ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th
จากกรณีที่เกิดประเด็นดราม่าขณะ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข (สธ.) ลงพื้นที่แจกหน้ากากอนามัย บริเวณบีทีเอสสยาม แต่ชาวต่างชาติไม่รับหน้ากากอนามัยที่แจกให้ป้องกันเชื้อไวรัสโคโรน่า ทำให้ นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ว่า “ประชาชนทั่วไป ถ้ามีการแจกก็ควรจะรับ ไอ้ฝรั่งอีก ไอ้พวกฝรั่งนักท่องเที่ยว ต้องบอกไปยังสถานทูต บอกประชาชนทั่วไปด้วย ไม่ยอมใส่ แจกแล้วไม่ยอมใส่ แจกแล้วไม่ยอมรับ แบบนี้ต้องไล่ออกจากประเทศไทย”
ล่าสุด นายอนุทิน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมระบุว่า เราพยายามทำงานกันเต็มที่ และสุดความสามารถ ณ ขณะนี้ เราสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดีกว่าหลายๆ ประเทศ เพราะ เราตื่นตัวก่อน และ ทำงานจริงจังตั้งแต่เริ่มต้น
การที่เราควบคุมสถานการณ์ได้เป็นที่น่าพอใจ และได้รับคำชื่นชมจากผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก เพราะคนไทยมีความตื่นตัว ให้ความร่วมมือ และเรียนรู้ที่จะป้องกันตัวเอง รวมทั้งให้ความร่วมมือที่จะหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ตามที่กระทรวงสาธารณสุข ให้คำแนะนำ เป็นอย่างดี
ประเด็นสำคัญที่ต้องขอบคุณเป็นพิเศษ คือ สื่อมวลชน ที่นำเสนอข่าวด้วยดุลพินิจที่ดี ทำให้ประชาชนที่ติดตามข้อมูลข่าวสาร มีความเข้าใจสถานการณ์ที่เป็นจริง ด้วยความถูกต้อง รวมทั้งประชาชนส่วนใหญ่ที่ช่วยกันหยุดการแพร่กระจายข่าวปลอม หรือ เฟกนิวส์ ที่ทำให้สถานการณ์สับสน และแย่กว่าความเป็นจริง
แม้เราจะทำได้ดีในช่วงที่ผ่านมา แต่เราต้องทำให้ดีขึ้น และต้องไม่ประมาท เพื่อความปลอดภัยของประชาชนคนไทย และทุกชีวิตที่อยู่ในประเทศไทย ความร่วมมือกันของทุกๆ ฝ่าย โดยเฉพาะภาคประชาชน และการตั้งรับสถานการณ์อย่างมีสติ จะทำให้เราฝ่าวิกฤตินี้ไปด้วยกันได้ อย่างเข้มแข็ง กระทรวงสาธารณสุข จะทำงานหนัก และทำงานมากขึ้น เพื่อความปลอดภัยของคนไทยทุกคน
สำหรับคนที่กำลังเอาเปรียบ และ ค้ากำไรจากการกักตุน ขึ้นราคา หน้ากากอนามัย และเจลล้างมือ จนทำให้ประชาชนเดือดร้อน ถ้าท่านคิดว่าการมีความสุขบนความเดือดร้อนของประชาชนเพื่อนร่วมชาติ เป็นเรื่องที่ควรทำ และไม่ละอายใจ ก็เชิญทำต่อไป ผมเก็บข้อมูลไว้หมดแล้ว วันหนึ่ง เราคงได้คิดบัญชีกัน
โดยช่วงท้ายได้ระบุว่า “ขออภัย ที่วันนี้ มีอาการ”หลุด” ใส่ชาวต่างชาติ แถบยุโรป บางคน ที่ แสดงอาการรังเกียจ คนไทยใส่mask และ ไม่ร่วมมือในการใส่ mask ในขณะที่พวกเรากำลังรณรงค์ป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา ในประเทศไทย
เราไม่สามารถรู้ได้ว่า คนต่างชาติคนนั้นมาจากประเทศไหน ก่อนมาประเทศ ไทย และ มีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน การให้เกียรติและให้ความร่วมมือการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค คือ สิ่งที่เราคาดหวัง ไม่ใช่การปัดมือ และมองด้วยสายตาที่เหยียดหยาม เช่นที่ผมและคณะกระทรวงสาธารณสุข ได้รับวันนี้ ขอขอบคุณ และขออภัยชาวต่างชาติทุกท่าน ที่ให้ความร่วมมือ ป้องกันการแพร่ระบาดแล้ว”