อภิปรายไม่ไว้วางใจ 19 ก.พ. 64 ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.ก้าวไกล แฉคลิปกลางสภา ปฏิบัตการไอโอทหาร ภาค 2 ก่อนที่ รังสิมันต์ โรม ส.ส. พรรคเดียวกันจะขยี้ปมแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ
อภิปรายไม่ไว้วางใจ 19 ก.พ. 64 ระอุตั้งแต่ช่วงเช้า โดยณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ได้เริ่มต้นอภิปรายเป็นคนแรก แฉคลิปกลางสภา ปฏิบัตการไอโอทหาร ภาค 2 ก่อนที่ รังสิมันต์ โรม ส.ส. พรรคเดียวกันจะขยี้ปมแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ ว่าไม่โปร่งใส
9.20 น. นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล ขึ้นอภิปรายเป็นคนแรก แฉคลิปกลางสภา อ้างเป็นการประชุมปฏิบัติการไอโอทหารเพื่อโจมตีฝ่ายตรงข้าม มีการพูดถึงเพจของนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคก้าวหน้า และมอบหมายภารกิจโจมตีฝ่ายตรงข้าม
ขณะที่ตอนท้ายการประชุมระบุวันที่ 14 ก.พ. 63 เป็น 4 วันก่อนยุบพรรคอนาคตใหม่ มีการสั่งผู้ใต้บังคับบัญชา ว่าจะมีการยุบพรรคอนาคตใหม่ สงสัยทำไมรู้กันล่วงหน้า และสั่งการกันล่วงหน้า นอกจากนี้ยังกำชับหน่วยไอโอห้ามให้เอกสารการเงินหลุดไปถึงมือสื่อ
10.25 น. พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยัน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่มีนโยบายสั่งการให้หน่วยงานหรือ ทหารไปปฏิบัติการไอโอตามที่ถูกกล่าวหา
สิ่งที่กองทัพทำคือการให้ทหารเรียนรู้และเข้าใจเทคโนโลยี ติดตามสื่อได้เท่าทัน มีสติ และพิจารณาได้ถูกต้อง ว่าข้อความที่อยู่ในโซเชียลถูกต้องเป็นจริงหรือไม่ จึงจัดอบรมให้ความรู้กำลังพล บัญชีมีการเปิดเผยชัดเจน ไม่ได้ปิด
10.40 น.นายรังสิมันต์ โรม อภิปรายว่า ไม่ไว้วางใจ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมและพล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ว่า สาเหตุที่ต้องอภิปรายทั้งสองคนเนื่องจากบริหารราชแผ่นดินล้มเหลว และไม่โปร่งใสที่มีต่อการบริหารราชการตำรวจ
จนกลายเป็นที่ซ่องสุ่มกลุ่มที่จะกอบโกยยศและตำแหน่งไว้กับตนเองและพวกพ้อง ตั้งแต่สมัย พล.อ.ประวิตร กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติปี 57 มีการปล่อยปละละเลยให้ผู้ที่ไม่มีอำนาจหน้าที่เข้ามาบ่งการการแต่งตั้งโยกกย้ายตำแหน่งจนก่อให้เกิดระบบอุปถัมภ์และการใช้เส้นสายในวงการตำรวจ
เมื่อพล.อ.ประยุทธ์เข้ามากำกับดูแลด้วยตนเองก็ยังปล่อยให้คนเหล่านั้นลอยนวลต่อไป ทำให้วงการตำรวจเพิกเฉยต่ออาชญากรรมกระทำกับผู้บริสุทธิ์ “เปิดบ่อนไม่ว่า ค้ายาไม่สอบ เจอเจ้าพ่อน้อมนอบ แต่เจอม็อบสู้ตาย”
12.14 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ขณะดำรงตำแหน่งเป็นประธาน กตร. ได้ดำเนินการทุกอย่างตามระเบียบ กตร.และกฎหมายทุกประการ การแต่งตั้งโยกย้ายเป็นเรื่องของกรมตำรวจที่จะพิจารณา เลือกคนที่เหมาะสม เราทำตามกฎข้อบังคับ และตามอำนาจที่ ครม.มอบหมายให้
12.15. น. นายกรัฐมนตรี ชี้แจงยืนยัน ไม่เคยรับผลประโยชน์จากการซื้อขายตำแหน่ง และเคยได้บอกไปแล้วหากมีการแอบอ้างชื่อตนเองกับรองนายกฯ ประวิตร ให้ร้องเรียนเข้ามา เพราะอาจจะถูกหลอก
การทุจริตเกิดขึ้นจากทั้ง 2 ฝ่าย คือผู้ให้และผู้รับ ซึ่งตนกับกับรองนายกฯก็อยากจะถามกลับไปว่า เราได้ประโยชน์จากไหน มีหลักฐานหรือยัง เพราะถ้าพูดลอยลมก็สามารถพูดได้ พร้อมยืนยันการแต่งตั้งโยกย้ายเป็นไปตามขั้นตอนและระเบียบ ยึดหลักอาวุโสและความเหมาะสม
มีการกระจายอำนาจให้ผู้บังคับบัญชาแต่ละระดับ ส่วนการปรับย้ายตำรวจ ไปเป็นตำรวจมหาดเล็กรักษาพระองค์ จำเป็นต้องคัดเลือกคัดสรร สอบถามทัศนคติ เพราะถวายงานใกล้ชิด หากไม่เหมาะสมก็อยู่ที่เดิมไม่ได้มีการลงโทษใดๆ ทั้งสิ้น