svasdssvasds

จับตา! ศอฉ.โควิด จ่อประกาศ" เคอร์ฟิว" หากไม่สามารถยับยั้งการระบาดได้

จับตา! ศอฉ.โควิด จ่อประกาศ" เคอร์ฟิว" หากไม่สามารถยับยั้งการระบาดได้

ยังคงต้องจับตา รัฐบาลจ่อประกาศ "เคอร์ฟิว" หลังจากที่ "บิ๊กตู่" ใช้ "พ.ร.ก.ฉุกเฉิน" มีผล 26 มี.ค. เพื่อสกัด "โควิด-19" ที่กำลังระบาด ยกระดับศูนย์บริหารโควิดเป็น "ศอฉ." บูรณาการทุกกระทรวง เตรียมพื้นที่รัฐในการกักตัวหากระบาดพุ่งสูง คำถามที่ตามมาก็คือ จะเกิดอะไรขึ้นบ้างหลังจากนี้?

วานนี้ (24 มี.ค.63) เมื่อเวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม แถลงว่า ครม.เห็นชอบประกาศ พ.ร.ก.การบริหาราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 โดยจะประกาศในวันที่ 26 มีนาคม เบื้องต้นมีระยะเวลา 1 เดือน โดยสิ่งสำคัญที่สุดคือการจัดระเบียบในการทำงาน และการยกระดับศูนย์บริหารโควิด-19 เป็นศูนย์ฉุกเฉินในเรื่องการแก้ปัญหา หรือ ศอฉ.โควิด-19 หลังจากที่สถานการณ์ไวรัส โควิด-19 ยังคงลุกลาม และเกรงว่าไทยอาจเดินตามรอยอิตาลี ที่มีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ทำให้รัฐบาลตัดสินใจใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เข้าแก้ปัญหาอย่างเด็ดขาด

จับตา! ศอฉ.โควิด จ่อประกาศ" เคอร์ฟิว" หากไม่สามารถยับยั้งการระบาดได้

นอกจากนี้มีคณะทำงานสอดประสานกันโดยมีปลัดกระทรวงของแต่ละภารกิจเป็นผู้รับผิดชอบเป็นหัวหน้าส่วนงานรับผิดชอบ ซึ่งจะติดตามมาตรการที่ประกาศออกไปแต่เดิมที่อาจจะต้องมีการปรับปรุงแก้ไข ในส่วนที่ 2 ก่อนจะเสนอมาตรการมาเพิ่มเติม นายกฯ จะเป็นคนอนุมัติ เพราะอำนาจต่างๆ ทั้งหมด กฎหมายทั้งหมด จะมาอยู่ที่นายกฯ เพื่อให้เกิดการบูรณาการอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ ศอฉ.จะมีการประชุมทุกเช้าเวลา 09.30 น. โดยนำหัวหน้าส่วนราชการทั้งหมดมาเสนอและรายงานสถานการณ์ให้ทราบ ซึ่งในระยะที่ 1 ที่จะประกาศในวันที่ 26 มีนาคม เป็นเรื่องการทำอย่างไรให้ลดการแพร่ระบาดในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับความร่วมมือของประชาชน โดยเฉพาะขอความร่วมมืออย่าเพิ่งเดินทางกลับภูมิลำเนา หากกลับก็ต้องเจอมาตรการต่างๆ ในการคัดกรองและการตรวจสอบระหว่างทาง

ประเด็นสำคัญวันนี้คือการกักตัวที่บ้านหรือในพื้นที่ ถ้าจำเป็นก็มีสถานที่กักตัวของรัฐเพิ่มเติมขึ้น ในกรณีมีการแพร่ระบาดหรือตรวจสอบพบผู้ติดเชื้อมากขึ้น เราจำเป็นต้องหามาตรการอื่นมารองรับ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลสนาม พื้นที่กักตัวขนาดใหญ่ และการจัดหาวิชาการต่างๆ ให้เพียงพอ ทุกวันนี้มีการช่วยเหลือจากต่างประเทศเข้ามา แต่ก็อาจจะไม่ค่อยเพียงพอกับสิ่งที่เราต้องการในขณะนี้ จึงต้องมีการจัดหาจัดซื้อเพิ่มเติม ซึ่งจะหารือกันในแต่ละวันใน ศอฉ.

"ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก ถ้าตื่นตระหนกมันก็คือปัญหา เราต้องฟังรัฐบาล โดยการให้ข่าวและข้อมูลมี 2 ช่องทาง คือ การให้ข้อมูลในโซเชียลต่างๆ รวมถึงทวิตเตอร์ โดยตั้งแต่เช้าถึงเย็นจะมีศูนย์ปฏิบัติการต่างๆ ทั้งของสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม กระทรวงการต่างประเทศ ที่มีการแถลงทั้งวัน และจะมีช่องทางให้ทุกคนสอบถามหรือโทรศัพท์เข้ามา ในส่วนของวาระสรุปก็เป็นเรื่องของโฆษกและศอฉ.จะสรุปประเด็นสำคัญในแต่ละวันให้ทราบ จึงขอให้รับฟังช่องทางของรัฐบาลเป็นหลัก” นายกฯ กล่าว และว่า หลังประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขอให้ทุกคนระมัดระวังเรื่องการใช้สื่อโซเชียล การให้ข่าวสารข้อมูลบิดเบือน เดิมใช้กฎหมายปกติอยู่ แต่กฎหมายนี้จะแต่งตั้งเจ้าพนักงานทั้งหมด ทั้งพลเรือน ตำรวจ และทหาร รวมทั้งจัดตั้งด่านตรวจจุดสกัดเตรียมกำลังและเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือส่วนราชการต่างๆ ในการทำงาน ดังนั้นก็ต้องเจอกับการตั้งด่านตรวจจุดสกัดต่างๆ และจะมีการปรับมาตรการต่างๆ ให้เข้มงวดขึ้น หากยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ก็จำเป็นต้องปิดล็อกทั้งหมด โดยทุกอย่างขอให้เป็นไปตามขั้นตอน

เตรียม พ.ร.ก. กู้เงินสู้โควิด

นายกฯ ระบุว่า ผู้ที่ใช้โซเชียลฯ ในทางที่บิดเบือนต้องได้รับการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งทุกคนมีอำนาจในทางคดีอาญาด้วยในขณะนี้ สามารถจับกุมดำเนินคดีได้ไม่ว่าจะเป็นการกักตุนสินค้าหรืออะไรต่างๆ รวมทั้งการขึ้นราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคจะมีความเข้มงวดไปเรื่อยๆ เข้าใจทุกคนรักประเทศแต่ต้องรักในวิธีการที่ถูกต้องและเป็นไปตามกฎหมาย ความเชื่อมั่นในการทำงานของรัฐบาล ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องขอร้องอย่างเดียวในขณะนี้

นายกฯ กล่าวอีกว่า กระทรวงการคลังจะมีมาตรการโดยจะเน้นหนักในภาคประชาชน เพื่อให้ประชาชนมีเงินใช้จ่ายในช่วงนี้ ขอให้ใช้เงินอย่างประหยัดและพอเพียงเพื่อให้ดำรงชีวิตอยู่ได้ โดยรัฐบาลจะดูแลไปในระยะเวลาหนึ่งจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยจะแบ่งเป็นระยะๆ อาจจะ 2-3 เดือน และมาตรการจะทยอยออกมาตามลำดับ ทั้งนี้มาตรการต่างๆ จำเป็นต้องปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์และจำเป็นต้องหาเงินให้เพียงพอ วันนี้กำลังหามาตรการ อาจต้องใช้เงินกู้บ้าง

เพราะงบประมาณปี 2563 ค่อนข้างจำกัด ส่วนงบกลางก็ใช้จ่ายไปพอสมควรแล้วและเหลือจำนวนน้อยมาก จึงจำเป็นต้องหามาตรการเข้าระบบให้มากยิ่งขึ้น และจำเป็นต้องจัดทำ พ.ร.ก.การกู้เงินต่างๆ ของกระทรวงการคลัง ในระยะนี้และเพื่อเตรียมในระยะที่ 3 และระยะที่ 4 ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายกฯ ให้สัมภาษณ์เสร็จได้เดินออกจากตึกบัญชาการ 1 เพื่อไปยังห้องทำงานที่ตึกไทยคู่ฟ้า ระหว่างนั้นสื่อมวลชนได้สอบว่ามีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วสบายใจขึ้นหรือไม่ โดยนายกฯ ไม่ตอบคำถามแต่ทำมือให้รอฟังการแถลงข่าวพร้อมชูกำปั้นสองข้างขึ้น ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ “สู้ๆ”

จ่อใช้“เคอร์ฟิว”พฤหัสฯนี้

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า จากปัญหาการเคลื่อนย้ายของประชาชนที่ออกจากกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่ระบาดสูงไปยังต่างจังหวัดจะส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นรวมไปถึงผู้เสียชีวิตจะมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงวัยอยู่ในภูมิภาคจำนวนมาก อีกทั้งยังพบว่ามีกลุ่มประชาชนขาดความรับผิดชอบต่อสังคมยังออกไปกินเที่ยวตามแหล่งต่างๆ ที่ยังไม่ได้มีการสั่งปิดสถานที่เสี่ยง เป็นการขัดกับหลักระยะห่างทางสังคมที่รัฐบาลขอความร่วมมือ

ดังนั้น รัฐบาลจึงเตรียมประกาศใช้เคอร์ฟิวในวันพฤหัสบดีนี้ หลัง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีผลบังคับใช้ เพื่อสกัดกั้นการระบาดให้เป็นผลสำเร็จ นอกจากนี้มีบทเรียนในต่างประเทศ อาทิ อิตาลีและอังกฤษที่ขอความร่วมมือพลเมืองแต่ก็ไม่สามารถยับยั้งการระบาดได้ โดยเฉพาะอิตาลีมียอดเสียชีวิตสูงมากและป่วยติดเชื้อเกินกว่าครึ่งแสนรายไปแล้ว จนทั้งสองประเทศต้องประกาศกำจัดสิทธิการเดินทางของประชาชนไปแล้ว

มีรายงานแจ้งด้วยว่า ในการประชุม ครม. มีรัฐมนตรีบางคนเสนอให้ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพียง 1 เดือนก่อน โดยมาตรการเบื้องต้นเพื่อหยุดการเคลื่อนย้ายของผู้คนให้อยู่กับบ้านให้มากที่สุดส่วนเปิด-ปิดสถานที่เสี่ยงยังคงเป็นไปตามประกาศของผู้ว่าฯแต่ละจังหวัด และยังคงผ่อนผันให้เปิดตลาดสด ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร และสถาบันการเงิน เป็นต้น ขณะที่การเดินทางของประชาชนจะมีเจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจโดยเฉพาะรอยต่อของแต่ละจังหวัดอย่างเข้มข้น

คาดสี่ทุ่ม-ตีห้าห้ามออกบ้าน

ด้านแหล่งข่าวจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) ระบุว่า มีความเป็นไปได้หลังประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งจะมีการประกาศเคอร์ฟิวตามมา เพราะต้องหยุดการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 โดยห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานตามเวลาที่กำหนด หยุดการเดินทาง หยุดการรวมกลุ่มที่สุ่มเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ ซึ่งทหารจะมาเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ขณะเดียวกันเห็นควรว่าน่าจะมีประกาศแจ้งเตือนประชาชน รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ บริษัทเอกชน องค์กรต่างๆ ได้รับทราบถึงแนวทางปฏิบัติ เพื่อจะได้วางแผนการเดินทางการทำงานโดยไม่ฝ่าฝืนประกาศดังกล่าว ตลอดจนสื่อมวลชนที่มีความจำเป็นในการทำหน้าที่ในช่วงประกาศเคอร์ฟิวต้องทำเรื่องขออนุญาตให้ถูกต้อง

จับตา! ศอฉ.โควิด จ่อประกาศ" เคอร์ฟิว" หากไม่สามารถยับยั้งการระบาดได้

แหลางข่าวคนเดิมบอกอีกว่า สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับเคอร์ฟิว คือตั้งแต่ 22.00-05.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ยึดปฏิบัติการมาทุกครั้งที่มีประกาศเคอร์ฟิว ในส่วนของร้านสะดวกซื้อที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงก็ต้องปฏิบัติตามกฎดังกล่าวด้วย ขณะเดียวกันตำรวจทุกฝ่ายจะต้องมาปฏิบัติหน้าที่ มีการตั้งจุดตรวจจุดสกัด รวมถึงชุดสายตรวจ ในช่วงแรกหากพบประชาชนอยู่นอกเคหสถานก็จะตักเตือนและให้กลับเข้าที่พักอาศัย เชื่อว่าจะได้รับความร่วมมือ

ด้านนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภายหลังที่ พล.อ.ประยุทธ์ ขออำนาจ ครม.ในการออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่วนแนวทางปฏิบัติต่างๆ ขอให้รอรายละเอียดข้อกำหนดต่างๆ ให้ชัดเจน เพราะวันนี้อยู่ในขั้นตอนเห็นชอบในหลักการให้นายกฯ ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม

จับตา! ศอฉ.โควิด จ่อประกาศ" เคอร์ฟิว" หากไม่สามารถยับยั้งการระบาดได้

เตือนอย่าละเมิดสิทธิประชาชน

ขณะที่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร โฆษกพรรคก้าวไกล(กก.) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาเราพบว่าปัญหาการแพร่ระบาดมาจากการประเมินสถานการณ์ที่ต่ำเกินไปของรัฐบาล และขาดการเตรียมความพร้อม ขณะที่ภาคสังคมถามถึงมาตรการการคัดกรอง ชุดการตรวจ การเครื่องมือการตรวจ หรือมีแผนการอย่างไร เครื่องช่วยหายใจ หอผู้ป่วยแยก หรือจำนวนเตียงมีเพียงพอหรือไม่ หรือแม้กระทั่งหน้ากากอนามัยขั้นพื้นฐาน รัฐบาลก็ยังเตรียมการไม่ได้ ดังนั้นปัญหาไม่ได้อยู่ที่กฎหมายอ่อน หรือรัฐมนตรีมีอำนาจไม่เพียงพอ แต่รัฐบาลขาดยุทธศาสตร์ในการแก้ปัญหา และแก้ปัญหาทีละเรื่อง ถ้าแก้เรื่องที่ 1 แล้วจะรองรับเรื่องที่ 2 ได้อย่างไร เช่น กรณี กทม.สั่งปิดห้างสรรพสินค้าหยุดกิจกรรมในกรุงเทพฯ รัฐบาลไม่ได้คาดการณ์ว่าจะมีประชากรแฝงที่มีเป็นล้านคนกลับต่างจังหวัด ซึ่งจะเป็นผลกระทบสู่วงกว้างไปอีก ทั้งหมดนี้รัฐบาลไม่เตรียมการ ขาดการประเมินผลกระทบ

จับตา! ศอฉ.โควิด จ่อประกาศ" เคอร์ฟิว" หากไม่สามารถยับยั้งการระบาดได้

“สิ่งที่เราเป็นกังวล คือหากรัฐบาลไม่เปลี่ยนความคิดอยู่ในกรอบการทำงานแบบเดิมๆ แต่ที่เพิ่มเติมคือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะให้อำนาจเจ้าหน้าที่รัฐในการละเมิดสิทธเสรีภาพของประชาชน สามารถจับกุม ควบคุมตัว ตรวจสอบบุคคล และกำหนดโทษกับประชาชนด้วย และไม่มีอำนาจใดคานได้ พ.ร.ก.นี้จะเป็นการส่งเสริมให้ละเมิดสิทธิประชาชน และประชาชนจะไม่สามารถฟ้องร้องรัฐได้เลย เราอยากให้รัฐบาลใช้อำนาจของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แบบเฉพาะเจาะจงในการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดเท่านั้น และต้องให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลตรวจการทำงานของรัฐบาลได้” นายวิโรจน์กล่าว

ร้านสะดวกซื้อเปิดเป็นเวลา

ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการสกัดไวรัสระบาดในต่างจังหวัดว่า ขณะนี้ดำเนินการปิดด่านแนวชายแดนแล้ว ยกเว้นเพียงจุดที่มีคนไทยต้องเดินทางกลับเข้ามา และในส่วนของประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาจะต้องปฏิบัติตัวตามที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำเพื่อไม่ทำให้เกิดเชื้อแพร่กระจาย เพราะหากร่วมมือและดูแลตัวเองก็จะควบคุมสถานการณ์ได้ ส่วนตัวเชื่อว่าความร่วมมือถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะลดการแพร่ระบาดได้ แม้หากจะมีกฎหมายออกมาแต่ความร่วมมือของประชาชนถือว่าสำคัญที่สุด

จับตา! ศอฉ.โควิด จ่อประกาศ" เคอร์ฟิว" หากไม่สามารถยับยั้งการระบาดได้

ส่วนแรงงานต่างด้าวที่เดินทางกลับประเทศหลังสถานประกอบการบางแห่งต้องปิดชั่วคราวนั้น คาดว่าในวันนี้จะได้รับข้อมูลรายละเอียดการเดินทาง และมั่นใจว่ากำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ จะสามารถควบคุมดูแลให้ผู้ที่เดินทางกลับในพื้นที่ปฏิบัติตามหลักการสาธารณสุข ทั้งการกักตนเอง และการป้องกันดูแล ไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อต่อไป

จับตา! ศอฉ.โควิด จ่อประกาศ" เคอร์ฟิว" หากไม่สามารถยับยั้งการระบาดได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จ.เพชรบูรณ์ ได้มีมติให้ร้านสะดวกซื้อเปิดให้บริการเวลา 05.00-24.00 น. ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม-12 เมษายน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส

วันเดียวกัน นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง ได้ลงนามในประกาศฉบับที่ 2 ให้หน่วยงานที่ให้บริการระบบขนส่งทางรางทุกระบบทั้งรถไฟฟ้าและรถไฟ ให้ประชาชนผู้ใช้บริการต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาที่ใช้บริการภายในระบบขนส่งสาธารณะทางรางเว้นระยะห่างจากบุคคลอื่นๆ อย่างน้อย 2 เมตร ให้มีจุดบริการหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารเพิ่มจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าใช้บริการทุกสถานี โดยให้เริ่มวันที่ 25 มีนาคม เป็นต้นไป

จับตา! ศอฉ.โควิด จ่อประกาศ" เคอร์ฟิว" หากไม่สามารถยับยั้งการระบาดได้

สภาเปิดตามเดิมหวั่นขัดรัฐธรรมนูญ

ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฏร กล่าวว่า ได้มีหนังสือแจ้งไปยัง ส.ส.ทั้ง 500 คน ถึงแนวทางการปฏิบัติตัวระหว่างที่มีการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งเข้าใจดีว่า ส.ส.ยังจำเป็นต้องปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ ปัจจุบันการแพร่ระบาดได้ลุกลามไปยังต่างจังหวัดแล้ว ดังนั้นจึงไม่อยากให้ ส.ส.คนใดอยู่ในภาวะเสี่ยงติดเชื้อแม้แต่คนเดียว

จับตา! ศอฉ.โควิด จ่อประกาศ" เคอร์ฟิว" หากไม่สามารถยับยั้งการระบาดได้

สำหรับการประชุมคณะกรรมาธิการ(กมธ.) สามัญและวิสามัญทุกคณะ ยังสามารถดำเนินการประชุมได้ตามปกติ แต่ปัจจุบันได้รับรายงานจากประธานกมธ.กิจการสภาผู้แทนราษฎรว่าส่วนใหญ่ได้งดการประชุมไว้ล่วงหน้าแล้ว เพื่อลดความแออัด ยกเว้นบางคณะที่มีความจำเป็น ส่วนกมธ.วิสามัญที่มีระยะทำงานจำกัดนั้น ตนในฐานะประธานสภาได้ใช้อำนาจตามข้อบังคับการประชุมสภาขยายระยะเวลาให้ไปบางคณะแล้ว

เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ในการเลื่อนการเปิดสมัยประชุมจากเดือนพฤษภาคมออกไปนั้น นายชวน กล่าวว่า ในเรื่องนี้มี ส.ว.บางคนคงเข้าใจผิดว่าสามารถเลื่อนสมัยประชุมได้ แต่หากพิจารณาตามรัฐธรรมนูญแล้ว พบว่าการเปิดสมัยประชุมจะต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กล่าวคือในปีหนึ่งต้องมีสมัยประชุม 2 ครั้ง ครั้งละ 120 วัน ดังนั้นในวันที่ 22 พฤษภาคม จะเป็นวันเริ่มสมัยประชุมตามเดิมต่อไป แต่หากเมื่อเริ่มสมัยประชุมไปแล้วสถานการณ์การแพร่ระบาดยังไม่ดีขึ้นก็สามารถงดการประชุมได้ อย่างไรก็ตามได้มอบหมายให้เลขาธิการสภา ไปหารือถึงแนวทางในการจัดประชุมสภาโดยที่ส.ส. 400-500 คน ไม่ต้องมาประชุมโดยพร้อมกัน นายชวน หลีกภัย  ระบุ

เรื่องน่ารู้จาก COVID-19

อ่านข่าวแนะนำ >>> มาตรการต้องมีในที่ชุมนุมชน รับมือไวรัสโควิด-19

4 ทริค รับมือ COVID-19 มฤตยูร้ายสายพันธุ์ใหม่ ให้อยู่หมัด

วิธี กักกันตัวเอง ที่บ้าน ทำอย่างไรให้ปลอดภัยที่สุด

Social Distancing ระยะห่างทางสังคม ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ

related