svasdssvasds

หมออ๋อง ปดิพัทธ์ สันติภาดา ประวัติ แคนดิเดต ประธานสภาจากพรรคก้าวไกล

หมออ๋อง ปดิพัทธ์ สันติภาดา ประวัติ แคนดิเดต ประธานสภาจากพรรคก้าวไกล

เปิดประวัติ หมออ๋อง ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 จากนักดีเบตฝีปากกล้า สู่ว่าที่ประธานสภาจากพรรคก้าวไกล


นายสัตวแพทย์ปดิพัทธ์ สันติภาดา หรือ หมออ๋อง วัย 42 ปี ชาวพิษณุโลก
จบการศึกษามัธยมศึกษาจากโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม
ปริญญาตรีจากคณะสัตวแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ปริญญาโท วิทยาศาสตร์ทรีนิตี้ ประเทศสิงคโปร์

หมออ๋องเริ่มต้นทำงานในฐานะสัตวแพทย์อยู่ 2 ปี ต่อมาทำงานด้านพัฒนาเยาวชนและแก้ไขปัญหาสังคมกับสมาคมนักศึกษาคริสเตียนไทย พ.ศ. 2548 - 2561
หลังจากนั้นก้าวเข้าสู่ถนนการเมือง สมัครเป็นส.ส.อนาคตใหม่ ได้ลงสมัครเลือกตั้งปี 2562 และชนะการเลือกตั้งส.ส.พิษณุโลก เขต 1 เอาชนะผู้สมัครจากประชาธิปัตย์
และ พลังประชารัฐ แบบขาดลอย หลังจากพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบพรรค หมออ๋องได้มาสังกัดพรรคก้าวไกล และในปี พ.ศ. 2566 ได้ลงสมัครเลือกตั้ง ในฐานะ ส.ส.พรรคก้าวไกล
และสามารถชนะในการเลือกตั้ง ส.ส.พิษณุโลก เขต1 โดยชนะแบบขาดลอยอีกครั้ง และได้เป็น ส.ส. 2 สมัยติดต่อกัน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หมออ๋องนับเป็นนักดีเบต ฝีปากกล้าคนหนึ่งของพรรคก้าวไกล ส่วนผลงานโดดเด่นในสภา คือ การอภิปรายตีแผ่ทุจริตกองทัพ ต้นตอปัญหากราดยิงโคราชและเป็นหนึ่งในคนที่อภิปรายเกี่ยวกับการแก้ไขระบบและรัฐธรรมนูญ

นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ในกรรมาธิการหลายชุด

- ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนฯ

- กมธ.วิสามัญ พิจารณาศึกษาแนวทางในการบริหารจัดการการชำระหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา 

- โฆษก กมธ.วิสามัญ พิจารณาศึกษาแนวทางการควบคุมการใช้สารเคมีในภาคเกษตรกรรม สภาผู้แทนฯ

 

วิสัยทัศน์ของหมออ๋องเสนอหลักการ 3 ป.

โดยหมออ๋องมีความตั้งใจอยากผลักดันระบบรัฐสภาของไทยให้ก้าวหน้าที่สุดในเอเชียทั้งในแง่ การออกกฏหมาย วัฒนธรรมองค์กร สภาต้องเป็นสภาของประชาชน
และรัฐสภาต้องไม่ถูกครอบงำโดยฝ่ายบริหาร ไม่เลือกปฏิบัติหรือโอนอ่อนตามพรรคการเมือง

ส่วนหลักการ 3 ป. คือ ประสิทธิภาพ โปร่งใส ประชาชน

1. ประสิทธิภาพในการทำงาน

2. สามารถตรวจสอบการทำงานได้

3. ประชาชน สามารถเข้าถึงระบบรัฐสภาได้ง่าย

 

ส่วนประเด็นเรื่อง วัยวุฒิ ว่าเหมาะสมกับตำแหน่งประธานสภาไหม ?
หมออ๋องแสดงความคิดเห็นไว้ว่า ส.ส.อายุน้อยสุดที่เข้าสภา อายุ 27 ปี จากพรรคเพื่อไทย 1 คน และจากพรรคก้าวไกล 2 คน
ผมอายุ 42 ก็เป็นรุ่นน้า แต่ถ้าเทียบกับคน 60 ปี ผมเป็นรุ่นน้อง และถ้าเทียบกับคนอายุ 70 ปี ผมเป็นรุ่นลูก ผมคิดว่าผมเป็นคนกลางคนที่สามารถเป็นประธานสภาได้
เพราะว่าผมจะเป็นคนประสานที่ดี

related