svasdssvasds

ปลายเดือนกันยา จะคลายล็อกต่อ หรือ ล็อกซ้ำ ขึ้นอยู่กับสิ่งนี้

พามาทวนสถานการณ์หลังคลายล็อก1 สัปดาห์ จะได้ไปต่อหรือต้องกลับมาล็อกซ้ำ แบบที่หลายคนกลัวขึ้นอยู่กับสิ่งนี้ บางคนอาจมองว่าต้องฉีดวัคซีนเกิน 85% จนเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ บางคนอาจมองว่ายังไม่อยากให้คลายล็อก แท้จริงแล้วขึ้นอยู่กับอะไร? เดี๋ยวสรุปให้ฟัง

       หลังคลายล็อกมา 6 วัน สถานการณ์แนวโน้มผู้ติดเชื้อในบ้านเรามีตัวเลขลดลงต่อเนื่อง ดีขึ้นถึงขั้น ศปก.ศบค เตรียมพิจารณาอาจยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และใช้แค่ พ.ร.บ.สธ. จัดการกับการระบาดต่อไปแทน แต่ก็ยังวางใจยังไม่ได้ หมอธีระชี้ คลายวันนี้มีโอกาสเห็นผลสิ้นเดือนที่ผู้ติดเชื้อจะสูงขึ้น แต่นั่นก็คือการคาดการณ์จากตัวเลขและข้อมูล ณ ตอนนี้ ซึ่งผลลัพท์อาจเปลี่ยนแปลงได้ หากพวกเราช่วยกัน 


1 ต.ค. ศบค.โยนหินถามทาง เตรียมเดินหน้า Covid free
ยึดกฏเข้ม3 ข้อ จังหวัดสีแดงเข้ม

1.สิ่งแวดล้อมปลอดภัย  ร้านสะอาด ปรับอากาศสะอาด ระยะห่าง

2.พนักงานปลอดภัย  ทุกคนฉีดวัคซีนครบโดส หรือเคย ติดเชื้อ 1-3 เดือน จัดหา ATK ให้พนักงานตรวจทุก ๆ 7 วัน

3) ลูกค้าปลอดภัย เช็กอิน “ไทยเซฟไทย” ใช้บริการ ร้านอาหาร ร้านเสริมสวย ตัดผม คลินิกเวชกรรม เสริมความงาม ต้อง
- แสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนครบโดส หรือ
- มีประวัติการติดเชื้อมาก่อนในช่วง 1-3 เดือน หรือ
- ตรวจ ATK ผลเป็นลบ ระยะเวลาไม่เกิน 7 วัน

แค่โยนถาม ก็ยังมีเสียงสะท้อน และ คำถามมากมายถึงความ ยังไม่พร้อม ทั้งประชาชนและผู้ประกอบการ เช่น
- ATK ถ้าต้องตรวจทุกสัปดาห์ ใครจ่าย? หาจากไหน
- จะเข้าห้างต้องฉีดวัคซีนครบ? เหลื่อมล้ำหรือไม่ ในเมื่อคนกรุง ฉีดครบ 2 เข็มแค่ 30%

ยาแรงแต่จะทำได้จริงไหม? และการฉีดวัคซีนครบโดส ก็อาจจะไม่ได้ลดจำนวนผู้ติดเชื้อ (เพราะอย่าลืมว่าวัคซีนไม่ได้กันติด แค่กันตาย) ตัวอย่างชัดก็

“ภูเก็ต" ผู้ป่วยล้น รพ. ฉีด 2 เข็มก็เอาไม่อยู่

สสจ.ภูเก็ต และผู้ว่าฯภูเก็ต ระบุ เดลตากระจายทั่วเกาะภูเก็ต 1 - 4 ก.ย. 64 มีผู้ติดเชื้อ รวมทั้งสิ้น 926 คน จากภูเก็ตแซนด์บอกซ์ สะสม 85 คน ล้นโรงพยาบาล จน สธ. ปรับแผนให้ผู้ป่วยสีเขียวกักตัวที่บ้าน  แต่ยังดัน ”แซนด์บอกซ์” เดินต่อ การติดเชื้อมาจากคลัสเตอร์ตลาดชุมชนเมือง ชุมชนแออัด ชาวไทยใหม่ แคมป์ก่อสร้าง เรือประมง แพปลา นี่แสดงให้เห็นว่า แม้ชาวภูเก็ตฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม เกิน 70% ก็ต้านการระบาดไม่อยู่ ยิ่งเป็นเดลต้า

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

 

“หมอธีระ” ประชาชนยังต้องระวัง เริ่มเห็นผลปลายกันยา

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ โพสต์  การปลดล็อกขณะที่ผู้ติดเชื้อหลักหมื่นมีโอกาสสูงที่จะเห็นผลกระทบชัดเจนช่วงปลายเดือนนี้  ประชาชนยังต้องระวัง หากตัดการระบาดไม่ได้ สิ่งที่พอทำได้ คือ ขยายการตรวจคัดกรองให้ทั่วถึง ปรับการใช้ชีวิต การทำธุรกิจค้าขายใหม่เพื่อลดความเสี่ยง ต้องลดคน จำนวนครั้ง เวลาการทำธุรกรรมให้สั้นลง จากนี้ต้องเน้นความปลอดภัย

ต้องล็อกดาวน์รอบ 2 หรือไม่ เราช่วยเปลี่ยนมันได้ด้วยสิ่งนี้ 
      มุม หมอ มุม สธ. มีข้อมูลสถิติประจักษ์ที่อ้างอิงจากตัวเลขและข้อมูล ณ ปัจจุบัน แต่ผลหลังการคลายล็อกจริงๆ จากนี้ยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการพลิกวิกฤตครั้งนี้ ด้วยการมีสติ  ป้องกันตัวเองอย่างสูงสุดตลอดเวลา ลองเช็กตัวเองว่า เราหละหลวมอะไรไปบ้างหรือเปล่า เช่น
- หลังจับที่ฉีดในห้องน้ำ กดปุ่มลิฟท์ ใช้ข้อศอกกด  เราฉีดแอลทันทีเลยไหม? เพราะต่อให้ฉีดวัคซีนมันก็ไม่ได้แจ้งเตือนเรานะคะ  เพราะงั้นวัคซีนก็ดี แต่ยังไงเราก็มีโอกาสติดเชื้อ
- ออกนอกบ้าน ใส่หน้ากากสองชั้นตลอดเวลาหรือไม่?
- กลับจากนอกบ้าน เราเปลี่ยนชุด อาบน้ำเลยไหม
- ซื้อของจากห้าง ได้ล้างก่อนบ้างหรือเปล่า 

สิ่งที่จะจัดการกับโควิดได้ดีที่สุดนอกจากวัคซีนมันคือ ตัวเราเอง เพราะโควิดยังคงไม่จบ ในทุกวันต้องมีสติ เตือนตัวเองตลอด สุดท้ายสิ่งที่ทุกคนอยากเห็นเหมือนกันคือ เปิดประเทศแล้วเดินต่อ ไม่ต้องกลับมาล็อกดาวน์ซ้ำ วิถีชีวิตใหม่ตางหาก ที่จะช่วยป้องกันการระบาดได้แบบยั่งยืน 

related