การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และกรุงเทพธุรกิจ ได้จัดสัมมนา “Restart เศรษฐกิจไทยฝ่าภัยโควิด”ระดมความเห็นของภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อกำหนดแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า รัฐบาลเข้าใจความรู้สึกของประชาชนถึงสถานการณ์การระบาดในปัจจุบัน โดยการแก้ปัญหาในระยะสั้นรัฐบาลได้ออกมาตรการเยียวมาเร็วจึงขอให้ประชาชนสบายใจได้ ซึ่งรัฐบาลมีงบประมาณจากวงเงินกู้ 500,000 ล้านบาท
สำหรับการเดินหน้าเศรษฐกิจประเทศหลังจากนี้ได้มีการเตรียมการไว้ผ่านกลยุทธ์ 4D ประกอบด้วย
1. Digitalization การส่งเสริมเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล การลดกฎระเบียบ การพัฒนาศูนย์กลางข้อมูล โดยต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมดิจิทัล ซึ่งในภูมิภาคมีสิงคโปร์และไทยที่เป็นผู้นำ แต่การลงทุนอุตสาหกรรมนี้ต้องใช้พลังงานไฟฟ้ามากทำให้ไทยมีปัจจัยรองรับได้ ซึ่งไทยจะได้พัฒนาบุคลากรในประเทศเพื่อรองรับ และหากทำสำเร็จจะมีผลผลักดันจีดีพี 0.7-0.8%
2. Decarbonization การมุ่งเน้นการส่งเสริมการผลิตที่ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์และมลภาวะ ซึ่งกลุ่มประเทศ G7 สนับสนุนเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ในขณะที่ประเทศไทยมีความหลายหลายด้านพลังงาน รวมทั้งมีนโยบายส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า โดยกำหนดเป้าหมายระยะสั้นในปี 2025 ในการกำหนดเป้าหมายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า สถานีประจุไฟฟ้า ซึ่งขณะนี้กำลังออกแบบสิทธิประโยชน์การลงทุน โดยต้องมีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดเพื่อตอบโจทย์คาร์บอนต่ำ
3. Decentralization โมเดลเศรษฐกิจที่ใช้ประโยชน์จากการกระจายฐานการผลิตของบริษัท ซึ่งขณะนี้ได้เกิดขึ้นแล้วจากหลายอุตสาหกรรมที่ไทยเข้มแบ็ง เช่น การพัฒนาจากอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์เป็นอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ซึ่งสะท้อนจากคำขอรับส่งเสริมการลงทุนในช่วงครึ่งแรกของปีขยายตัวสูงมากบนสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19
4. D-risk การใช้ประโยชน์จากแนวโน้มการลดความเสี่ยงในเรื่องของการซื้อที่อยู่อาศัยในต่างประเทศ ดึงคน 4 กลุ่ม ครอบคลุมที่เป็นผู้มีฐานะดี เกษียณอายุและมีเงินบำนาญ รวมทั้งเป็นผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่ทำงานในบริษัทที่พร้อมใช้ไทยเป็นแหล่งทำงานที่ 2 ซึ่งจะได้วีซาพิเศษ แต่ต้องลงทุนในไทย จะได้กลุ่มคนที่พักอาศัยระยะยาว ซึ่งจะมาเสริมการท่องเที่ยว และกำลังเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.)
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ในรอบนี้ ภาครัฐได้มีมาตรการลดค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยล่าสุดได้มีมาตรการลดค่าไฟฟ้าให้กับบ้านที่อยู่อาศัยและผู้ประกอบการรายเล็ก ในขณะที่ผู้ประกอบการรายใหญ่ได้ยกเว้นการเก็บค่าไฟฟ้าแบบ Minimum charge ไปถึง ธันวาคม 2564 จากเดิมที่ต้องชำระขั้นต่ำที่ 70% ของความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด
นอกจากนี้ ในช่วงวิกฤติถือเป็นช่วงโอกาสของการลงทุน ซึ่งการลงทุนพลังงานเป็นการลงทุนจากรัฐวิสาหกิจ 2 แห่ง คือ การไฟฟ้าฝายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ที่เป็นเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมทั้งเข้าไปช่วยเศรษฐกิจฐานรากผ่านนโยบายเศรษฐกิจหมุนเวียน เช่น การใช้พลังงานไฟฟ้าจากโซลาร์เพื่อสูบน้ำภาคการเกษตร กฟผ.จะลงทุนโรงไฟฟ้าชุมชน ซึ่งจะสนับสุนนการปลูกพืชพลังงาน และได้มีการจ้างงานในพื้นที่และนักศึกษาจบใหม่เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ
รวมทั้งช่วงที่ผ่านมาสำนักงาน ททท. ในต่างประเทศทำงานต่อเนื่องเพราะเชื่อว่าการท่องเที่ยวต้องการมาและต้องการเห็นการท่องเที่ยวกลับมาเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอีกครั้ง โดยทิศทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวหลังวิกฤติโควิด-19 จะเปลี่ยนไปด้วยการเจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะตลาดมากขึ้น
ทั้งนี้ ระบบสาธารณสุขเป็นสิ่งสำคัญเพราะถ้าจัดการได้ทุกอย่างจะกลับมา แต่ขณะนี้ระบบสาธารณสุขรับบทหนัก ถึงแม้เปิดประเทศแล้วคนไทยจะกล้าไปเที่ยวหรือไม่ วันนี้การท่องเที่ยวในประเทศเหลือเกือบ 0% ถ้าเราจัดการแยกคนที่ติดเชื้อกับไม่ติดเชื้อ และฉีดวัคซีนได้ครบจะทำให้ภาคธุรกิจเปิดได้และทำให้ความเสี่ยงทางธุรกิจน้อยลง
นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ประธานกลุ่มการค้าปลีกและบริการ หอการค้าไทย และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ธุรกิจค้าปลีกในจังหวัดที่ถูกปิดได้รับผลกระทบมากแต่มีการปรับตัวเสริมทัพการทำงาน รวมทั้งใช้รูปแบบการค้าออนไลน์ ซึ่งทำให้ฟื้นยอดขายได้ 20-30% เพราะเมื่อยอดขายหายไปจะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปถึงซัพพลายเชน แต่ต้องยอมรับว่ามีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีบางส่วนไปต่อไม่ได้ ซึ่งทำให้ภาคเอกชนได้เริ่มโครงการในลักษณะผู้ประกอบการรายใหญ่ช่วยเหลือเอสเอ็มอี เช่น การสนับสนุนแหล่งเงินทุน การใช้ใบอินวอยซ์มาเป็นหลักฐานให้ธนาคารปล่อยสินเชื่อได้ ทั้งนี้เกิดการดิสรัปชัน ทำให้พวกเราต้องปรับเปลี่ยนเพราะเกิด Homebody Economy มากขึ้น รวมทั้งในช่วงวิกฤติเราต้องมาปรับปรุงธุรกิจเพื่อรอการฟื้นตัวของเศรษฐกิจแล้วจะทำให้ธุรกิจก้าวกระโดดได้
ในขณะที่โลกหลังการฉีดวัคซีนจนเกิดภูิมคุ้มกันหมู่ ซึ่งอาจต้องฉีดทุกปี ดังนั้นจะต้องมีการปรับแผนการฉีดวัคซีน รวมถึงเมื่อมีการกลายพันธุ์ก็ต้องมีการเตรียม