"บิ๊กป้อม" ลุยมอบโฉนด จ.ลพบุรี ชาวบ้านแฉเองได้แล้วถูกยึดคืน

กรณีนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงเรื่องการสร้างภาพโครงการมอบโฉนดที่ดินคืนให้ชาวบ้าน และทำเป็นว่ามีการจับกุมเจ้าหนี้เงินกู้รายใหญ่ เพื่อให้รอง นายกรัฐมนตรี เป็นผู้มอบโฉนดที่ดิน ซึ่งถือว่าเป็นการแหกตาชาวบ้านนั้น

ล่าสุด ! โครงการดังกล่าวยังเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวานนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานพิธีมอบคืนโฉนดและทรัพย์สินให้ประชาชน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของสังคมครั้งที่ 12 ที่ หอประชุมพระนารายณ์ อาคารรัตนเทพสตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี จังหวัดลพบุรี โดยมี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมรองผบ.ตร. อีกหลายนายไปร่วมด้วย โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักมีผู้ร่วมงานกว่า 1,800 คน เต็มห้องประชุม ขณะที่ประชาชน 9 จังหวัดภาคกลาง กว่า 567 ราย ที่รอรับมอบโฉนดที่ดิน บางคนเข้าโผกอด พล.อ.ประวิตร โดย พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวย้ำว่า หากรับโฉนดคืนแล้วอย่านำไปไว้กับนายทุนอีก สร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้ร่วมงานเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่พล.อ. ประวิตร เดินเข้าห้องประชุม มีชาวบ้านกว่า 30 ราย จาก จ.นครราชสีมา ชัยภูมิ ขอนแก่น และเลย มาร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม โดยให้ตรวจสอบความโปร่งใสของโครงการดังกล่าว หลังกลุ่มผู้ร้องเรียนซึ่งส่วนใหญ่ได้รับผล กระทบจากการคืนโฉนด โดยบางรายระบุว่า ภายหลังรับโฉนดคืนแล้ว ขณะตำรวจนำไปส่งจังหวัดบ้านเกิดได้มีการริบโฉนดคืนกลับไปโดยไม่แจ้งสาเหตุ ขณะที่บางรายระบุว่า ตรวจสอบมีชื่อว่าได้รับโฉนดคืนแต่ไม่รู้พอมารู้พบว่ามีคนสมอ้างไปรับแทนแล้ว และบางรายพบว่ามีการนำโฉนดจากนายทุนมาส่งมอบคืนโดยมีคนของนายทุนมารับโฉนดคืนเอง ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าพื้นที่ที่พบปัญหาจะเป็นพิธีส่งมอบคืนโฉนดพื้นที่ทำคู่ขนานกับในวันเดียวกัน ไม่ใช่พื้นที่ที่ พล.อ.ประวิตร เป็นประธานส่งมอบ จึงสั่งการให้ ชุดทำงาน ศปอส.ตร. โดย พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง รอง ผบช.ภ.4 รับเรื่องไปตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป

วันเดียวกัน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันมากในสังคมไทยว่าเป็นการสร้างภาพแหกตาประชาชน ซึ่งหากกรณีที่ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรัฐมนตรี ออกมาเปิดเผยเป็นจริง ก็ถือว่าเป็นความเลวร้ายที่สุดของระบบราชการไทย และการเมืองไทย ดังนั้นสังคมไทยไม่ควรให้เรื่องเงียบหายไป สมาคมฯจึงจะนำความไปร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ศูนย์ราชการ วันที่ 28 มิ.ย.นี้ เพื่อให้ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ 2560 ตรวจสอบข้อเท็จจริง และหากพบว่ามีมูล จะเสนอเอาผิดข้าราชการและนักการเมืองที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อ ป.ป.ช. ต่อไป