ตัวเองก่อน

ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ ยืนยันว่า ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะเป็นกลไลทางการเมือง และปฏิเสธว่า ไม่ได้พูดคุยกับแกนนำพรรคพลังประชารัฐ พร้อมขออย่าคิดเรื่องเก้าอี้ หรือการต่อรองตำแหน่ง แต่เป็นการพูดคุยและให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม ยอมรับว่ากระทรวงสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง เช่น กระทรวงกลาโหม และกระทรวงมหาดไทย ควรเป็นของพรรคหลัก ส่วนตัวยังไม่ได้พูดคุยกับ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าจะเข้ามาช่วยงานรัฐบาลหน้าหรือไม่ และต้องขึ้นอยู่กับว่า พลเอกประวิตร จะตัดสินใจอย่างไร เพราะอาจมีปัญหาสุขภาพเข้ามาเกี่ยวข้อง ขณะที่ในส่วนของทีมเศรษฐกิจ เห็นว่าทีมของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ก็ยังมีความเหมาะสม และเห็นด้วยหากเอาทีมเศรษฐกิจของพรรคร่วมที่มีศักยภาพมาเสริมทัพ

ส่วนกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ประกาศใช้เสียงอันดับ 3 เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และเสนอตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ ระบุว่า เป็นเรื่องของนายธนาธร ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ แต่มองว่าพรรคที่มีคะแนนเป็นลำดับที่ 3 ก็น่าจะเป็นฝ่ายค้านอยู่แล้ว ยืนยันว่า ไม่ได้รังเกียจใคร แต่ขออย่าทำผิดกฎหมายก็พอแล้ว

พลเอกประยุทธ์ ยังขอสังคมอย่ามองว่า คสช. จะสืบทอดอำนาจ เพราะที่ทำไม่ต้องการผลประโยชน์หรือชื่อเสียง และหากไม่มีมาตรา 44 แล้ว การทำงานก็ต้องยึดรัฐธรรมนูญ และกฎหมายเป็นหลัก ส่วนสถานภาพของรัฐบาลชุดต่อไปที่จะเป็นรัฐบาลผสม ก็เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และแม้ว่า รัฐบาลใหม่จะถูกมองว่าเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ก็ต้องขยันมาลงมติ เช็ชื่ือเข้าสภาทุกครั้ง ในการลงมติที่สำคัญ ส่วนเรื่องการลาหากใช้สิทธิตามสัดส่วนที่ไม่ขัดกับระเบียบก็สามารถทำได้

พลเอกประยุทธ์ ยังระบุด้วยว่า ยังไม่รู้ว่าจะได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหรือไม่ หากไม่ได้เป็น ก็คงกลับไปพักผ่อนอยู่ที่บ้าน และย้ำว่า ครอบครัวคือกำลังใจสำคัญให้สามารถทำงานต่อได้ และไม่เคยมายุ่งเกี่ยว เพียงแต่คอยให้กำลังใจเท่านั้น

ส่วนเพลงที่แต่งออกมา 10 เพลง ตลอดระยะเวลา 5 ปี ก็เพื่อต้องการเตือนสติสังคม ให้รักประเทศชาติ แต่ยอมรับว่า เป็นเรื่องยาก เพราะส่วนตัวเขียนแค่คำร้อง ซึ่งยังต้องผ่านกระบวนการเรียบเรียงและใส่ทำนอง ซึ่งหากมีโอกาสก็อยากทำต่อไป