การศึกษาคือหนึ่งในรากฐานสำคัญในการนำพาประเทศไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งในแต่ละปีเด็กไทยที่หลุดจากระบบการศึกษามีจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา ปตท. ได้เล็งเห็นความสำคัญของการศึกษา และเพื่อนำเด็กที่หลุดจากระบบการศึกษา ให้กลับมามีโอกาสในการเรียนอีกครั้ง จึงได้จัดตั้งโครงการ “ลมหายใจเพื่อน้อง” ขึ้น เพื่อลดช่องว่างและมอบโอกาสทางการศึกษาที่เสมอภาคให้กับเด็กและเยาวชนไทย
โครงการ “ลมหายใจเพื่อน้อง” เฟสแรก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินกิจกรรม PTT Virtual Run เดินวิ่งระดมทุนการศึกษาเพื่อเยาวชน และจากการระดมทุนจำนวน 150 ล้านบาท ที่ประชาชนทุกภาคส่วนทั่วประเทศ ได้ร่วมสร้างสถิติใหม่สะสมระยะทาง 600,000 กิโลเมตร ด้วยเวลาเพียง 6 วัน ทำให้สามารถช่วยเด็กและเยาวชนที่มีความเสี่ยงหลุดออกจากระบบการศึกษา 60,000 คนได้กลับเข้าเรียนอีกครั้งในภาคเรียนปีการศึกษา 2565 ที่ผ่านมา โดยระดับชั้น ป.6 สามารถเรียนต่อ ม.1 จำนวน 14,500 คน และระดับชั้น ม.3 เรียนต่อ ม.4 หรืออื่นๆ จำนวน 45,500 คน
ต่อมาได้มีการสานต่อ “โครงการลมหายใจเพื่อน้อง” เฟส 2 เดินวิ่ง 20 ล้านก้าวก๊อดจิ เพื่อระดมทุน 20 ล้านบาท จัดตั้ง “กองทุนแรกเริ่มศูนย์ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนในวิกฤตการศึกษา” ผ่าน กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา หรือ กสศ. เพื่อช่วยเด็กๆ ที่เสี่ยงจะหลุดออกจากระบบการศึกษา เนื่องจากผลกระทบจากเหตุไม่คาดคิด เช่น อุบัติเหตุ อาชญากรรม ทั้งต่อตัวเองและครอบครัว
จำนวนนักเรียนที่ได้รับทุนการศึกษาแล้ว 6,206 คน
ภาคกลาง จำนวน 25 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร, กาญจนบุรี, จันทบุรี, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ชัยนาท, ตราด, นครนายก, นครปฐม, นนทบุรี ปทุมธานี, ประจวบคีรีขันธ์, ปราจีนบุรี, พระนครศรีอยุธยา, ระยอง, ลพบุรี, สมุทรปราการ, สมุทรสงคราม, สมุทรสาคร, สระบุรี, สระแก้ว, สิงห์บุรี, สุพรรณบุรี, อ่างทอง, เพชรบุรี
จำนวนนักเรียนที่ได้รับทุนการศึกษาแล้ว 11,592 คน
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 20 จังหวัด ประกอบด้วย กาฬสินธุ์ ขอนแก่น, ชัยภูมิ, นครพนม, นครราชสีมา, บึงกาฬ, บุรีรัมย์ มหาสารคาม, มุกดาหาร, ยโสธร, ร้อยเอ็ด, ศรีสะเกษ, สกลนคร, สุรินทร์,หนองคาย, หนองบัวลำภู,อำนาจเจริญ, อุดรรธานี, อุบลราชธานี, เลย
จำนวนนักเรียนที่ได้รับทุนการศึกษาแล้ว 9,758 คน
ภาคใต้ จำนวน 14 จังหวัด ประกอบด้วย กระบี่, ชุมพร, ตรัง, นครศรีธรรมราช, นราธิวาส, ปัตตานี, พังงา, พัทลุง, ภูเก็ต, ยะลา, ระนอง, สงขลา, สตูล, สุราษฎร์ธานี
จำนวนนักเรียนที่ได้รับทุนการศึกษาแล้ว 32,444 คน
จาก 76 จังหวัดทั่วประเทศ มีจำนวนนักเรียนที่ได้รับทุนการศึกษารวมทั้งหมด 60,000 คน โดยระดับชั้น ป.6 สามารถเรียนต่อชั้น ม.1 ได้ จำนวน 14,500 คน และระดับชั้น ม.3 สามารถเรียนต่อชั้น ม.4 หรืออื่นๆ จำนวน 45,500 คน ซึ่ง 100% ยังคงอยู่ในระบบการศึกษา และมีอัตราการมาเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 85
ตามที่กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาได้ดำเนินโครงการศูนย์ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนในภาวะวิกฤตทางการศึกษา เพื่อช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่ได้รับผลกระทบ ให้สามารถกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาและป้องกันการหลุดออกนอกระบบการศึกษา โดยมีพื้นที่ดำเนินงาน 4 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก ยะลา ขอนแก่น และกรุงเทพมหานคร กสศ. ได้ดำเนินการช่วยเหลือเด็กและเยาวชนตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ แล้ว จำนวน 302 คน โดยจังหวัดพิษณุโลก 120 คน, จังหวัดยะลา 84 คน, จังหวัดขอนแก่น 77 คน และกรุงเทพฯ 21 คน โดยเด็กและเยาวชนที่มีภาวะวิกฤตทางการศึกษา ประกอบด้วย
1) เด็กและเยาวชนที่กำลังศึกษาอยู่ในระบบการศึกษา อายุไม่เกิน 25 ปีบริบูรณ์ ที่มีความเสี่ยงหลุดออกจากระบบการศึกษา
2) เด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา อายุไม่เกิน 25 ปี ที่หลุดจากระบบการศึกษาไม่เกิน 1 ปีการศึกษา ที่ได้รับการสนับสนุน จากโครงการศูนย์ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนในภาวะวิกฤตทางการศึกษาในพื้นที่ต้นแบบ
ผลการวิเคราะห์ระดับสาเหตุเสี่ยงหลุดออกจากระบบการศึกษาของเด็กและเยาวชนที่กำลังศึกษาอยู่ จำแนกตามประเภทสาเหตุ พบว่า เด็กและเยาวชนที่กำลังศึกษาอยู่มีสาเหตุเสี่ยงหลุดออกจากระบบการศึกษา
-ด้านปัญหาเศรษฐกิจสูงสุด จำนวน 280 คน คิดเป็นร้อยละ 92.71 ของเด็กและเยาวชนทั้งหมด
-สาเหตุจากปัญหาครอบครัว จำนวน 186 คน คิดเป็นร้อยละ 61.60 ของเด็กและเยาวชนทั้งหมด
- สาเหตุจากอุบัติเหตุ/โรคภัย จำนวน 95 คน คิดเป็นร้อยละ 31.45 ของเด็กและเยาวชนทั้งหมด
- สาเหตุจากปัญหาสาธารณภัย 21 คน คิดเป็นร้อยละ 6.95
1. เด็กและเยาวชนในภาวะวิกฤตการศึกษาส่วนใหญ่อาศัยอยู่กับญาติหรือครอบครัวแหว่งกลาง (อาศัยอยู่กับพ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่ง) มีจำนวนกว่าร้อยละ 70 ซึ่งสอดคล้องกับการระบุสาเหตุของการเสี่ยงหลุดจากระบบการศึกษาที่ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากปัญหาครอบครัว
2. ครอบครัวผู้ได้รับทุนมีหนี้สินโดยเฉลี่ยมากกว่า 50,000 บาท ในขณะที่รายได้ของครอบครัวอยู่ที่ 1,135.58 บาท/คน/เดือน สะท้อนให้เห็นถึงภาวะเรื้อรังวิกฤตทางเศรษฐกิจของครอบครัวผู้รับทุน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการสนับสนุนการศึกษาของบุตรหลานในระยะยาว ต้องมีมาตรการคู่ขนานในการบริหารจัดการหนี้สินครัวเรือนและเพิ่มรายได้ของครอบครัว เพื่อให้ผู้อุปการะมีความสามารถในการสนับสนุนการศึกษาของบุตรหลานได้
4. เด็กและเยาวชนในภาวะวิกฤตทางการศึกษาส่วนใหญ่ประสบสาเหตุที่มีโครงสร้างซับซ้อน กล่าวคือมีสาเหตุของการหลุดจากระบบการศึกษามากกว่า 1 สาเหตุ แสดงให้เห็นถึงกระบวนการแก้ปัญหาที่ต้องอาศัยความร่วมมือแบบสหวิชาชีพในการแก้ปัญหารวมถึงความร่วมมือของหน่วยงานทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมออกแบบแนวทางการรับมือกับปัจจัยเสี่ยงต่างโดยมุ่งเน้นผลลัพธ์หลักคือ ป้องกันการเสี่ยงหลุดจากระบบการศึกษาของเด็กและเยาวชน